As applied to challenging kids, the

As applied to challenging kids, the model sets forth two major tenets: first, that these challenges are best understood as the byproduct of lagging thinking skills (rather than, for example, as attention-seeking, manipulative, limit-testing, or a sign of poor motivation); and second, that these challenges are best addressed by teaching children the skills they lack (rather than through reward and punishment programs and intensive imposition of adult will).

Results (Thai) 1:

ที่ใช้กับเด็กท้าทาย แบบยึความเชื่อหลักที่สอง: ครั้งแรก สุดความท้าทายเหล่านี้เข้าใจว่าเป็นผลพลอยได้จากแดกทักษะการคิด (แทน เช่น เป็นแสวง หาความสนใจ บิด เบือน จำกัดทดสอบ หรือเครื่องหมายของแรงจูงใจต่ำ); และที่สอง สุดความท้าทายเหล่านี้แก้ไขได้ด้วยการสอนเด็กทักษะพวกเขาขาด (ไม่ใช่ผ่านการให้รางวัลและลงโทษ โปรแกรมและเร่งรัดจัดเก็บภาษีของผู้ใหญ่จะ)

Results (Thai) 2:

ในฐานะที่นำไปใช้กับเด็กที่มีความท้าทายรูปแบบการกำหนดสองหลักคำสอนสำคัญ: ครั้งแรกที่ความท้าทายเหล่านี้มีความเข้าใจที่ดีที่สุดเป็นผลพลอยได้จากการล้าหลังทักษะการคิด (แทนที่จะเป็นเช่นที่เป็นความสนใจแสวงหาบิดเบือน จำกัด การทดสอบหรือเข้าสู่ระบบ ของแรงจูงใจที่ไม่ดี); และครั้งที่สองที่ท้าทายเหล่านี้ได้รับการแก้ไขที่ดีที่สุดโดยการสอนเด็กทักษะที่พวกเขาขาด (แทนที่จะผ่านรางวัลและการลงโทษโปรแกรมและการจัดเก็บภาษีที่เข้มข้นของผู้ใหญ่จะ)

Results (Thai) 3:

ใช้เพื่อท้าทายเด็ก แบบชุดใหญ่ออกมาสองเรื่องแรกที่ท้าทายเหล่านี้ดีที่สุดเข้าใจเป็นผลพลอยได้ของการปกคลุมด้วยวัตถุฉนวนทักษะการคิด ( มากกว่า ตัวอย่างเช่นในขณะที่การแสวงหาความสนใจปฏิบัติทดสอบขีด จำกัด หรือ สัญลักษณ์ของแรงจูงใจที่ไม่ดี ) ; และประการที่สองที่ท้าทายเหล่านี้เป็น addressed โดยสอนดีที่สุด เด็กมีทักษะที่พวกเขาขาดมากกว่าผ่านโปรแกรมการให้รางวัลและการลงโทษ และการจัดเก็บภาษีที่เข้มข้นของผู้ใหญ่ )