จากที่อาจารย์รู้ผมและเพื่อนๆจะไม่ค่อยมาคาบเช้าถึงแม้บางครั้งจะมาก็สายต translation - จากที่อาจารย์รู้ผมและเพื่อนๆจะไม่ค่อยมาคาบเช้าถึงแม้บางครั้งจะมาก็สายต Thai how to say

จากที่อาจารย์รู้ผมและเพื่อนๆจะไม่ค่

จากที่อาจารย์รู้ผมและเพื่อนๆจะไม่ค่อยมาคาบเช้าถึงแม้บางครั้งจะมาก็สายตลอดหรือไม่ก็จวนจะหมดคาบแล้วซึ่งทำให้ผมไม่ได้รับความรู้มากพอที่จะไปทำงานต่างๆที่อาจารย์สั่ง ซึ่งพอมาคิดแล้วก็อยากย้อนไปเรียนเพราะสิ่งที่อาจารย์สอนไปเพราะทั้งหมดมันใช้ได้จริงในชีวิตประจำวันซึ่งเรื่องแรกที่ผมเห็นว่าสำคัญเรื่องหนึ่งคือ design process อย่างที่บอกไปตอนแรกผมไม่ค่อยได้มาเรียนจึงทำให้ผมไม่ค่อยรู้เรื่องแต่เมื่อวานนี้ผมลองกลับไปนั่งอ่านslideของdesign process ทำให้ผมสรุปออกมาได้ดังนี้ design process มีหลักๆอยู่5ขั้นตอน อันแรกคือ problem finding อันนี้ถือว่าสำคัญมากเพราะว่าเราจะไม่สามารถรู้ได้เลยว่าproduct ที่เราทำมาจะสนองต่อความต้องการของคนถ้าเราไม่รู้ปัญหา อย่างprojectแรกผมได้เสนอ night life ซึ่งตอนแรกมีแต่ความคิดสนุกๆเพราะกลุ่มผมชอบไปเที่ยวไปดื่มข้างนอกทำให้คิดว่าคนตาบอดก็อยากไปด้วยแต่พอไปถามมาแล้วผลก็คือไม่ได้เป็นปัญหาที่แท้จริง อันต่อมาคือ research problem หลักของหัวข้อนี้คือการที่ได้ปัญหาจากขั้นแรกแล้วมาวิเคราะห์ ศึกษา และสัมภาษณ์จากคนที่เราสนใจจริงๆซึ่งแบ่งอีกเป็น4หัวข้อคือ 1people to learn from 2experts to speak to 3in context location 4secondary research ซึ่งวันที่เราได้ไปโรงเรียนคนตาบอดเราได้เลิกทำproject night life แล้วได้เปลี่ยนเป็น การเดินในบ้านของคนตาบอดซึ่งproject นี้ผมได้คิดว่าการเดินในบ้านนั้นมันมีปัญหาเพราะผมลองหลับตาแล้วเดินยังจำทางไม่ค่อยได้รวมไปถึงพอไปที่นั้นแล้วเห็นเขาเดินจับมือกันไปที่โรงอาหารแต่จริงๆแล้วพวกเขามีความเชี่ยวชาญด้านการจำและยังมีอุปกรณ์ช่วยเดินซึ่งสิ่งที่ผมคิดมาก็ต้องเปลี่ยนใหม่ อันต่อมาคือ grow insight จะเกี่ยวกับการถามคำถามกับเป้าหมายซึ่งแบ่งเป็น2แบบคือ open general กับ go deep ซึ่ง open general จะต่างกับ go deep ตรงที่ open general จะเป็นการถามเรื่องทั่วๆไปก่อนเพื่อที่จะทำให้เป้าหมายของเราผ่อนคลายไม่เครียดแล้วค่อยถามเรื่องที่เราต้องการศึกษา อย่างกลุ่มผมตอนแรกที่ไปจะแค่สังเกตการเดินเบื้องต้นก่อนแล้วค่อยเข้าไปชวนคุยแล้วถามคำถามที่เราเตรียมมา ส่วนต่อไปคือ develop ideas ส่วนนี้จะเป็นการนำทุกๆอย่างที่ทำมาไปคิดเป็น product โดยที่เราจะใช้ how might we มาช่วยตั้งคำถาม ซึ่งhmw ของผมตอนนั้นเพื่อที่จะ support our product ก่อนที่จะนำไป test จริง ส่วนสุดท้ายคือ test ในส่วนนี้จะเป็นส่วนที่จะนำ product ไปtest แล้วนำเอา feedback ของคนที่ได้ทดลองไปปรับหรือพัฒนาเพิ่ม เรื่องต่อมาที่สำคัญไม่แพ้กันคือ inclusive design เรื่องนี้จะเกี่ยวกับการออกแบบซึ่งต่างจากการออกแบบทั่วๆไปตรงที่ออกแบบเพื่อทุกคนและสามารถเข้าถึงคนส่วนมากให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้เพราะจากตารางของbrief history จะเห็นได้ว่าdesignต่างๆมักจะลงไปที่main market ซึ่งก็คือคนปกติทั่วไปทำให้คนที่ไม่สมบูรณ์หลายคนไม่อาจได้รับความสะดวกสบายเหมือนเรา เราจึงควรที่จะลบ barrier ที่มีอยู่แล้วสนใจคนที่ไม่สมบูรณ์มากขึ้นจึงทำให้กลายเป็น inclusive design for all
สำหรับprojectที่กลุ่มผมทำนั้นมีหลากหลายมากซึ่งงานแรกคือเที่ยวกลางคืนซึ่งตอนแรกหลังจากที่ได้ทำการแบ่งกลุ่มแล้วผมได้อยู่กับเพื่อนผมตอนแรกก็รู้สึกสนุกสนานเพราะว่าไม่ต้องกังวลเพราะเป็นเพื่อนกันงานน่าจะไปได้ราบลื่นเพราะมีไรก็พูดกันตรงๆไม่ต้องเกรงใจคนอื่นเค้า พองานแรกมาถึงงานแรกที่พวกผมคิดกันคือเที่ยวกลางคืน ตอนแรกที่จะทำก็ไม่ได้คิดไรกันมากเพราะเอาความสนุกเป็นที่ตั้งโดยที่ไม่ได้คำนึงอะไรเลยแต่พอคิดไปคิดมารวมไปถึงอาจารย์เข้ามาให้คำปรึกษาจึงพบว่ามีปัญหามากมายและพบว่ามันเป็นปัญหาของเรามากกว่าปัญหาคนอื่น งานนี้จึงยกไป ส่วนงานต่อมาที่ทำคือapplication ที่ช่วยให้คนตาบอดไม่ต้องไปไหนมาไหนคนเดียวเพราะที่ไปสัมภาษณ์กันมาคนตาบอดจะมีปัญหาเวลาไปไหนมาไหนคนเดียว เช่นการเดินทาง พื้นต่างระดับ เราจึงคิดว่าเป็นปัญหาจริงๆ จึงได้ลงมือทำกันและหวังในงานนี้มากเพราะทุกคนเหนื่อยมากตั้งใจมาก แต่ก็มีปัญหาตรงที่อาสาสมัคร ใครอยากจะมาทำแม้กระทั่งผมผมยังไม่อยากไปเลย และงานนี้มีจุดบอดเยอะมากทำให้ไม่สามารถนำไปพัฒนาต่อได้แล้วก็มาถึงงานสุดท้ายคือแก้วน้ำ งานนี้พวกเราเริ่มลองคิดจากปัญหาเล็กๆเช่น การนอน การกิน จนไปได้ปัญหาการเทน้ำ ซึ่งคนตาบอดมีปัญหาแน่นอนเพราะมองไม่เห็น เราจึงได้ไปทำการสำรวจ หลายคนต้องมีคนเทให้ไม่ก็เอาหูแนบเพื่อฟังเสียงน้ำแม้กระทั่งเอานิ้วจุ่มเพื่อวัดระดับน้ำ แต่ถ้าเป็นน้ำร้อนก็มีปัญหาตามมาอีก ซึ่งเราจึงได้ทำเป็นแก้วน้ำที่มีไม้เพื่อให้รู้ว่าน้ำถึงระดับไหนแล้ว ทุกอย่างเหมือนจะดีแต่ดันไปเหมือนกับในเน็ตงานนี้ก็จึงถูกยกไปอีก จากprojectทั้งหมดที่ผมทำมามันทำให้ผมได้อะไรหลายๆอย่างผมรู้ข้อผิดพลาดของตัวเองมากขึ้นเริ่มตั้งแต่การไม่เข้าห้อง ไม่ตั้งใจเรียน จนทำให้ต้องมาเหนื่อยเอาช่วงหลังซึ่งถ้าย้อนไปได้คงจะแก้ให้มันดีขึ้น แต่ก็ได้อะไรดีๆหลายอย่างเช่นการทำงานกลุ่ม ได้ลองคิดอะไรใหม่ๆ ลองทำอะไรใหม่ๆถึงแม้ผมจะไม่ค่อยชอบ design แต่งานนี้ก็ทำให้ผมได้รู้ว่าdesign ก็เป็นเรื่องที่สำคัญ
0/5000
From: -
To: -
Results (Thai) 1: [Copy]
Copied!
จากที่อาจารย์รู้ผมและเพื่อนๆจะไม่ค่อยมาคาบเช้าถึงแม้บางครั้งจะมาก็สายตลอดหรือไม่ก็จวนจะหมดคาบแล้วซึ่งทำให้ผมไม่ได้รับความรู้มากพอที่จะไปทำงานต่างๆที่อาจารย์สั่งซึ่งพอมาคิดแล้วก็อยากย้อนไปเรียนเพราะสิ่งที่อาจารย์สอนไปเพราะทั้งหมดมันใช้ได้จริงในชีวิตประจำวันซึ่งเรื่องแรกที่ผมเห็นว่าสำคัญเรื่องหนึ่งคือการออกแบบกระบวนการ อย่างที่บอกไปตอนแรกผมไม่ค่อยได้มาเรียนจึงทำให้ผมไม่ค่อยรู้เรื่องแต่เมื่อวานนี้ผมลองกลับไปนั่งอ่านslideของdesign กระบวนการทำให้ผมสรุปออกมาได้ดังนี้ออกแบบกระบวนการ มีหลักๆอยู่5ขั้นตอน อันแรกคือปัญหาค้นหาอันนี้ถือว่าสำคัญมากเพราะว่าเราจะไม่สามารถรู้ได้เลยว่าproduct ที่เราทำมาจะสนองต่อความต้องการของคนถ้าเราไม่รู้ปัญหา อย่างprojectแรกผมได้เสนอ คืนชีวิตซึ่งตอนแรกมีแต่ความคิดสนุกๆเพราะกลุ่มผมชอบไปเที่ยวไปดื่มข้างนอกทำให้คิดว่าคนตาบอดก็อยากไปด้วยแต่พอไปถามมาแล้วผลก็คือไม่ได้เป็นปัญหาที่แท้จริงอันต่อมาคือวิจัยปัญหาหลักของหัวข้อนี้คือการที่ได้ปัญหาจากขั้นแรกแล้วมาวิเคราะห์ศึกษา และสัมภาษณ์จากคนที่เราสนใจจริงๆซึ่งแบ่งอีกเป็น4หัวข้อคือ 1people เรียนจาก 2experts พูดใน 3 บริบทสถาน 4secondary วิจัยซึ่งวันที่เราได้ไปโรงเรียนคนตาบอดเราได้เลิกทำproject คืนชีวิตแล้วได้เปลี่ยนเป็น การเดินในบ้านของคนตาบอดซึ่งproject นี้ผมได้คิดว่าการเดินในบ้านนั้นมันมีปัญหาเพราะผมลองหลับตาแล้วเดินยังจำทางไม่ค่อยได้รวมไปถึงพอไปที่นั้นแล้วเห็นเขาเดินจับมือกันไปที่โรงอาหารแต่จริงๆแล้วพวกเขามีความเชี่ยวชาญด้านการจำและยังมีอุปกรณ์ช่วยเดินซึ่งสิ่งที่ผมคิดมาก็ต้องเปลี่ยนใหม่อันต่อมาคือเติบโตเข้าใจ จะเกี่ยวกับการถามคำถามกับเป้าหมายซึ่งแบ่งเป็น2แบบคือ เปิดทั่วไปดื่มด่ำไปลึกซึ่งเปิดจะต่างกับทั่วไปตรงที่ลึกเปิดทั่วไปจะเป็นการถามเรื่องทั่วๆไปก่อนเพื่อที่จะทำให้เป้าหมายของเราผ่อนคโดยที่เราจะใช้ส่วนนี้จะเป็นการนำทุกๆอย่างที่ทำมาไปคิดเป็นผลิตภัณฑ์วิธีอาจเราคิดพัฒนาลายไม่เครียดแล้วค่อยถามเรื่องที่เราต้องการศึกษาอย่างกลุ่มผมตอนแรกที่ไปจะแค่สังเกตการเดินเบื้องต้นก่อนแล้วค่อยเข้าไปชวนคุยแล้วถามคำถามที่เราเตรียมมาส่วนต่อไปคือมาช่วยตั้งคำถาม ซึ่งhmw ของผมตอนนั้นเพื่อที่จะสนับสนุนของผลิตภัณฑ์ก่อนที่จะนำไปทดสอบจริงส่วนสุดท้ายคือทดสอบในส่วนนี้จะเป็นส่วนที่จะนำผลิตภัณฑ์ ไปtest แล้วนำเอาความคิดเห็นของคนที่ได้ทดลองไปปรับหรือพัฒนาเพิ่มเรื่องต่อมาที่สำคัญไม่แพ้กันคือออกแบบรวมเรื่องนี้จะเกี่ยวกับการออกแบบซึ่งต่างจากการออกแบบทั่วๆไปตรงที่ออกแบบเพื่อทุกคนและสามารถเข้าถึงคนส่วนมากให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้เพราะจากตารางของbrief ประวัติศาสตร์ จะเห็นได้ว่าdesignต่างๆมักจะลงไปที่main ตลาดซึ่งก็คือคนปกติทั่วไปทำให้คนที่ไม่สมบูรณ์หลายคนไม่อาจได้รับความสะดวกสบายเหมือนเราเราจึงควรที่จะลบรทที่มีอยู่แล้วสนใจคนที่ไม่สมบูรณ์มากขึ้นจึงทำให้กลายเป็นรวมออกแบบทั้งหมดสำหรับprojectที่กลุ่มผมทำนั้นมีหลากหลายมากซึ่งงานแรกคือเที่ยวกลางคืนซึ่งตอนแรกหลังจากที่ได้ทำการแบ่งกลุ่มแล้วผมได้อยู่กับเพื่อนผมตอนแรกก็รู้สึกสนุกสนานเพราะว่าไม่ต้องกังวลเพราะเป็นเพื่อนกันงานน่าจะไปได้ราบลื่นเพราะมีไรก็พูดกันตรงๆไม่ต้องเกรงใจคนอื่นเค้า พองานแรกมาถึงงานแรกที่พวกผมคิดกันคือเที่ยวกลางคืน ตอนแรกที่จะทำก็ไม่ได้คิดไรกันมากเพราะเอาความสนุกเป็นที่ตั้งโดยที่ไม่ได้คำนึงอะไรเลยแต่พอคิดไปคิดมารวมไปถึงอาจารย์เข้ามาให้คำปรึกษาจึงพบว่ามีปัญหามากมายและพบว่ามันเป็นปัญหาของเรามากกว่าปัญหาคนอื่น งานนี้จึงยกไป ส่วนงานต่อมาที่ทำคือapplication ที่ช่วยให้คนตาบอดไม่ต้องไปไหนมาไหนคนเดียวเพราะที่ไปสัมภาษณ์กันมาคนตาบอดจะมีปัญหาเวลาไปไหนมาไหนคนเดียว เช่นการเดินทาง พื้นต่างระดับ เราจึงคิดว่าเป็นปัญหาจริงๆ จึงได้ลงมือทำกันและหวังในงานนี้มากเพราะทุกคนเหนื่อยมากตั้งใจมาก แต่ก็มีปัญหาตรงที่อาสาสมัคร ใครอยากจะมาทำแม้กระทั่งผมผมยังไม่อยากไปเลย และงานนี้มีจุดบอดเยอะมากทำให้ไม่สามารถนำไปพัฒนาต่อได้แล้วก็มาถึงงานสุดท้ายคือแก้วน้ำ งานนี้พวกเราเริ่มลองคิดจากปัญหาเล็กๆเช่น การนอน การกิน จนไปได้ปัญหาการเทน้ำ ซึ่งคนตาบอดมีปัญหาแน่นอนเพราะมองไม่เห็น เราจึงได้ไปทำการสำรวจ หลายคนต้องมีคนเทให้ไม่ก็เอาหูแนบเพื่อฟังเสียงน้ำแม้กระทั่งเอานิ้วจุ่มเพื่อวัดระดับน้ำ แต่ถ้าเป็นน้ำร้อนก็มีปัญหาตามมาอีก ซึ่งเราจึงได้ทำเป็นแก้วน้ำที่มีไม้เพื่อให้รู้ว่าน้ำถึงระดับไหนแล้ว ทุกอย่างเหมือนจะดีแต่ดันไปเหมือนกับในเน็ตงานนี้ก็จึงถูกยกไปอีก จากprojectทั้งหมดที่ผมทำมามันทำให้ผมได้อะไรหลายๆอย่างผมรู้ข้อผิดพลาดของตัวเองมากขึ้นเริ่มตั้งแต่การไม่เข้าห้อง ไม่ตั้งใจเรียน จนทำให้ต้องมาเหนื่อยเอาช่วงหลังซึ่งถ้าย้อนไปได้คงจะแก้ให้มันดีขึ้น แต่ก็ได้อะไรดีๆหลายอย่างเช่นการทำงานกลุ่ม ได้ลองคิดอะไรใหม่ๆ ลองทำอะไรใหม่ๆถึงแม้ผมจะไม่ค่อยชอบ design แต่งานนี้ก็ทำให้ผมได้รู้ว่าdesign ก็เป็นเรื่องที่สำคัญ
Being translated, please wait..
Results (Thai) 2:[Copy]
Copied!
ขั้นตอนการออกแบบ กระบวนการทำให้ผมสรุปออกมาได้ดังนี้ขั้นตอนการออกแบบมีหลัก ๆ อยู่ 5 ขั้นตอนอันแรกคือการค้นพบปัญหา อย่างโครงการแรกผมได้เสนอชีวิตกลางคืน อันต่อมาคือปัญหาการวิจัย ศึกษา 1people จะเรียนรู้จาก 2experts เพื่อพูดคุยกับ 3in สถานบริบทวิจัย 4secondary คืนชีวิตแล้วได้เปลี่ยนเป็นการเดินในบ้านของคนตาบอดซึ่งโครงการ อันต่อมาคือการเติบโตของความเข้าใจ เปิดทั่วไปกับไปลึกซึ่งเปิดทั่วไปจะต่างกับไปลึกทั่วไปตรงที่เปิด ส่วนต่อไปคือการพัฒนาความคิด ผลิตภัณฑ์โดยที่เราจะใช้วิธีการที่เราจะมาช่วยตั้งคำถามซึ่ง HMW ของผมตอนนั้นเพื่อที่จะให้การสนับสนุนผลิตภัณฑ์ของเราก่อนที่จะนำไปทดสอบจริงส่วนสุดท้ายคือการทดสอบในส่วนนี้จะเป็นส่วนที่จะนำผลิตภัณฑ์ไปทดสอบแล้วนำ เอาข้อเสนอแนะ เรื่องต่อมาที่สำคัญไม่แพ้กันคือการออกแบบรวม ประวัติศาสตร์จะเห็นได้ว่าการออกแบบต่างๆมักจะลงไปที่ตลาดหลัก เราจึงควรที่จะลบอุปสรรค การออกแบบอย่างสำหรับ
งานนี้จึงยกไปส่วนงานต่อมาที่ทำคือการประยุกต์ใช้ เช่นการเดินทางพื้นต่างระดับเราจึงคิดว่าเป็นปัญหาจริงๆ แต่ก็มีปัญหาตรงที่อาสาสมัคร การนอนการกินจนไปได้ปัญหาการเทน้ำ เราจึงได้ไปทำการสำรวจ ไม่ตั้งใจเรียน ได้ลองคิดอะไรใหม่ ๆ ออกแบบ แต่งานนี้ก็ทำให้ผมได้รู้ว่าการออกแบบก็เป็นเรื่องที่สำคัญ
Being translated, please wait..
Results (Thai) 3:[Copy]
Copied!
จากที่อาจารย์รู้ผมและเพื่อนๆจะไม่ค่อยมาคาบเช้าถึงแม้บางครั้งจะมาก็สายตลอดหรือไม่ก็จวนจะหมดคาบแล้วซึ่งทำให้ผมไม่ได้รับความรู้มากพอที่จะไปทำงานต่างๆที่อาจารย์สั่งการออกแบบกระบวนการอย่างที่บอกไปตอนแรกผมไม่ค่อยได้มาเรียนจึงทำให้ผมไม่ค่อยรู้เรื่องแต่เมื่อวานนี้ผมลองกลับไปนั่งอ่านสไลด์ของการออกแบบกระบวนการทำให้ผมสรุปออกมาได้ดังนี้การออกแบบกระบวนการมีหลักๆอยู่ 5 ปัญหาอันแรกคือแนะนำและอำนวยการค้นหาที่เราทำมาจะสนองต่อความต้องการของคนถ้าเราไม่รู้ปัญหาอย่าง project แรกผมได้เสนอ night lifeปัญหาการวิจัยอันต่อมาคือหลักของหัวข้อนี้คือการที่ได้ปัญหาจากขั้นแรกแล้วมาวิเคราะห์ศึกษาและสัมภาษณ์จากคนที่เราสนใจจริงๆซึ่งแบ่งอีกเป็น 4 หัวข้อคือ 1people เรียนรู้จาก 2experts คุยกับ 3in วิจัย 4secondary ที่ตั้งบริบทโครงการการเดินในบ้านของคนตาบอดซึ่งแล้วได้เปลี่ยนเป็นคืนชีวิตนี้ผมได้คิดว่าการเดินในบ้านนั้นมันมีปัญหาเพราะผมลองหลับตาแล้วเดินยังจำทางไม่ค่อยได้รวมไปถึงพอไปที่นั้นแล้วเห็นเขาเดินจับมือกันไปที่โรงอาหารแต่จริงๆแล้วพวกเขามีความเชี่ยวชาญด้านการจำและยังมีอุปกรณ์ช่วยเดินซึ่งสิ่งที่ผมคิดมาก็ต้องเปลี่ยนใหม่อันต่อมาคือเติบโตลึกจะเกี่ยวกับการถามคำถามกับเป้าหมายซึ่งแบ่งเป็น 2 แบบคือเปิดทั่วไปกับไปลึกซึ่งเปิดทั่วไปจะต่างกับไปตรงที่ลึกเปิดทั่วไปอย่างกลุ่มผมตอนแรกที่ไปจะแค่สังเกตการเดินเบื้องต้นก่อนแล้วค่อยเข้าไปชวนคุยแล้วถามคำถามที่เราเตรียมมาส่วนต่อไปคือพัฒนาความคิดโดยที่เราจะใช้ผลิตภัณฑ์ส่วนนี้จะเป็นการนำทุกๆอย่างที่ทำมาไปคิดเป็นอย่างไรเราซึ่ง HMW ของผมตอนนั้นเพื่อที่จะสนับสนุนผลิตภัณฑ์ของเราก่อนที่จะนำไปทดสอบทดสอบทดสอบผลิตภัณฑ์จริงส่วนสุดท้ายคือในส่วนนี้จะเป็นส่วนที่จะนำไปแล้วนำเอาความคิดเห็นของคนที่ได้ทดลองไปปรับหรือพัฒนาเพิ่มเรื่องต่อมาที่สำคัญไม่แพ้กันคือรวมเรื่องนี้จะเกี่ยวกับการออกแบบซึ่งต่างจากการออกแบบทั่วๆไปตรงที่ออกแบบเพื่อทุกคนและสามารถเข้าถึงคนส่วนมากให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้เพราะจากตารางของประวัติจะเห็นได้ว่าออกแบบต่างๆมักจะลงไปที่ตลาดหลักเราจึงควรที่จะลบกั้นที่มีอยู่แล้วสนใจคนที่ไม่สมบูรณ์มากขึ้นจึงทำให้กลายเป็นรวมออกแบบทั้งหมด
โครงการที่กลุ่มผมทำนั้นมีหลากหลายมากซึ่งงานแรกคือเที่ยวกลางคืนซึ่งตอนแรกหลังจากที่ได้ทำการแบ่งกลุ่มแล้วผมได้อยู่กับเพื่อนผมตอนแรกก็รู้สึกสนุกสนานเพราะว่าไม่ต้องกังวลเพราะเป็นเพื่อนกันงานน่าจะไปได้รสำหรับาบลื่นเพราะมีไรก็พูดกันตรงๆไม่ต้องเกรงใจคนอื่นเค้าพองานแรกมาถึงงานแรกที่พวกผมคิดกันคือเที่ยวกลางคืนงานนี้จึงยกไปส่วนงานต่อมาที่ทำคือโปรแกรมที่ช่วยให้คนตาบอดไม่ต้องไปไหนมาไหนคนเดียวเพราะที่ไปสัมภาษณ์กันมาคนตาบอดจะมีปัญหาเวลาไปไหนมาไหนคนเดียวเช่นการเดินทางพื้นต่างระดับเราจึงคิดว่าเป็นปัญหาจริงๆแต่ก็มีปัญหาตรงที่อาสาสมัครใครอยากจะมาทำแม้กระทั่งผมผมยังไม่อยากไปเลยและงานนี้มีจุดบอดเยอะมากทำให้ไม่สามารถนำไปพัฒนาต่อได้แล้วก็มาถึงงานสุดท้ายคือแก้วน้ำงานนี้พวกเราเริ่มลองคิดจากปัญหาเล็กๆเช่น
Being translated, please wait..
 
Other languages
The translation tool support: Afrikaans, Albanian, Amharic, Arabic, Armenian, Azerbaijani, Basque, Belarusian, Bengali, Bosnian, Bulgarian, Catalan, Cebuano, Chichewa, Chinese, Chinese Traditional, Corsican, Croatian, Czech, Danish, Detect language, Dutch, English, Esperanto, Estonian, Filipino, Finnish, French, Frisian, Galician, Georgian, German, Greek, Gujarati, Haitian Creole, Hausa, Hawaiian, Hebrew, Hindi, Hmong, Hungarian, Icelandic, Igbo, Indonesian, Irish, Italian, Japanese, Javanese, Kannada, Kazakh, Khmer, Kinyarwanda, Klingon, Korean, Kurdish (Kurmanji), Kyrgyz, Lao, Latin, Latvian, Lithuanian, Luxembourgish, Macedonian, Malagasy, Malay, Malayalam, Maltese, Maori, Marathi, Mongolian, Myanmar (Burmese), Nepali, Norwegian, Odia (Oriya), Pashto, Persian, Polish, Portuguese, Punjabi, Romanian, Russian, Samoan, Scots Gaelic, Serbian, Sesotho, Shona, Sindhi, Sinhala, Slovak, Slovenian, Somali, Spanish, Sundanese, Swahili, Swedish, Tajik, Tamil, Tatar, Telugu, Thai, Turkish, Turkmen, Ukrainian, Urdu, Uyghur, Uzbek, Vietnamese, Welsh, Xhosa, Yiddish, Yoruba, Zulu, Language translation.

Copyright ©2024 I Love Translation. All reserved.

E-mail: