Failure Mode and Effects Analysis (

Failure Mode and Effects Analysis (FMEA) was one of the first systematic techniques for failure analysis. It was developed by reliability engineers in the 1950s to study problems that might arise from malfunctions of military systems. A FMEA is often the first step of a system reliability study. It involves reviewing as many components, assemblies, and subsystems as possible to identify failure modes, and their causes and effects. For each component, the failure modes and their resulting effects on the rest of the system are recorded in a specific FMEA worksheet. There are numerous variations of such worksheets. A FMEA is mainly a qualitative analysis.[1]

Results (Thai) 1:

โหมดความล้มเหลวและการวิเคราะห์ผลกระทบ (FMEA) เป็นหนึ่งในเทคนิคระบบแรกสำหรับการวิเคราะห์ความล้มเหลว ได้รับการพัฒนาขึ้นโดยวิศวกรความน่าเชื่อถือในปี 1950 เพื่อศึกษาปัญหาที่อาจเกิดขึ้นจากการทำงานผิดปกติของระบบทางทหาร FMEA มักจะเป็นขั้นตอนแรกของการศึกษาน่าเชื่อถือของระบบ มันเกี่ยวข้องกับการตรวจสอบชิ้นส่วนเป็นจำนวนมากประกอบและระบบย่อยที่เป็นไปได้ในการระบุโหมดความล้มเหลวและสาเหตุของพวกเขาและผลกระทบ สำหรับแต่ละส่วนโหมดความล้มเหลวและผลกระทบที่เกิดขึ้นของพวกเขาในส่วนที่เหลือของระบบที่มีการบันทึกไว้ในแผ่น FMEA ที่เฉพาะเจาะจง มีรูปแบบหลายแผ่นงานดังกล่าว FMEA เป็นส่วนใหญ่การวิเคราะห์เชิงคุณภาพ. [1]

Results (Thai) 2:

โหมดความล้มเหลวและการวิเคราะห์ผลกระทบ (FMEA) เป็นหนึ่งในเทคนิคระบบแรกสำหรับการวิเคราะห์ความล้มเหลว มันถูกพัฒนา โดยวิศวกรความน่าเชื่อถือในทศวรรษ 1950 เพื่อศึกษาปัญหาที่อาจเกิดขึ้นจากความบกพร่องของระบบทหาร FMEA มักจะเป็นขั้นตอนแรกของการศึกษาระบบความน่าเชื่อถือ เกี่ยวข้องกับตรวจสอบคอมโพเนนต์มาก ส่วนประกอบ และย่อยเป็นสามารถระบุ โหมดความล้มเหลว และสาเหตุ และผลกระทบ สำหรับแต่ละส่วน โหมดความล้มเหลวและผลส่วนเหลือของระบบได้ถูกบันทึกไว้ในแผ่นงานเฉพาะ FMEA มีหลายรูปแบบของแผ่นงานดังกล่าว FMEA เป็นส่วนใหญ่วิเคราะห์คุณภาพได้[1]

Results (Thai) 3:

โหมดความล้มเหลวและผลกระทบจากการวิเคราะห์( fmea )เป็นหนึ่งในเทคนิคอย่างเป็นระบบเป็นครั้งแรกสำหรับการวิเคราะห์ความล้มเหลว ระบบดังกล่าวได้รับการพัฒนาขึ้นโดยวิศวกรความน่าเชื่อถือในช่วงทศวรรษที่ 1950 s เพื่อการศึกษาปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นจากทำงานผิดปกติของระบบทางทหาร fmea ที่มักเป็นขั้นตอนแรกของการศึกษาความน่าเชื่อถือในการทำงานของระบบได้ มันเกี่ยวข้องกับการตรวจสอบการประกอบส่วนประกอบเป็นจำนวนมากและระบบย่อยเป็นไปได้ที่จะระบุตัวเลือกโหมดความล้มเหลวและผลกระทบและทำให้เกิดของตน. สำหรับการทำงานของส่วนประกอบแต่ละโหมดความล้มเหลวและส่งผลให้เกิดขึ้นได้ในส่วนที่เหลือของระบบจะได้รับการบันทึกในเวิร์กชีท fmea เฉพาะที่ มีความหลากหลายมากมายของเวิร์กชีทนี้ fmea ที่มีสาเหตุหลักมาจากการวิเคราะห์ในเชิง คุณภาพ ที่.[ 1 ]