type X individuals are inherently l

type X individuals are inherently lazy and unhappy with their jobs. Therefore, an authoritarian management style is required to ensure fulfillment of the individuals' objectives. These workers need close supervision with comprehensive systems of control and a hierarchical structure is needed with tight controls at every level. According to this theory, employees will show little ambition without an enticing incentive program, and will avoid responsibility. According to Dr. Kumi Mark, if organizational goals are to be met, 'Theory X' managers must rely heavily on the threat of punishment to gain employee compliance. When practiced this theory can lead to mistrust, highly restrictive supervision and a punitive atmosphere. The 'Theory X' manager believes that all actions can be traced, and the responsible individual needs a direct reward or a reprimand according to the action's outcomes. This managerial style is more effective when used to motivate a workforce that is not inherently motivated to perform. It is usually exercised in professions where promotion is infrequent, unlikely or even impossible and where workers perform repetitive tasks. One major flaw of this management style is that it limits employee potential and discourages creative thinking.

Results (Thai) 1:

บุคคลชนิด X จะมีความขี้เกียจ และไม่มีความสุขกับงานของตน ดังนั้น ลักษณะการบริหารประเทศจะต้องให้ดำเนินการตามวัตถุประสงค์ของแต่ละบุคคล แรงงานเหล่านี้จำเป็นต้องปิดการดูแลครอบคลุมระบบควบคุม และโครงสร้างลำดับชั้นจำเป็นต้องควบคุมแน่นในทุกระดับ ตามทฤษฎีนี้ พนักงานจะแสดงความทะเยอทะยานน้อย โดยโปรแกรมจูงใจล่อลวง และจะหลีกเลี่ยงความรับผิดชอบ ตามหมายดร.ซิงเกิล ถ้าเป้าหมายองค์กรจะเป็นไปตาม ผู้จัดการ 'ทฤษฎี X' ต้องพึ่งมากภัยคุกคามของการลงโทษเพื่อปฏิบัติตามกฎระเบียบของพนักงาน เมื่อฝึกฝนนี้ทฤษฎีสามารถนำไปสู่ mistrust ดูแลเข้มงวดสูง และบรรยากาศการลงโทษได้ ผู้จัดการ 'ทฤษฎี X' เชื่อว่า สามารถติดตามการดำเนินการทั้งหมด และบุคคลรับผิดชอบต้องตอบแทนโดยตรงหรือ reprimand ตามผลลัพธ์ของการดำเนินการ ลักษณะการบริหารจัดการนี้จะมีประสิทธิภาพมากเมื่อใช้ในการจูงใจบุคลากรที่มีไม่ความแรงจูงใจการ มันมักจะเป็นสิทธิในอาชีพโปรโมชั่นดำรัส น่า หรือแม้แต่ไปไม่ได้ และผู้ปฏิบัติงานทำงานซ้ำ ๆ ปัญหาสำคัญหนึ่งของการจัดการลักษณะนี้คือ จะจำกัดศักยภาพพนักงาน และ discourages ความคิดสร้างสรรค์

Results (Thai) 2:

ประเภทบุคคล X เป็นอย่างโดยเนื้อแท้ขี้เกียจและไม่มีความสุขกับงานของพวกเขา ดังนั้นรูปแบบการจัดการเผด็จการที่จำเป็นเพื่อให้แน่ใจว่าการปฏิบัติตามวัตถุประสงค์ของแต่ละบุคคล คนงานเหล่านี้จะต้องดูแลอย่างใกล้ชิดกับระบบที่ครอบคลุมการควบคุมและโครงสร้างลำดับชั้นเป็นสิ่งจำเป็นที่มีการควบคุมแน่นในทุกระดับ ตามทฤษฎีนี้พนักงานจะแสดงความใฝ่ฝันของเล็ก ๆ น้อย ๆ โดยไม่ต้องโปรแกรมแรงจูงใจที่น่าหลงใหลและจะหลีกเลี่ยงความรับผิดชอบ ตามที่ดร Kumi มาร์คถ้าเป้าหมายขององค์กรที่จะได้พบกับผู้จัดการ 'ทฤษฎี X' ต้องพึ่งพาอาศัยภัยคุกคามของการลงโทษที่จะได้รับการปฏิบัติของพนักงาน เมื่อฝึกทฤษฎีนี้สามารถนำไปสู่​​ความไม่ไว้วางใจการกำกับดูแลที่เข้มงวดมากและบรรยากาศการลงโทษ ผู้จัดการทฤษฎี X 'เชื่อว่าการดำเนินการทั้งหมดสามารถตรวจสอบและบุคคลที่รับผิดชอบต้องมีรางวัลทางตรงหรือตำหนิตามผลของการกระทำ รูปแบบการบริหารจัดการนี​​้จะมีประสิทธิภาพมากขึ้นเมื่อใช้ในการสร้างแรงจูงใจให้แรงงานที่ไม่ได้มีแรงจูงใจที่จะดำเนินการโดยเนื้อแท้ มันมักจะใช้สิทธิในวิชาชีพที่เป็นโปรโมชั่นไม่บ่อยนักที่ไม่น่าเป็นไปไม่ได้หรือแม้กระทั่งการดำเนินการและสถานที่ที่คนงานทำงานซ้ำ หนึ่งในข้อบกพร่องที่สำคัญของรูปแบบการจัดการนี​​้คือการที่จะ จำกัด ศักยภาพของพนักงานและลดความคิดสร้างสรรค์

Results (Thai) 3:

ประเภท x บุคคลเป็นอย่างโดยเนื้อแท้ ขี้เกียจ และไม่มีความสุขกับงานของพวกเขา ดังนั้น รูปแบบการจัดการเผด็จการจะต้องเพื่อให้บรรลุเป้าหมายของบุคคล ' วัตถุประสงค์ คนงานเหล่านี้ต้องดูแลที่ครอบคลุมระบบการควบคุมและโครงสร้างลำดับชั้นเป็นสิ่งจำเป็นที่มีการควบคุมแน่นหนาในทุกระดับ ตามทฤษฎีนี้พนักงานจะแสดงความทะเยอทะยานเล็กน้อยโดยไม่ล่อลวงโปรแกรมสร้างแรงจูงใจ และจะหลีกเลี่ยงความรับผิดชอบ ตามที่ ดร. คุมิมาร์ค ถ้าเป้าหมายขององค์การจะต้องเจอ ' ทฤษฎี ' ผู้จัดการต้องอาศัยการคุกคามของการลงโทษที่จะได้รับการปฏิบัติของพนักงาน เมื่อฝึกทฤษฎีนี้สามารถนำไปสู่ความหวาดระแวง การนิเทศอย่างเข้มงวดและบรรยากาศการลงโทษ .' ทฤษฎี ' ผู้จัดการเชื่อว่าการกระทำทั้งหมดสามารถติดตามได้ และบุคคลที่รับผิดชอบต้องการรางวัลโดยตรง หรือ ตำหนิตามผลของการกระทำ สไตล์การบริหารจัดการมีประสิทธิภาพมากขึ้นเมื่อใช้ในการกระตุ้นให้พนักงานที่ไม่ได้เป็นอย่างโดยเนื้อแท้มีแรงจูงใจที่จะแสดง มันมักจะใช้ในอาชีพที่เป็นไม่บ่อยนักส่งเสริม ,ยากหรือเป็นไปไม่ได้ และที่คนงานปฏิบัติงานซ้ำ ๆ ข้อเสียอย่างหนึ่งที่สำคัญของรูปแบบการจัดการนี้คือ ว่า มัน จำกัด พนักงานที่มีศักยภาพ และความคิดสร้างสรรค์ .