by a load Q that is offset a certai

by a load Q that is offset a certain distance (known as the eccentricity) from the center of gravity of
the pile cap. For other projects, there may be property line constraints and the load must be offset a
certain distance (eccentricity) from the center of gravity of the pile cap.
One method commonly used to evaluate an eccentrically loaded pile cap is to use Eqs. 6.12 and 6.13.
It is assumed that the eccentrically loaded cap will cause the piles located under one side to carry a higher
load than as compared to the piles located on the opposite side of the pile cap. The first step in the procedure
is to ignore the piles, assume a rigid pile cap, and use a linear pressure distribution such as shown
in Fig. 6.16. The values of q′ and q′′ are then calculated by using Eqs. 6.12 and 6.13. The final step is to
proportion the pressure to an individual pile, such as shown in Fig. 6.16. A usual requirement is that the
load Q must be located within the middle 1/3 of the pile cap and Eqs. 6.12 and 6.13 are only valid for
this condition. The pile carrying the largest load (i.e., number 1 in Fig. 6.16) must not exceed its allowable
load capacity. Equations 6.12 and 6.13 can be used for an eccentricity in one direction (i.e., across
the width or length of the pile cap) or for an eccentricity in both pile cap directions.

Results (Thai) 1:

โดยโหลด Q ที่อยู่ตรงข้ามไกลบาง (เรียกว่าความเยื้องศูนย์กลางที่) จากแรงโน้มถ่วงของศูนย์ของกองทุน สำหรับโครงการอื่น ๆ อาจมีข้อจำกัดคุณสมบัติบรรทัด และต้องชดเชยโหลดบางระยะห่าง (ความเยื้องศูนย์กลาง) จากแรงโน้มถ่วงของศูนย์ของหมวกกองวิธีหนึ่งที่ใช้ประเมินมีหมวกกอง eccentrically โหลดจะใช้ Eqs 6.12 และ 6.13จึงสันนิษฐานว่า หมวก eccentrically โหลดจะทำให้เกิดกองอยู่ด้านใดด้านหนึ่งเพื่อดำเนินการสูงโหลดมากกว่าเมื่อเทียบกับกองที่อยู่ด้านตรงข้ามของหมวกกอง ขั้นตอนแรกในกระบวนการคือการ ละเว้นการกอง สมมติหมวกแข็งกอง และใช้การกระจายความดันเชิงเส้นเช่นแสดงใน Fig. 6.16 ค่าของ q′ และ q′′ แล้วคำนวณ โดยใช้ Eqs 6.12 และ 6.13 ขั้นตอนสุดท้ายคือการproportion กดดันให้มีกองละ เป็นแสดงใน Fig. 6.16 ความต้องการปกติคือการโหลด Q ต้องอยู่ภายใน 1/3 กลางกองหมวกและ Eqs 6.12 และ 6.13 จะใช้ได้เฉพาะสำหรับเงื่อนไขนี้ กองกำลังผลิตที่ใหญ่ที่สุด (เช่น หมายเลข 1 ใน Fig. 6.16) ต้องไม่เกินที่อนุญาตโหลดกำลังการผลิต สามารถใช้สมการ 6.12 และ 6.13 มีความเยื้องศูนย์กลางในทิศทางหนึ่ง (เช่น ข้ามความกว้างหรือความยาวของหมวกกอง) หรือมีความเยื้องศูนย์กลางในทิศทางทั้งสองกองทุน

Results (Thai) 2:

โดย Q โหลดที่จะชดเชยระยะหนึ่ง (ที่รู้จักกันเล็ก ๆ น้อย ๆ ) จากศูนย์กลางของแรงโน้มถ่วงของ
หมวกกอง สำหรับโครงการอื่น ๆ ที่อาจจะมีข้อ จำกัด สายอสังหาริมทรัพย์และภาระจะต้องได้รับการชดเชย
ระยะทางที่กำหนด (เล็ก ๆ น้อย ๆ ) จากศูนย์กลางของแรงโน้มถ่วงของฝากอง.
วิธีการหนึ่งที่ใช้กันทั่วไปในการประเมินหมวกกองโหลดแผลงคือการใช้สมการ 6.12 และ 6.13.
สันนิษฐานว่าเป็นหมวกโหลดแผลงจะทำให้กองอยู่ใต้ด้านหนึ่งในการดำเนินการที่สูงขึ้น
ในการโหลดกว่าเมื่อเทียบกับกองที่ตั้งอยู่บนฝั่งตรงข้ามของหมวกกอง ขั้นตอนแรกในขั้นตอน
คือการละเว้นกองสมมติครอบหัวเข็มแข็งและใช้การกระจายความดันเชิงเส้นดังกล่าวตามที่แสดง
ในรูป 6.16 ค่านิยมของ Q และ Q '' คำนวณแล้วโดยใช้สมการ 6.12 และ 6.13 ขั้นตอนสุดท้ายคือการ
สัดส่วนความกดดันที่จะกองของแต่ละบุคคลเช่นที่แสดงในรูป 6.16 ความต้องการปกติคือ
Q โหลดจะต้องอยู่ภายในกลาง 1/3 ของฝากองและสม 6.12 และ 6.13 เท่านั้นที่ถูกต้องสำหรับ
สภาพนี้ กองแบกโหลดที่ใหญ่ที่สุด (เช่นหมายเลข 1 ในรูป. 6.16) จะต้องไม่เกินกว่าที่อนุญาตของ
กำลังการผลิตไฟฟ้า สมการ 6.12 และ 6.13 สามารถใช้สำหรับความผิดปกติในทิศทางเดียว (เช่นข้าม
ความกว้างหรือความยาวของหมวกกอง) หรือความผิดปกติในทั้งสองทิศทางหมวกกอง

Results (Thai) 3:

โดยโหลด Q ที่ชดเชยไประยะหนึ่ง ( เรียกว่า eccentricity ) จากศูนย์กลางของแรงโน้มถ่วงของ
กองหมวก สำหรับโครงการอื่น อาจจะมีข้อจำกัดและสายอสังหาริมทรัพย์โหลดต้องชดเชย
ไประยะหนึ่ง ( eccentricity ) จากศูนย์กลางของแรงโน้มถ่วงของกองหมวก
วิธีหนึ่งที่ใช้กันทั่วไปเพื่อประเมินโหลด eccentrically กองหมวก คือ ใช้ EQS . 6.12 และ 6.13 .
มันจะสันนิษฐานว่าโหลด eccentrically หมวกจะทำให้กองอยู่ภายใต้ฝ่ายหนึ่งแบกโหลดสูงกว่า
กว่า เมื่อเทียบกับกองอยู่ที่ด้านตรงข้ามของกองหมวก ขั้นตอนแรกในกระบวนการ
คือละเว้นลุ้น ถือว่ากองหมวกแข็ง และใช้เส้นการกระจายความดันเช่นที่แสดงในรูปที่ 6.16
.ค่า Q และ Q ′′นั้นแล้วคำนวณโดยใช้ EQS . 6.12 และ 6.13 . ขั้นตอนสุดท้ายคือการ
สัดส่วนความดันไปยังกองบุคคล เช่นที่แสดงในรูปที่ 6.16 . ความต้องการปกตินั่น
โหลด Q ต้องตั้งอยู่ตรงกลาง 1 / 3 ของเสาเข็มและหมวก EQS . 6.12 และ 6.13 เป็นเพียงที่ถูกต้องสำหรับ
เงื่อนไขนี้ กองการแบกภาระที่ใหญ่ที่สุด ( คือหมายเลข 1 ในรูปที่ 616 ) ต้องไม่เกินความจุ
โหลดของที่ . สมการ 6.12 และ 6.13 สามารถใช้สำหรับความผิดปกติในทิศทางเดียว ( คือข้าม
ความกว้างหรือความยาวของเสาเข็มหมวก ) หรือสำหรับความผิดปกติทั้งในกองหมวกเส้นทาง