James chose Münsterberg to replace

James chose Münsterberg to replace him as director of the Harvard Psychology Laboratory. At first, Münsterberg concentrated on performing controlled laboratory experiments, but his interests turned more and more to the application of psychological principles to problems outside of the lab- oratory. In developing his applied psychology,
Münsterberg did pioneer work in clinical, forensic, and industrial psychology. Although at one time he was one of the most famous psychologists in the world, he died in obscurity because his efforts to improve relations between the United States and Germany came at a time when the U.S. populace was disgusted with German military and political aggression. Mary Whiton Calkins invented the paired-associate technique while studying verbal learning under Münsterberg’s supervision. She also did pioneering work on short-term memory. Although meeting all of Harvard’s requirements for the PhD, she was denied the degree because she was a woman. Nonetheless, she went on to become the first female president of the APA (1905), and through her self-psychology, she influenced the development of a U.S. brand of personality theory.

Results (Thai) 1:

เจมส์เลือก Münsterberg แทนพระองค์เป็นผู้อำนวยการห้องปฏิบัติการจิตวิทยาฮาร์วาร์ด ครั้งแรก Münsterberg เข้มข้นในการควบคุมห้องปฏิบัติการทดลอง แต่ความสนใจของเขาเปิดขึ้นเพื่อการประยุกต์ใช้หลักการทางจิตวิทยาปัญหานอกแล็บโอราทอรี ในการพัฒนาของเขาใช้จิตวิทยาMünsterberg ได้บุกเบิกงานจิตวิทยาคลินิก นิติ และอุตสาหกรรม แม้ว่าครั้งหนึ่งเขาเป็นนักจิตวิทยาที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในโลกอย่างใดอย่างหนึ่ง เขาตายในความสับสนเนื่องจากความพยายามในการปรับปรุงความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐอเมริกาและเยอรมนีมาครั้งเมื่อสหรัฐฯ ประชาชนก็เบื่อหน่ายกับความก้าวร้าวทางทหาร และการเมืองเยอรมัน Mary Whiton Calkins คิดค้นเทคนิคจับคู่ร่วมเรียนด้วยวาจาการเรียนภายใต้การดูแลของ Münsterberg เธอทำงานบุกเบิกในความจำระยะสั้น แม้ว่าที่ประชุม ทุกความต้องการของ Harvard ตำรับเธอถูกปฏิเสธระดับเนื่องจากเธอเป็นผู้หญิง กระนั้น เธอไปบนกลายเป็นประธานาธิบดีหญิงของป้า (1905), และผ่านเธอเองจิตวิทยา เธอได้รับอิทธิพลการพัฒนาแบรนด์สหรัฐฯ ของทฤษฎีบุคลิกภาพ

Results (Thai) 2:

เจมส์เลือกMünsterbergจะมาแทนที่เขาเป็นผู้อำนวยการห้องปฏิบัติการจิตวิทยาฮาร์วาร์ ตอนแรกMünsterbergจดจ่ออยู่กับการดำเนินการทดลองในห้องปฏิบัติการควบคุม แต่ความสนใจของเขาหันขึ้นและอื่น ๆ เพื่อการประยุกต์ใช้หลักการทางจิตวิทยาการแก้ปัญหานอกปราศรัย lab- ในการพัฒนาจิตวิทยาประยุกต์ของเขา
Münsterbergได้ทำงานบุกเบิกในคลินิกนิติเวชและจิตวิทยาอุตสาหกรรม ถึงแม้ว่าในช่วงเวลาหนึ่งที่เขาเป็นหนึ่งในนักจิตวิทยาที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลกที่เขาเสียชีวิตในความสับสนเพราะเขาพยายามที่จะปรับปรุงความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐอเมริกาและเยอรมนีมาในช่วงเวลาที่ประชาชนสหรัฐเบื่อหน่ายกับกองทัพเยอรมันและการรุกรานทางการเมือง แมรี่ Whiton Calkins คิดค้นเทคนิคการจับคู่เชื่อมโยงระหว่างการศึกษาการเรียนรู้ด้วยวาจาภายใต้การดูแลของMünsterberg นอกจากนี้เธอยังได้ทำงานเป็นผู้บุกเบิกในหน่วยความจำระยะสั้น แม้ว่าการประชุมทุกความต้องการของฮาร์วาร์สำหรับปริญญาเอกที่เธอถูกปฏิเสธการศึกษาระดับปริญญาเพราะเธอเป็นผู้หญิงคนหนึ่ง กระนั้นเธอก็จะกลายเป็นประธานาธิบดีหญิงคนแรกของ APA (1905) และผ่านเธอตนเองจิตวิทยาเธออิทธิพลต่อการพัฒนาของแบรนด์สหรัฐของทฤษฎีบุคลิกภาพ

Results (Thai) 3:

เจมส์เลือก M ü nsterberg แทนที่เขาเป็นผู้อำนวยการของฮาร์วาร์ดจิตวิทยาทดลอง ตอนแรก M ü nsterberg เข้มข้นในการดำเนินการควบคุม การทดลองในห้องปฏิบัติการ แต่ความสนใจของเขาเปลี่ยนเป็นมากขึ้นและมากขึ้นในการใช้หลักจิตวิทยาปัญหานอกแล็บ วาทศิลป์ . ในการพัฒนาเขาใช้จิตวิทยาM ü nsterberg ได้บุกเบิกงานในคลินิก แพทย์นิติเวช และจิตวิทยาอุตสาหกรรม แม้ว่าในเวลาที่เขาเป็นหนึ่งในนักจิตวิทยาที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลก เขาเสียชีวิตในความสับสนเพราะความพยายามของเขาที่จะปรับปรุงความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐอเมริกาและเยอรมนีมาได้ตลอดเวลาเมื่อประชาชนสหรัฐฯ ขยะแขยง กับทหารและการรุกรานทางการเมืองของเยอรมัน แมรี่ whiton แคลคินส์คิดค้นจับคู่เชื่อมโยงเทคนิคการเรียนรู้ verbal ในขณะที่เรียนใน M ü nsterberg นิเทศ เธอยังทำงานเป็นผู้บุกเบิกในหน่วยความจำระยะสั้น แม้ว่าการประชุมทั้งหมดของฮาร์วาร์ดเป็นข้อกำหนดสำหรับปริญญาเอก เธอปฏิเสธ . . เพราะหล่อนเป็นผู้หญิง อย่างไรก็ตาม เธอกลายเป็นประธานาธิบดีหญิงคนแรกของ EPA ( 1905 ) และจิตวิทยาของตัวเธอ เธอมีอิทธิพลต่อการพัฒนาของแบรนด์ของทฤษฎีบุคลิกภาพ