The burning of coal and wood, and t

The burning of coal and wood, and the presence of many horses in concentrated areas made the cities the cesspools of pollution. The Industrial Revolution brought an infusion of untreated chemicals and wastes into local streams that served as the water supply. King Edward I of England banned the burning of sea-coal by proclamation in London in 1272, after its smoke became a problem.[4][5] But the fuel was so common in England that this earliest of names for it was acquired because it could be carted away from some shores by the wheelbarrow.

Results (Thai) 1:

การเผาถ่านไม้ และสถานะของม้าจำนวนมากในพื้นที่เข้มข้นได้ในเมือง cesspools ของมลพิษ การปฏิวัติอุตสาหกรรมนำคอนกรีตที่ไม่ถูกรักษาสารเคมีและขยะในกระแสข้อมูลภายในที่เป็นน้ำประปา สมเด็จพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดฉันอังกฤษห้ามเผาถ่านหินทะเล โดยประกาศในลอนดอนใน 1272 หลังจากควันของมันกลายเป็น ปัญหา [4] [5] แต่เชื้อเพลิงทั่วไปดังนั้นในอังกฤษที่แรกสุดของชื่อเรื่องนี้มา เพราะมันอาจ carted จากบางมาโดยรถสาลี่

Results (Thai) 2:

การเผาไหม้ถ่านหินและไม้และการปรากฏตัวของม้าจำนวนมากในพื้นที่ที่มีความเข้มข้นทำให้เมือง cesspools ของมลพิษ การปฏิวัติอุตสาหกรรมนำยาของสารเคมีได้รับการรักษาและของเสียลงในลำธารท้องถิ่นที่ทำหน้าที่เป็นน้ำประปา กษัตริย์เอ็ดเวิร์ดแห่งอังกฤษสั่งห้ามการเผาไหม้ของทะเลถ่านหินโดยประกาศในลอนดอน 1272 หลังจากที่ควันกลายเป็นปัญหา. [4] [5] แต่น้ำมันเชื้อเพลิงเป็นเพื่อร่วมกันในประเทศอังกฤษว่านี้แรกของชื่อมันก็มาเพราะ มันอาจจะดั้นด้นออกไปจากชายฝั่งบางสาลี่

Results (Thai) 3:

การเผาไหม้ของถ่านหินและไม้ และการปรากฏตัวของม้าจำนวนมากในพื้นที่เข้มข้นทำให้เมืองบ่อพักน้ำเสียจากมลภาวะ การปฏิวัติอุตสาหกรรมนำยาสารเคมีดิบและของเสียในท้องถิ่นที่ทำหน้าที่เป็นคลองประปา กษัตริย์เอ็ดเวิร์ดแห่งอังกฤษห้ามการเผาไหม้ของถ่านหินทะเลโดยประกาศในลอนดอนเอาไว้ หลังจากที่ควันกลายเป็นปัญหา[ 4 ] [ 5 ] แต่เชื้อเพลิงทั่วไปดังนั้นในอังกฤษที่เก่าที่สุดของชื่อนี้ได้รับมา เพราะมันอาจจะขนไปจากชายฝั่งโดยสาลี่