De-militarizing our struggle with t

De-militarizing our struggle with terrorism also makes a good deal of sense in light of other recent events in the Middle East, where the Arab Spring is rapidly ushering in a new generation of potential leaders committed to a more open and democratic system of government. For too many Arabs, the United States is still viewed as an aggressor state, more interested in protecting American interests than promoting democratic reform. By ending the war on terror, branding terrorists as international criminals (as opposed to political/military actors), and shifting our efforts to the criminal justice system, we send a powerful message not only to the people of the Middle East, but to other potentially dangerous regions of the world. We show that the United States remains committed above all else to the rule of law. Indeed, sending out this message at this critical juncture in the history of the Middle East may prove as powerful a weapon in our struggle against terrorism as the massive array of military force we have assembled in the region.

Results (Thai) 1:

ยัง de-militarizing ของเราต่อสู้กับการก่อการร้ายทำให้ข้อเสนอดีของความรู้สึกเมื่อเหตุการณ์ล่าสุดอื่น ๆ ในตะวันออกกลาง ที่ฤดูใบไม้ผลิอาหรับเป็นอย่างรวดเร็ว ushering ในรุ่นใหม่มีศักยภาพผู้นำมุ่งมั่นที่จะเปิดขึ้น และประชาธิปไตยระบบของรัฐบาล สำหรับอาหรับมากเกินไป สหรัฐอเมริกายังคงดูเป็นสถานะผู้รุกราน ความสนใจในการปกป้องประโยชน์อเมริกันมากกว่าส่งเสริมการปฏิรูปประชาธิปไตย โดยสิ้นสุดสงครามการก่อการร้าย ผู้ก่อการร้ายเป็นอาชญากรระหว่างประเทศ (ตรงข้ามกับนักแสดงทางการเมือง/ทหาร) ตราสินค้า และขยับความพยายามของเราในระบบยุติธรรมทางอาญา เราส่งข้อความมีประสิทธิภาพไม่เพียงแต่คนตะวันออกกลาง แต่ภูมิภาคอื่นอาจเป็นอันตรายของโลก เราแสดงว่า สหรัฐอเมริกายังคงมุ่งมั่นที่เหนือสิ่งอื่นกับกฎของกฎหมาย จริง การส่งออกข้อความนี้ที่นี้ juncture สำคัญในประวัติศาสตร์ของตะวันออกกลางอาจพิสูจน์อาวุธเป็นพลังในการต่อสู้กับการก่อการร้ายเป็นอาร์เรย์ขนาดใหญ่ของกองทัพทหารที่เรามีประกอบในภูมิภาคของเรา

Results (Thai) 2:

de-militarizing การต่อสู้ของเรากับการก่อการร้ายยังทำให้การจัดการที่ดีของความรู้สึกในแง่ของเหตุการณ์ล่าสุดอื่น ๆ ในตะวันออกกลางที่ฤดูใบไม้ผลิอาหรับเป็นอย่างรวดเร็วในการนำไปสู่​​คนรุ่นใหม่ของผู้นำที่มีศักยภาพมุ่งมั่นที่จะเป็นระบบที่เปิดกว้างมากขึ้นและเป็นประชาธิปไตยของรัฐบาล มากเกินไปสำหรับชาวอาหรับที่สหรัฐอเมริกายังคงมองว่าเป็นรัฐผู้รุกรานความสนใจมากขึ้นในการปกป้องผลประโยชน์ของชาวอเมริกันกว่าการส่งเสริมการปฏิรูปประชาธิปไตย โดยยุติสงครามกับความหวาดกลัว, การสร้างแบรนด์เป็นผู้ก่อการร้ายอาชญากรระหว่างประเทศ (เมื่อเทียบกับนักแสดงทางการเมือง / ทหาร) และขยับความพยายามของเราที่จะระบบยุติธรรมทางอาญาเราจะส่งข้อความที่มีประสิทธิภาพไม่เพียง แต่ให้คนของตะวันออกกลาง แต่กับคนอื่น ๆ ภูมิภาคท​​ี่อาจเป็นอันตรายของโลก เราแสดงให้เห็นว่าสหรัฐอเมริกายังคงมุ่งมั่นเหนือสิ่งอื่นใดที่ปกครองด้วยกฎหมาย อันที่จริงการส่งข้อความนี้นี้ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อที่สำคัญในประวัติศาสตร์ของตะวันออกกลางอาจพิสูจน์ที่มีประสิทธิภาพเป็นอาวุธในการต่อสู้กับการก่อการร้ายเป็นอาร์เรย์ใหญ่ของกองทัพที่เราได้รวบรวมในภูมิภาคของเรา

Results (Thai) 3:

เดอ militarizing ของเราต่อสู้กับการก่อการร้ายยังทำให้การจัดการที่ดีของความรู้สึกในเหตุการณ์ล่าสุดอื่น ๆในตะวันออกกลางที่ฤดูใบไม้ผลิอาหรับอย่างรวดเร็ว ushering ในรุ่นใหม่ของผู้นำที่มีศักยภาพ มุ่งมั่นที่จะเป็นระบบเปิดมากขึ้น และประชาธิปไตยของรัฐบาล ชาวอาหรับมากเกินไป สหรัฐฯ ยังมองว่าเป็นฝ่ายรุกราน รัฐสนใจมากขึ้นในการปกป้องผลประโยชน์ของชาวอเมริกันมากกว่าการส่งเสริมการปฏิรูปประชาธิปไตย เมื่อสิ้นสุดสงครามต่อต้านการก่อการร้าย , การสร้างตราสินค้าผู้ก่อการร้ายเป็นอาชญากรระหว่างประเทศ ( ตรงข้ามกับนักแสดงทหารการเมือง ) และการความพยายามของเราในระบบยุติธรรม เราส่งข้อความที่มีประสิทธิภาพไม่เพียง แต่ประชาชนในตะวันออกกลาง แต่อื่น ๆที่อาจเป็นอันตราย ภูมิภาคของโลกเราแสดงให้เห็นว่า สหรัฐฯ ยังคงมุ่งมั่นเหนือสิ่งอื่นใดในกฎของกฎหมาย แท้ ส่ง ข้อความนี้ที่สําคัญนี้ จุดในประวัติศาสตร์ของตะวันออกกลางอาจพิสูจน์ที่มีประสิทธิภาพเป็นอาวุธในการต่อสู้กับการก่อการร้ายเป็น array ขนาดใหญ่ของทหารเรา มีการรวมตัวกันในภูมิภาค