The reform and improvement requires

The reform and improvement requires a change from teachers building their own intellectual engagement and on-the-job teacher learning to teachers working collaboratively as leaders of the school site [12]. Thus, in order to enable teachers to work collaboratively for improved instructional practices, changes in school curricula could be a major step towards productive teacher collaboration. It would align the scope and sequence of what should be taught and learned, and teachers could collaborate with one another on daily lessons.
Similarly, educational policymakers have also recognized the importance of organizational design and effective leadership in establishing and maintaining vibrant learning communities for both teachers and students [13]. Shared decision-making, collective actions regarding school policies and reflection on broader school reform issues are seen as promising ways to engage teachers, foster collegiality, and improve practice. A professional learning community can be a pre-condition for effective teacher leadership and also be sustained by the collegial practices of teacher-led schools [14].

Results (Thai) 1:

การปฏิรูปและปรับปรุงต้องการเปลี่ยนแปลงจากครูสร้างความผูกพันทางปัญญาของตนเองและแรงครูที่เรียนกับครูที่ทำงานร่วมกันเป็นผู้นำของเว็บไซต์ของโรงเรียน [12] ดัง เพื่อช่วยให้ครูทำงานร่วมกันปฏิบัติการจัดการเรียนการสอนที่ปรับปรุง เปลี่ยนแปลงในหลักสูตรโรงเรียนอาจจะเป็นขั้นตอนสำคัญต่อประสิทธิผลครูร่วม จะจัดขอบเขตและลำดับของสิ่งควรสอน และเรียนรู้ และครูสามารถทำงานร่วมกันในบทเรียนทุกวันในทำนองเดียวกัน ผู้กำหนดนโยบายทางการศึกษามียังรู้ความสำคัญของการออกแบบองค์กรและภาวะผู้นำที่มีประสิทธิภาพในการสร้าง และรักษาชุมชนแห่งการเรียนรู้สำหรับครูและนักเรียน [13] ร่วมตัดสินใจ รวมการดำเนินการเกี่ยวกับนโยบายโรงเรียนและสะท้อนปฏิรูปโรงเรียนกว้างเห็นเป็นวิธีแนวโน้มในการจ้างครู บุญธรรม collegiality และปรับปรุงการปฏิบัติ ชุมชนเรียนรู้อาชีพสามารถเงื่อนไขก่อนนำครูผู้สอนที่มีประสิทธิภาพ และยัง สามารถยั่งยืน โดยปฏิบัติ collegial นำครูโรงเรียน [14]

Results (Thai) 2:

การปฏิรูปและการพัฒนาต้องมีการเปลี่ยนจากการสร้างความผูกพันของครูทางปัญญาของตัวเองและ on-the-งานครูเรียนรู้ที่จะทำงานร่วมกันครูในฐานะผู้นำของเว็บไซต์ของโรงเรียน [12] ดังนั้นเพื่อให้ครูที่จะทำงานร่วมกันสำหรับการปฏิบัติการเรียนการสอนที่ดีขึ้น, การเปลี่ยนแปลงในหลักสูตรของโรงเรียนอาจจะเป็นขั้นตอนที่สำคัญต่อการทำงานร่วมกันในการผลิตครู มันจะจัดขอบเขตและลำดับของสิ่งที่ควรจะได้รับการสอนและการเรียนรู้และครูสามารถทำงานร่วมกับคนอื่นในบทเรียนในชีวิตประจำวัน.
ในทำนองเดียวกันผู้กำหนดนโยบายการศึกษาที่ได้รับการยอมรับถึงความสำคัญของการออกแบบองค์กรและความเป็นผู้นำที่มีประสิทธิภาพในการสร้างและการบำรุงรักษาชุมชนการเรียนรู้ที่มีชีวิตชีวาทั้ง ครูและนักเรียน [13] ที่ใช้ร่วมกันในการตัดสินใจการกระทำร่วมกันเกี่ยวกับนโยบายของโรงเรียนและสะท้อนให้เห็นในประเด็นการปฏิรูปโรงเรียนที่กว้างขึ้นถูกมองว่าเป็นวิธีการที่มีแนวโน้มที่จะมีส่วนร่วมครูอุปถัมภ์ collegiality และปรับปรุงการปฏิบัติ ชุมชนการเรียนรู้ระดับมืออาชีพอาจจะเป็นเงื่อนไขล่วงหน้าสำหรับครูเป็นผู้นำที่มีประสิทธิภาพและยังสามารถยั่งยืนโดยการปฏิบัติที่นักศึกษาของโรงเรียนครูนำ [14]

Results (Thai) 3:

การปฏิรูปและปรับปรุง ต้องเปลี่ยนจากครูภูมิปัญญาในงานหมั้นของตัวเองและสร้างการเรียนรู้ของครูเพื่อครูทำงานร่วมกันในฐานะผู้นำของเว็บไซต์โรงเรียน [ 12 ] ดังนั้น ในการที่จะช่วยให้ครูทำงานร่วมกันเพื่อปรับปรุงการปฏิบัติการสอน การเปลี่ยนแปลงหลักสูตรของโรงเรียนที่สามารถเป็นขั้นตอนที่สําคัญต่อความร่วมมือครูที่มีประสิทธิภาพมันจะจัดขอบเขตและลำดับของสิ่งที่ควรสอนและเรียนรู้ และครูควรร่วมมือกันในบทเรียนทุกวัน
ในทํานองเดียวกัน นโยบายการศึกษายังได้รับการยอมรับความสำคัญของการออกแบบองค์การและประสิทธิผลภาวะผู้นำในการสร้างและรักษาชุมชนการเรียนรู้ที่มีชีวิตชีวาสำหรับทั้งครูและนักเรียน [ 13 ] การตัดสินใจร่วมกันการกระทำร่วมกันเกี่ยวกับนโยบายของโรงเรียนและการสะท้อนบนกว้างประเด็นการปฏิรูปโรงเรียนจะเห็นเป็นวิธีที่มีแนวโน้มที่จะจ้างครู ส่งเสริม collegiality และปรับปรุงการปฏิบัติ ชุมชนการเรียนรู้อย่างมืออาชีพสามารถเป็นเงื่อนไขก่อนครูผู้นำที่มีประสิทธิภาพ และยังสามารถได้รับการสนับสนุนโดยการปฏิบัติของครูทั้งโรงเรียน LED [ 14 ]