บทสรุปและข้อเสนอแนะ : เมื่อสังคมไทย

บทสรุปและข้อเสนอแนะ : เมื่อสังคมไทยก้าวเข้าสู่ยุคเทคโนโลยีสารสนเทศอย่างเต็มตัว
จากที่กล่าวมาทั้งหมดบทความชิ้นนี้มุ่งที่จะทาความเข้าใจถึงกระแสธารการเปลี่ยนแปลงของสังคมไทย

ภายใต้ยุคโลกาภิวัตน์ ยุคที่นาพาสังคมไทยไปสู่การเกิดขึ้นของพื้นที่แบบใหม่/ชุมชนแบบใหม่ ซึ่งก็คือสังคม ออนไลน์ ในที่สุดแล้วได้นาพาสังคมไทยเปลี่ยนแปลงไปในหลากหลายมิติ
อย่างไรก็ตามสังคมไทยยังอยู่ในยุคนี้ไปอีกนาน เรายังคงสามารถติดต่อสื่อสารกันได้อย่างรวดเร็วอย่างไร้ เส้นพรมแดนต่างๆ ไร้ซึ่งกรอบของเวลาและสถานที่ สังคมไทยยังคงอยู่ในยุคนี้จนกว่าจะมีการปฏิวัติเทคโนโลยี ครั้งใหม่ในอนาคต ซึ่งอาจจะเกิดขึ้นหรือไม่เกิดขึ้นนั้นยังไม่แน่ชัด หรือจนกว่าโลกของเราจะไม่มีเทคโนโลยี สารสนเทศใช้ ซึ่งก็ไม่แน่ชัดอีกเช่นกันว่าจะเกิดขึ้นหรือไม่
10
คาถามสาคัญคือ สังคมไทยจะอยู่กับยุคดังกล่าวนี้อย่างไร ผู้เขียนได้สรุปและทดลองเสนอแนะการ ปรับตัวของสังคมไทยทั้งหมด ๒ ประเด็น สาหรับเป็นแนวทางในการก้าวเดินต่อไปของสังคมไทยภายใต้กระแส ธารการเปลี่ยนแปลงในยุคนี้
(๑) การเกิดขึ้นของพื้นที่แบบใหม่/ชุมชนแบบใหม่นั้นในปัจจุบันเป็นพื้นที่ของชนชั้นกลาง สิ่งหนึ่งที่ สังคมไทยต้องช่วยสนับสนุนและผลักดันคือ การทาให้พื้นที่แบบใหม่/ชุมชนแบบใหม่ง่ายต่อการเข้าถึงต่อคนทุก ชนชั้น เพื่อเพิ่มโอกาสให้คนทุกคนได้มีพื้นที่ในการแสดงออก รับรู้ข้อมูลข่าวสาร ข้อเท็จจริง ได้อย่างเท่าเทียมกัน อีกทั้งยังเป็นการผลักดันให้สังคมออกห่างจากสังคมที่ตั้งรับข้อมูล ข่าวสาร และความจริงเพียงชุดเดียว อันจะเป็น ผลให้คนในสังคมมีทักษะในการคิดการวิเคราะห์ ไปจนถึงการวิพากษ์วิจารณ์ นอกจากนี้ความง่ายต่อการเข้าถึง พื้นที่แบบใหม่/ชุมชนแบบใหม่ จะทาให้ตัวแสดงในสังคมที่ไม่เคยถูกยอมรับ หรือเป็นส่วนที่ถูกนับเพื่อที่จะไม่นับ รวมให้เป็นส่วน(ไชยรัตน์ เจริญสินโอฬาร, ๒๕๕๓) ได้มีพื้นที่ในการบอกเล่าเรื่องราวของเขา ความต้องการของ
เขา รวมถึงการมีอยู่ของตัวตนเขาให้สังคมได้รับรู้
(๒) ในอนาคตนั้นมีความเป็นไปได้ว่าจานวนผู้ใช้อินเตอร์เน็ตจะเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ ะนั้นเท่ากับว่า จานวนตัวแสดงในสังคมออนไลน์ก็จะเพิ่มตามไปด้วย การแสดงออกใน social media ซึ่งวางอยู่บนฐานของ อิสรภาพและเสรีภาพ อาจทาให้เกิดความขัดแย้งระหว่างกันได้มาก ะนั้นสิ่งที่สังคมไทยต้องเรียนรู้และต้อง ปรับตวั คือ การทาความเข้าใจต่อความแตกต่างหลากหลายว่าเป็นเรื่องพื้นฐานของสังคมมนุษย์ในระบอบ ประชาธิปไตย กล่าวคือ ในปัจจุบันสังคมไทยยังคงเชื่อในความเป็นหนึ่งเดียวกัน ทั้งแนวคิดเรื่อง ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ไปจนถึงเรื่องวัฒนธรรม วิถีปฏิบัติ สังคมไทยยังต้องการเห็นทุกคนสวมใส่อาภรณ์ในรูปแบบ เดียวกันสีเดียวกัน และรู้สึกทนไม่ได้ที่มีสิ่งแปลกปลอมเกิดขึ้นในสังคม ะนั้นแล้วจึงมีความจาเป็นอย่างยิ่งที่จะ สลาย ชุดความเช่ือนี้ลงเสีย เพื่อลดการปะทะกันอันเกิดจากกดทับ ปิดกั้นความแตกต่างหลากหลาย รวมทั้ง ส่งเสริมให้สังคมมีความอดทนต่อความเป็นอื่น ทั้งนี้ก็เพื่อที่จะตระหนักว่าเรากับเขาไม่เหมือนและเราก็ไม่ได้ ต้องการให้เขาเป็นแบบเดียวกันกับเรา เราและเขาต่างก็เข้าใจกัน ยอมรับ ให้เกียรติ และเคารพซึ่งสิทธิเสรีภาพ และศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ระหว่างกัน
ในที่สุดแล้ว การแสดงออกใน social media ทั้งในปัจจุบันและในอนาคตจะเป็นอย่างไร จะเป็น ‘โอกาส’ หรือว่าจะเป็น ‘ปัญหา’ สาหรับสังคมไทยนั้น ไม่ได้ขึ้นอยู่กับ ลักษณะร่วมของ social media ความ ยากง่ายต่อการเข้าถึง ความเร็วในการเชื่อมต่อ หรือการพัฒนาทางด้านเทคโนโลยี แค่เพียงส่วนเดียว ทว่าส่วน สาคัญขึ้นอยู่กับตัวผู้ใช้เองว่า จะใช้พื้นที่แบบใหม่/ชุมชนแบบใหม่นั้นอย่างไร
ผู้เขียนเชื่อว่า เทคโนโลยี ไม่เคยทาร้ายใคร คนนั่นแหละที่ทาร้ายกันเอง

Results (Thai) 1:

บทสรุปและข้อเสนอแนะ: เมื่อสังคมไทยก้าวเข้าสู่ยุคเทคโนโลยีสารสนเทศอย่างเต็มตัวจากที่กล่าวมาทั้งหมดบทความชิ้นนี้มุ่งที่จะทาความเข้าใจถึงกระแสธารการเปลี่ยนแปลงของสังคมไทยในที่สุดแล้วได้นาพาสังคมไทยเปลี่ยนแปลงไปในหลากหลายมิติภายใต้ยุคโลกาภิวัตน์ซึ่งก็คือสังคมยุคที่นาพาสังคมไทยไปสู่การเกิดขึ้นของพื้นที่แบบใหม่/ชุมชนแบบใหม่ออนไลน์อย่างไรก็ตามสังคมไทยยังอยู่ในยุคนี้ไปอีกนานเรายังคงสามารถติดต่อสื่อสารกันได้อย่างรวดเร็วอย่างไร้เส้นพรมแดนต่าง ๆ ไร้ซึ่งกรอบของเวลาและสถานที่สังคมไทยยังคงอยู่ในยุคนี้จนกว่าจะมีการปฏิวัติเทคโนโลยีครั้งใหม่ในอนาคตซึ่งอาจจะเกิดขึ้นหรือไม่เกิดขึ้นนั้นยังไม่แน่ชัดหรือจนกว่าโลกของเราจะไม่มีเทคโนโลยีสารสนเทศใช้ซึ่งก็ไม่แน่ชัดอีกเช่นกันว่าจะเกิดขึ้นหรือไม่10คาถามสาคัญคือสังคมไทยจะอยู่กับยุคดังกล่าวนี้อย่างไรผู้เขียนได้สรุปและทดลองเสนอแนะการปรับตัวของสังคมไทยทั้งหมด ๒ ประเด็นสาหรับเป็นแนวทางในการก้าวเดินต่อไปของสังคมไทยภายใต้กระแสธารการเปลี่ยนแปลงในยุคนี้(๑) การเกิดขึ้นของพื้นที่แบบใหม่/ชุมชนแบบใหม่นั้นในปัจจุบันเป็นพื้นที่ของชนชั้นกลางสิ่งหนึ่งที่สังคมไทยต้องช่วยสนับสนุนและผลักดันคือชนชั้นการทาให้พื้นที่แบบใหม่/ชุมชนแบบใหม่ง่ายต่อการเข้าถึงต่อคนทุกเพื่อเพิ่มโอกาสให้คนทุกคนได้มีพื้นที่ในการแสดงออกรับรู้ข้อมูลข่าวสารข้อเท็จจริงได้อย่างเท่าเทียมกันอีกทั้งยังเป็นการผลักดันให้สังคมออกห่างจากสังคมที่ตั้งรับข้อมูลข่าวสารและความจริงเพียงชุดเดียวอันจะเป็นผลให้คนในสังคมมีทักษะในการคิดการวิเคราะห์ไปจนถึงการวิพากษ์วิจารณ์นอกจากนี้ความง่ายต่อการเข้าถึงพื้นที่แบบใหม่/ชุมชนแบบใหม่จะทาให้ตัวแสดงในสังคมที่ไม่เคยถูกยอมรับหรือเป็นส่วนที่ถูกนับเพื่อที่จะไม่นับรวมให้เป็นส่วน (ไชยรัตน์เจริญสินโอฬาร ๒๕๕๓) ได้มีพื้นที่ในการบอกเล่าเรื่องราวของเขาความต้องการของเขารวมถึงการมีอยู่ของตัวตนเขาให้สังคมได้รับรู้(๒) ในอนาคตนั้นมีความเป็นไปได้ว่าจานวนผู้ใช้อินเตอร์เน็ตจะเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ ะนั้นเท่ากับว่าจานวนตัวแสดงในสังคมออนไลน์ก็จะเพิ่มตามไปด้วยการแสดงออกในสังคมซึ่งวางอยู่บนฐานของอิสรภาพและเสรีภาพอาจทาให้เกิดความขัดแย้งระหว่างกันได้มากะนั้นสิ่งที่สังคมไทยต้องเรียนรู้และต้องปรับตวัคือการทาความเข้าใจต่อความแตกต่างหลากหลายว่าเป็นเรื่องพื้นฐานของสังคมมนุษย์ในระบอบประชาธิปไตยกล่าวคือในปัจจุบันสังคมไทยยังคงเชื่อในความเป็นหนึ่งเดียวกันทั้งแนวคิดเรื่องชาติศาสนาพระมหากษัตริย์ไปจนถึงเรื่องวัฒนธรรมวิถีปฏิบัติสังคมไทยยังต้องการเห็นทุกคนสวมใส่อาภรณ์ในรูปแบบเดียวกันสีเดียวกันและรู้สึกทนไม่ได้ที่มีสิ่งแปลกปลอมเกิดขึ้นในสังคมะนั้นแล้วจึงมีความจาเป็นอย่างยิ่งที่จะสลายชุดความเช่ือนี้ลงเสียเพื่อลดการปะทะกันอันเกิดจากกดทับปิดกั้นความแตกต่างหลากหลายรวมทั้งส่งเสริมให้สังคมมีความอดทนต่อความเป็นอื่นทั้งนี้ก็เพื่อที่จะตระหนักว่าเรากับเขาไม่เหมือนและเราก็ไม่ได้ต้องการให้เขาเป็นแบบเดียวกันกับเราเราและเขาต่างก็เข้าใจกันยอมรับให้เกียรติและเคารพซึ่งสิทธิเสรีภาพและศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ระหว่างกันในที่สุดแล้วการแสดงออกในสังคมทั้งในปัจจุบันและในอนาคตจะเป็นอย่างไรจะเป็น 'โอกาส' หรือว่าจะเป็น 'ปัญหา' สาหรับสังคมไทยนั้นไม่ได้ขึ้นอยู่กับลักษณะร่วมของสังคมการยากง่ายต่อการเข้าถึงความเร็วในการเชื่อมต่อหรือการพัฒนาทางด้านเทคโนโลยีแค่เพียงส่วนเดียวทว่าส่วนสาคัญขึ้นอยู่กับตัวผู้ใช้เองว่าจะใช้พื้นที่แบบใหม่/ชุมชนแบบใหม่นั้นอย่างไรผู้เขียนเชื่อว่าเทคโนโลยีไม่เคยทาร้ายใครคนนั่นแหละที่ทาร้ายกันเอง

Results (Thai) 2:

บทสรุปและข้อเสนอแนะ: ซึ่งก็คือสังคมออนไลน์ เส้นพรมแดนต่างๆไร้ซึ่งกรอบของเวลาและสถานที่ ครั้งใหม่ในอนาคต สารสนเทศใช้ ผู้เขียนได้สรุปและทดลองเสนอแนะการปรับตัวของสังคมไทยทั้งหมด 2 ประเด็น ธารการเปลี่ยนแปลงในยุคนี้(1) สิ่งหนึ่งที่ ชนชั้น รับรู้ข้อมูลข่าวสารข้อเท็จจริงได้อย่างเท่าเทียมกัน ข่าวสารและความจริงเพียงชุดเดียวอันจะเป็น ไปจนถึงการวิพากษ์วิจารณ์นอกจากนี้ความง่ายต่อการเข้าถึงพื้นที่แบบใหม่ / ชุมชนแบบใหม่ รวมให้เป็นส่วน (ไชยรัตน์เจริญสินโอฬาร, 2553) ต้องการของความเขา ะนั้นเท่ากับว่า การแสดงออกในสื่อสังคมซึ่งวางอยู่บนฐานของอิสรภาพและเสรีภาพ ปรับตวัคือ ประชาธิปไตยกล่าวคือ ทั้งแนวคิดเรื่องชาติศาสนาพระมหากษัตริย์ไปจนถึงเรื่องวัฒนธรรมวิถีปฏิบัติ เดียวกันสีเดียวกัน สลายชุดความเช่ือนี้ลงเสียเพื่อลดการปะทะกันอันเกิดจากกดทับปิดกั้นความแตกต่างหลากหลายรวมทั้ง เราและเขาต่างก็เข้าใจกันยอมรับให้เกียรติและเคารพซึ่งสิทธิเสรีภาพ การแสดงออกในสื่อสังคม จะเป็น 'โอกาส' หรือว่าจะเป็น 'ปัญหา' สาหรับสังคมไทยนั้นไม่ได้ขึ้นอยู่กับลักษณะร่วมของสื่อทางสังคมความยากง่ายต่อการเข้าถึงความเร็วในการเชื่อมต่อหรือการพัฒนาทางด้านเทคโนโลยีแค่เพียงส่วนเดียวท ว่าส่วนสาคัญขึ้นอยู่กับตัวผู้ใช้เองว่า เทคโนโลยีไม่เคยทาร้ายใครคนนั่นแหละที่ทาร้ายกันเอง

Results (Thai) 3:

บทสรุปและข้อเสนอแนะ : เมื่อสังคมไทยก้าวเข้าสู่ยุคเทคโนโลยีสารสนเทศอย่างเต็มตัว


จากที่กล่าวมาทั้งหมดบทความชิ้นนี้มุ่งที่จะทาความเข้าใจถึงกระแสธารการเปลี่ยนแปลงของสังคมไทยภายใต้ยุคโลกาภิวัตน์ยุคที่นาพาสังคมไทยไปสู่การเกิดขึ้นของพื้นที่แบบใหม่ / ชุมชนแบบใหม่ซึ่งก็คือสังคมออนไลน์ในที่สุดแล้วได้นาพาสังคมไทยเปลี่ยนแปลงไปในหลากหลายมิติ
อย่างไรก็ตามสังคมไทยยังอยู่ในยุคนี้ไปอีกนานเรายังคงสามารถติดต่อสื่อสารกันได้อย่างรวดเร็วอย่างไร้เส้นพรมแดนต่างๆไร้ซึ่งกรอบของเวลาและสถานที่สังคมไทยยังคงอยู่ในยุคนี้จนกว่าจะมีการปฏิวัติเทคโนโลยีซึ่งอาจจะเกิดขึ้นหรือไม่เกิดขึ้นนั้นยังไม่แน่ชัดหรือจนกว่าโลกของเราจะไม่มีเทคโนโลยีสารสนเทศใช้ซึ่งก็ไม่แน่ชัดอีกเช่นกันว่าจะเกิดขึ้นหรือไม่
 10
คาถามสาคัญคือสังคมไทยจะอยู่กับยุคดังกล่าวนี้อย่างไรผู้เขียนได้สรุปและทดลองเสนอแนะการปรับตัวของสังคมไทยทั้งหมด๒ประเด็นสาหรับเป็นแนวทางในการก้าวเดินต่อไปของสังคมไทยภายใต้กระแส( ๑ ) การเกิดขึ้นของพื้นที่แบบใหม่ / ชุมชนแบบใหม่นั้นในปัจจุบันเป็นพื้นที่ของชนชั้นกลางสิ่งหนึ่งที่สังคมไทยต้องช่วยสนับสนุนและผลักดันคือการทาให้พื้นที่แบบใหม่ / ชุมชนแบบใหม่ง่ายต่อการเข้าถึงต่อคนทุกชนชั้นรับรู้ข้อมูลข่าวสารข้อเท็จจริงได้อย่างเท่าเทียมกันอีกทั้งยังเป็นการผลักดันให้สังคมออกห่างจากสังคมที่ตั้งรับข้อมูลข่าวสารและความจริงเพียงชุดเดียวอันจะเป็นผลให้คนในสังคมมีทักษะในการคิดการวิเคราะห์นอกจากนี้ความง่ายต่อการเข้าถึงพื้นที่แบบใหม่ / ชุมชนแบบใหม่จะทาให้ตัวแสดงในสังคมที่ไม่เคยถูกยอมรับหรือเป็นส่วนที่ถูกนับเพื่อที่จะไม่นับรวมให้เป็นส่วน ( เจริญสินโอฬารไชยรัตน์ ,๒๕๕๓ ) ได้มีพื้นที่ในการบอกเล่าเรื่องราวของเขาความต้องการของรวมถึงการมีอยู่ของตัวตนเขาให้สังคมได้รับรู้

เขา( ๒ ) ในอนาคตนั้นมีความเป็นไปได้ว่าจานวนผู้ใช้อินเตอร์เน็ตจะเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆะนั้นเท่ากับว่าจานวนตัวแสดงในสังคมออนไลน์ก็จะเพิ่มตามไปด้วยการแสดงออกในสื่อสังคมซึ่งวางอยู่บนฐานของอิสรภาพและเสรีภาพะนั้นสิ่งที่สังคมไทยต้องเรียนรู้และต้องปรับตวัความการทาความเข้าใจต่อความแตกต่างหลากหลายว่าเป็นเรื่องพื้นฐานของสังคมมนุษย์ในระบอบประชาธิปไตยกล่าวคือทั้งแนวคิดเรื่องชาติศาสนาพระมหากษัตริย์ไปจนถึงเรื่องวัฒนธรรมวิถีปฏิบัติสังคมไทยยังต้องการเห็นทุกคนสวมใส่อาภรณ์ในรูปแบบเดียวกันสีเดียวกันและรู้สึกทนไม่ได้ที่มีสิ่งแปลกปลอมเกิดขึ้นในสังคมสลายชุดความเช่ือนี้ลงเสียเพื่อลดการปะทะกันอันเกิดจากกดทับปิดกั้นความแตกต่างหลากหลายรวมทั้งส่งเสริมให้สังคมมีความอดทนต่อความเป็นอื่นทั้งนี้ก็เพื่อที่จะตระหนักว่าเรากับเขาไม่เหมือนและเราก็ไม่ได้เราและเขาต่างก็เข้าใจกันยอมรับให้เกียรติและเคารพซึ่งสิทธิเสรีภาพและศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ระหว่างกัน
ในที่สุดแล้วการแสดงออกในสื่อสังคมทั้งในปัจจุบันและในอนาคตจะเป็นอย่างไรจะเป็น ' ' ' ' โอกาสหรือว่าจะเป็นปัญหาสาหรับสังคมไทยนั้นไม่ได้ขึ้นอยู่กับลักษณะร่วมของสื่อสังคมความยากง่ายต่อการเข้าถึงหรือการพัฒนาทางด้านเทคโนโลยีแค่เพียงส่วนเดียวทว่าส่วนสาคัญขึ้นอยู่กับตัวผู้ใช้เองว่าจะใช้พื้นที่แบบใหม่ / ชุมชนแบบใหม่นั้นอย่างไร
ผู้เขียนเชื่อว่าเทคโนโลยีไม่เคยทาร้ายใครคนนั่นแหละที่ทาร้ายกันเอง