The economists who first stated thi

The economists who first stated this relationship assumed that the amount of capital available in a given year to pay wages was an unchanging amount.
So they thought that as the population changed so too would the wages of workers.
If the population increased, but the amount of money available to pay as wages stayed the same, the results might be all workers would make less, or if one worker made more, another would have to make less to make up for it and workers would struggle to earn enough money to provide for basic living requirements.

Results (Thai) 1:

นักเศรษฐศาสตร์ที่ระบุความสัมพันธ์นี้ก่อน สันนิษฐานว่า ปริมาณของทุนในปีนั้น ๆ การจ่ายค่าจ้างเป็นจำนวนเงินค้างดังนั้นพวกเขาคิดว่า ที่เป็นประชากรการเปลี่ยนแปลงนั้นมากเกินไปจะว่าค่าจ้างของแรงงานถ้าประชากรเพิ่มขึ้น แต่จำนวนเงินให้จ่ายเป็นค่าแรงดันเท่าเดิม ผลลัพธ์อาจเป็นคนงานทั้งหมดจะทำให้น้อย หรือถ้าคนเดียวทำเพิ่มเติม อีกจะต้องทำน้อยทำขึ้นสำหรับคุณ และคนงานต้องต่อสู้เพื่อหาเงินเพียงพอสำหรับความต้องการพื้นฐานชีวิต

Results (Thai) 2:

นักเศรษฐศาสตร์คนแรกที่ระบุความสัมพันธ์นี้สันนิษฐานว่าปริมาณของเงินทุนที่มีอยู่ในปีที่ได้รับการจ่ายค่าจ้างเป็นจำนวนเงินที่ไม่มีการเปลี่ยนแปลง.
ดังนั้นพวกเขาจึงคิดว่าเป็นประชากรที่เปลี่ยนไปก็จะจ่ายค่าจ้างของแรงงาน.
ถ้าประชากรที่เพิ่มขึ้น แต่จำนวนเงินที่ เงินพร้อมที่จะจ่ายเงินตามค่าจ้างอยู่เหมือนกันผลที่อาจจะมีคนงานทุกคนจะทำให้น้อยลงหรือถ้าหนึ่งคนทำมากขึ้นอีกจะต้องทำน้อยที่จะทำขึ้นสำหรับมันและคนงานที่จะต่อสู้เพื่อให้ได้รับเงินมากพอที่จะจัดให้มีการ ความต้องการขั้นพื้นฐานของชีวิต

Results (Thai) 3:

นักเศรษฐศาสตร์คนแรกที่ระบุความสัมพันธ์นี้สันนิษฐานว่า เงินทุนที่มีอยู่ในปีที่กำหนดจ่ายค่าจ้างเป็นจำนวนเงินไม่เปลี่ยนแปลงดังนั้นพวกเขาคิดว่าเป็นประชากรที่เปลี่ยนไปดังนั้น ก็ค่าจ้างของคนงานถ้าประชากรเพิ่มขึ้น แต่จำนวนเงินที่สามารถจ่ายเป็นค่าจ้างอยู่เหมือนกัน ผลอาจจะทั้งหมดที่คนงานจะให้น้อยลง หรือถ้าหนึ่งคนได้มากขึ้นอีกก็ต้องให้น้อยลงเพื่อชดเชยและคนงานจะดิ้นรนที่จะได้รับเงินเพียงพอที่จะให้ความต้องการที่อยู่อาศัยพื้นฐาน