1. IntroductionCarbon Capture and S

1. Introduction
Carbon Capture and Storage (CSS) technologies rely on fixing CO2 ultimately into stable carbonates
through a mineralization reaction based on an aqueous chemical reaction where an alkaline source
dissolves and releases divalent cations (e.g., Ca2+ and Mg2+) which react with CO2 to produce, e.g., calcite
(CaCO3) or magnesite (MgCO3). The major alkaline sources are the silicate minerals, such as olivine,
serpentine, and wollastonite [1].

Results (Thai) 1:

1. บทนำเทคโนโลยีคาร์บอนจับและเก็บ (CSS) พึ่งแก้ไข CO2 สุดเป็นคาร์บอเนตมีเสถียรภาพผ่านปฏิกิริยา mineralization อิงการปฏิกิริยาเคมีสารละลายน้ำเป็นแหล่งด่างละลาย และปล่อยแคทไอออน divalent (เช่น Ca2 + และ Mg2 +) ซึ่งทำปฏิกิริยากับ CO2 ในการผลิต เช่น แคลไซต์(CaCO3) หรือ magnesite (MgCO3) แหล่งด่างสำคัญมีแร่ธาตุซิลิเกต เช่นโอลิวีนคดเคี้ยว และ wollastonite [1]

Results (Thai) 2:

1. บทนำ
คาร์บอนจับภาพและจัดเก็บข้อมูล (CSS) เทคโนโลยีที่พึ่งพาการแก้ไข CO2 ในที่สุดเข้าคาร์บอเนตที่มีความเสถียร
ผ่านปฏิกิริยาแร่บนพื้นฐานของปฏิกิริยาเคมีในน้ำที่เป็นแหล่งด่าง
ละลายและปล่อยประจุบวกประจุคู่ (เช่น Ca2 + และ Mg2 +) ซึ่งทำปฏิกิริยากับก๊าซ CO2 ไป ผลิตเช่นแคลเซียมคาร์บอเนต
(CaCO3) หรือ magnesite (MgCO3) แหล่งที่มาของอัลคาไลน์ที่สำคัญคือแร่ซิลิเกตเช่นฟันม้าโอลิ,
คดเคี้ยวและ wollastonite [1]

Results (Thai) 3:

1 . แนะนำจับคาร์บอนและการเก็บรักษา ( CSS ) เทคโนโลยีพึ่งพาตรึง CO2 ในที่สุดกลายเป็นคาร์บอเนตมั่นคงผ่านการปฏิกิริยาขึ้นอยู่กับปฏิกิริยาทางเคมีที่เป็นแหล่งน้ำละลายและปล่อยกันเชอ ( เช่น แคลเซียม และ mg2 + + ) ซึ่งทำปฏิกิริยากับ CO2 ที่ผลิต เช่น ไฟท์ติ้ง !( CaCO3 ) หรือ Magnesite ( mgco3 ) หลักเป็นแหล่งเป็นแร่ซิลิเกต เช่น โอลีวีนคดเคี้ยวและ Wollastonite [ 1 ]