Whether the fact, he was on their l

Whether the fact, he was on their lunch break might make a difference. In the case of Storey v Ashton (1869), some employees had finished delivering wine for their employers and were on their way back after their official work hours were over. They decided to take a detour to visit a relation of one of the employees. On the way there they negligently ran over the claimant. His attempt to sue their employer failed as they were treated as being on a ‘new and independent journey’ from their work trip at the time of the accident.

Results (Thai) 1:

ว่า ความจริง เขาอยู่พักเที่ยงตนอาจสร้างความแตกต่าง ในกรณีของชั้น v แอชตัน (งแมง), พนักงานบางคนได้เสร็จสิ้นแล้วส่งมอบไวน์สำหรับนายจ้าง และถูกแบบกลับหลังจากชั่วโมงทำงานอย่างเป็นทางหลายแห่ง พวกเขาตัดสินใจที่จะเดินชมความสัมพันธ์ของพนักงาน มามี พวกเขา negligently วิ่งผ่านผู้อ้าง เขาพยายามที่ฟ้องนายล้มเป็นพวกเขาก็ถือว่าเป็นการ 'ใหม่ และอิสระเดินทาง' จากการเดินทางทำงานในเวลาเกิดเหตุ

Results (Thai) 2:

ไม่ว่าจะเป็นความจริงที่เขาเป็นในช่วงพักกลางวันของพวกเขาอาจสร้างความแตกต่าง ในกรณีที่ชั้นโวลต์แอชตัน (1869), พนักงานบางส่วนได้เสร็จสิ้นการส่งมอบไวน์สำหรับนายจ้างของพวกเขาและอยู่บนทางของพวกเขากลับมาหลังจากที่ชั่วโมงการทำงานของพวกเขาอย่างเป็นทางการมากกว่า พวกเขาตัดสินใจที่จะอ้อมไปเยี่ยมชมความสัมพันธ์ของหนึ่งในพนักงาน เกี่ยวกับวิธีการที่พวกเขามีประมาทเลินเล่อวิ่งไปเรียกร้อง ความพยายามที่จะฟ้องนายจ้างของเขาล้มเหลวที่พวกเขาได้รับการปฏิบัติในฐานะที่เป็น 'การเดินทางครั้งใหม่และเป็นอิสระจากการเดินทางการทำงานของพวกเขาในเวลาที่เกิดอุบัติเหตุ

Results (Thai) 3:

ไม่ว่าความเป็นจริงเขาในพักกลางวันอาจสร้างความแตกต่าง ในกรณีของชั้น 5 แอชตัน ( 1869 ) , พนักงานบางคนมีเสร็จส่งเหล้าให้นายจ้างของพวกเขาและอยู่ในทางของพวกเขากลับมาหลังจากเวลาทำงานอย่างเป็นทางการของพวกเขามากกว่า พวกเขาตัดสินใจที่จะใช้เส้นทางอ้อมไปความสัมพันธ์ของพนักงาน ระหว่างทางพวกเขาเพิกเฉยและชนผู้ .ความพยายามของเขาที่จะฟ้องนายจ้างของพวกเขาล้มเหลวเช่นที่พวกเขาได้รับการรักษาเป็น ' ใหม่และอิสระ การเดินทางจากทริปงานของพวกเขาในเวลาที่เกิดอุบัติเหตุ