The prehistoric peoples of Wales le

The prehistoric peoples of Wales left behind megaliths and other impressive monuments. They were followed by settlements of Celts in the region. The Romans occupied the region from the 1st to the 5th century A.D. Thereafter Angles, Saxons, and Jutes invaded the British island, but they left Wales virtually untouched. Beginning in the 8th century, the various Welsh tribes fought with their Anglo-Saxon neighbors to the east, but the Welsh were able to thwart attempted invasions. After William the Conqueror subdued England in 1066, however, his Norman armies marched into Wales in 1093 and occupied portions of it. By 1282, the English conquest of Wales was complete, and in 1284, the Statute of Rhuddlan formalized England's sovereignty over Wales. In 1301, King Edward I gave his son, who later became Edward II, the title Prince of Wales, a gesture meant to indicate the unity and relationship between the two lands. With the exception of Edward II, all subsequent British monarchs have given this title to their eldest son.

Results (Thai) 1:

คนยุคก่อนประวัติศาสตร์ของเวลส์ทิ้ง megaliths และอนุสาวรีย์อื่น ๆ น่าประทับใจ พวกเขาถูกตาม ด้วยการจับคู่ของเคลต์ในภูมิภาค ชาวโรมันครอบครองภูมิภาคจาก 1 ศตวรรษ 5 หลังมุม แซกซอน และชาวจูตบุกเกาะอังกฤษ แต่พวกเขาทิ้งเวลส์แทบแตะต้อง เริ่มต้นในศตวรรษที่ 8 ชาวเวลส์ต่าง ๆ สู้กับเพื่อนบ้านของพวกเขาชาวแองโกลตะวันออก แต่เวลส์ได้มีการป้องกันพยายามรุกราน หลังจากที่ William พิชิตสงบลงอังกฤษใน 1066 อย่างไรก็ตาม กองทัพของเขานอร์แมนเดินเข้าไปในเวลส์ใน 1093 และครอบครองบางส่วนของมัน โดย 1282 การพิชิตอังกฤษของเวลส์เป็นสมบูรณ์ และใน 1284 ธรรมนูญ Rhuddlan อย่างเป็นอธิปไตยของอังกฤษเหนือเวลส์ ใน 1301 สมเด็จพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดฉันให้ลูกชายของเขา ซึ่งภายหลังกลายเป็น Edward II เรื่องเจ้าชายแห่งเวลส์ ท่าทาง หมายถึง การแสดงความสามัคคี และความสัมพันธ์ระหว่างสองที่ดิน ยกเว้น Edward II มหากษัตริย์อังกฤษในเวลาต่อมาทั้งหมดได้ให้ชื่อนี้ให้ลูกชายคนโตของ

Results (Thai) 2:

คนยุคก่อนประวัติศาสตร์แห่งเวลส์ทิ้ง megaliths และอนุสาวรีย์ที่น่าประทับใจอื่น ๆ ตามมาด้วยการตั้งถิ่นฐานของเซลติกส์ในภูมิภาค ชาวโรมันยึดครองภูมิภาคจาก 1 ถึงศตวรรษที่ 5 มุมหลังจากนั้นแอกซอนและ Jutes บุกเกาะอังกฤษ แต่พวกเขาออกจากเวลส์แทบไม่มีใครแตะต้อง จุดเริ่มต้นในศตวรรษที่ 8 ชนเผ่าต่างๆเวลส์ต่อสู้กับเพื่อนบ้านแซกซอนของพวกเขาไปทางทิศตะวันออก แต่เวลส์ก็สามารถที่จะป้องกันการรุกรานพยายาม หลังจากที่วิลเลียมผู้พิชิตเงียบประเทศอังกฤษใน 1066 แต่กองทัพนอร์แมนของเขาเดินเข้าไปในเวลส์ 1093 และยึดครองบางส่วนของมัน โดย 1282, พิชิตอังกฤษเวลส์เสร็จสมบูรณ์และใน 1284, เทพ Rhuddlan กรงเล็บอธิปไตยของประเทศอังกฤษเวลส์ ใน 1301, กษัตริย์เอ็ดเวิร์ดที่ฉันให้ลูกชายของเขาซึ่งต่อมากลายเอ็ดเวิร์ดชื่อเจ้าชายแห่งเวลส์ท่าทางหมายถึงการแสดงให้เห็นความสามัคคีและความสัมพันธ์ระหว่างสองดินแดน ด้วยข้อยกเว้นของเอ็ดเวิร์ดทั้งหมดพระมหากษัตริย์อังกฤษต่อมาได้ให้ชื่อนี้ลูกชายคนโตของพวกเขา

Results (Thai) 3:

ประชาชนยุคก่อนประวัติศาสตร์ของเวลส์ทิ้งไว้ megaliths และอนุสาวรีย์ที่น่าประทับใจอื่น ๆ ตามด้วยถิ่นฐานของเคลต์ในภูมิภาค ชาวโรมันครอบครองเขต 1 เพื่อศตวรรษที่ 5 คริสตศักราชหลังจากนั้นมุมชาวแซกซันและชนจูตบุกเกาะอังกฤษ แต่พวกเขาซ้ายเวลส์แทบมิได้ถูกแตะต้อง เริ่มต้นในศตวรรษที่ 8 ชนเผ่าต่าง ๆของแองโกลแซ็กซอนเวลส์ ทะเลาะกับเพื่อนบ้านไปทางตะวันออก แต่เวลส์ได้พยายามขัดขวางการรุกราน หลังจากที่วิลเลียมผู้พิชิตพ่ายแพ้อังกฤษใน 1066 นอร์แมนกองทัพ อย่างไรก็ตาม เขาเดินเข้าไปในเวลส์และในที่ครอบครองส่วนนั้น โดย 1077 , พิชิตอังกฤษเวลส์ ได้เสร็จสมบูรณ์ และใน 1284 , ธรรมนูญ กล่าว rhuddlan อำนาจอธิปไตยของอังกฤษเหนือเวลส์ ใน 1844 , กษัตริย์เอ็ดเวิร์ดฉันให้ลูกชายของเขา ซึ่งต่อมากลายเป็นพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 2 , ชื่อเรื่องเจ้าชายแห่งเวลส์ ท่าทางตั้งใจเพื่อแสดงความสามัคคีและความสัมพันธ์ระหว่างสองดินแดน ด้วยข้อยกเว้นของ Edward II , พระมหากษัตริย์อังกฤษต่อมาได้ชื่อนี้ให้ลูกชายคนโตของตน