Astronomers at Kitt Peak National O

Astronomers at Kitt Peak National Observatory near Tucson, Arizona, have discovered what they claim are the largest structures yet observed in the universe. The structures are glowing blue arcs of light nearly 2 million trillion miles in length. The discoverers of these arcs think they are actually optical illusions created by light that has been bent due to the immense gravitational pull of a massive galaxy. The arcs are probably formed when the light from a distant galaxy is bent by the gravitational pull of another, less distant, intervening galaxy. Even though such light-bending galaxies contain billions of stars, they still do not contain enough visible stars which alone could exert the pull needed to bend light in such a way. Therefore, it is theorised that there must be huge amounts of invisible or “dark” matter within these galaxies. Furthermore, astronomers say that there might be enough dark matter in the universe to supply enough gravity to slow the expansion of the universe and then make it eventually collapse.

Results (Thai) 1:

นักดาราศาสตร์ที่คิสูงหอดูดาวใกล้ทุกสัน อริโซนา ได้ค้นพบสิ่งที่พวกเขาอ้างมีโครงสร้างใหญ่ที่สุดแต่ปฏิบัติในจักรวาล โครงสร้างจะเรืองแสงสีฟ้าส่วนโค้งของแสงความยาวเกือบ 2 ล้านล้านไมล์ ค้นพบของเหล่านี้คิดว่า เป็นจริงภาพลวงโดยแสงที่มีการงอเนื่องจากถ่วงอันยิ่งใหญ่ของจักรวาลขนาดใหญ่ การอาร์คอาจจะเกิดขึ้นเมื่อแสงจากกาแล็กซีไกลจะงอ โดยถ่วงของอื่น น้อยกว่ากาแล็กซีที่อยู่ไกล แทรกแซง แม้ว่ากาแล็กซีดัดแสงดังกล่าวประกอบด้วยพันล้านดาว พวกเขายังคงไม่ประกอบด้วยดาวพอมองเห็นได้ซึ่งสามารถออกแรงดึงต้องโค้งแสงในลักษณะเดียว กัน ดังนั้น มันมี theorised ว่า ต้องมีเงินจำนวนมากมองไม่เห็น หรือว่า "มืด" ภายในฤกษ์ นอกจากนี้ นักดาราศาสตร์บอกว่า อาจจะพอสสารมืดในจักรวาลจัดหาพอแรงโน้มถ่วงเพื่อชะลอการขยายตัวของจักรวาล และทำมันยุบในที่สุด

Results (Thai) 2:

นักดาราศาสตร์ที่กิตยอดหอดูดาวแห่งชาติที่อยู่ใกล้ Tucson, Arizona, ได้ค้นพบสิ่งที่พวกเขาเรียกร้องจะมีโครงสร้างที่ใหญ่ที่สุดยังตั้งข้อสังเกตในจักรวาล โครงสร้างมีการเรืองแสงสีฟ้าโค้งของแสงเกือบ 2 ล้านล้านล้านไมล์ยาว ค้นพบของโค้งเหล่านี้คิดว่าพวกเขาจะฉายจริงที่สร้างขึ้นโดยแสงที่ได้รับการงอเนื่องจากแรงโน้มถ่วงอันยิ่งใหญ่ของกาแลคซีขนาดใหญ่ โค้งอาจจะเกิดขึ้นเมื่อแสงจากกาแลคซีที่อยู่ห่างไกลจะงอจากแรงโน้มถ่วงของผู้อื่นที่อยู่ห่างไกลน้อยกว่ากาแล็คซี่แทรกแซง แม้ว่ากาแลคซีแสงดัดดังกล่าวประกอบด้วยพันล้านดาวพวกเขายังคงไม่ได้มีดาวที่มองเห็นได้มากพอที่คนเดียวที่สามารถออกแรงดึงที่จำเป็นในการแสงโค้งในลักษณะ ดังนั้นจึงเป็นมหาเศรษฐีว่าจะต้องมีจำนวนมากที่มองไม่เห็นหรือ "ความมืด" เรื่องภายในกาแลคซีเหล่านี้ นอกจากนี้นักดาราศาสตร์บอกว่าอาจจะมีสสารมืดในจักรวาลพอที่จะจัดหาแรงโน้มถ่วงพอที่จะชะลอการขยายตัวของจักรวาลแล้วทำให้ในที่สุดก็ยุบ

Results (Thai) 3:

นักดาราศาสตร์ที่หอดูดาวแห่งชาติคิทยอดใกล้ Tucson , Arizona ค้นพบสิ่งที่พวกเขาอ้างว่า เป็นโครงสร้างที่ใหญ่ที่สุดในจักรวาล แต่ที่สังเกตได้ โครงสร้างโค้งของแสงเรืองสีฟ้า เกือบ 2 ล้าน ล้านไมล์ในความยาว การค้นพบของ ARCS เหล่านี้คิดว่าพวกเขาเป็นภาพลวงตาที่สร้างขึ้นโดยแสงที่ได้ถูกโค้งงอเนื่องจากแรงโน้มถ่วงมหาศาลของดาราจักรขนาดใหญ่ เส้นโค้งรูปแบบอาจเมื่อแสงจากดาราจักรไกลงอโดยแรงโน้มถ่วงของอื่น ไกลน้อยแทรกแซง กาแล็กซี่ แม้ว่าไฟเช่นดัดกาแล็กซีประกอบด้วยดาวมากมาย พวกเขายังไม่บรรจุพอมองเห็นดาวที่คนเดียวสามารถออกแรงดึงต้องหักเหแสงแบบนั้น ดังนั้น จึงเป็น theorised ที่ต้องมีจำนวนมาก มองไม่เห็น หรือ " มืด " เรื่องภายในกาแล็กซีเหล่านี้ นอกจากนี้ นักดาราศาสตร์กล่าวว่ามี อาจเป็นเรื่องพอมืดในจักรวาลเพื่อให้แรงโน้มถ่วงมากพอที่จะชะลอการขยายตัวของจักรวาลแล้ว ทำให้ในที่สุดก็ยุบ