Compromising looks for an expedient

Compromising looks for an expedient and mutually acceptable solution which partially satisfies both parties.

Examples of when compromise may be appropriate:

When the goals are moderately important and not worth the use of more assertive or more involving approaches, such as forcing or collaborating
To reach temporary settlement on complex issues
To reach expedient solutions on important issues
As a first step when the involved parties do not know each other well or haven’t yet developed a high level of mutual trust
When collaboration or forcing do not work
Possible advantages of compromise:

Faster issue resolution. Compromising may be more practical when time is a factor
Can provide a temporary solution while still looking for a win-win solution
Lowers the levels of tension and stress resulting from the conflict
Some caveats of using compromise:

May result in a situation when both parties are not satisfied with the outcome (a lose-lose situation)
Does not contribute to building trust in the long run
May require close monitoring and control to ensure the agreements are met

Results (Thai) 1:

ห้องหาโซลูชันสมควร และยอมรับซึ่งกันและกันซึ่งบางส่วนตรงทั้งสองฝ่ายตัวอย่างของเมื่อประนีประนอมอาจเหมาะสม:เมื่อเป้าหมายมีความสำคัญปานกลาง และไม่ น่าใช้มากทำ หรือเกี่ยวข้องมากขึ้นกับแนวทาง เช่นบังคับให้ทำงานร่วมกันถึงการชำระเงินชั่วคราวในปัญหาที่ซับซ้อนถึงสมควรแก้ไขในประเด็นสำคัญเป็นขั้นตอนแรกเมื่อฝ่ายเกี่ยวข้องไม่ทราบกันดี หรือยังไม่ได้พัฒนาระดับความไว้วางใจซึ่งกันและกันเมื่อทำงานร่วมกันหรือการบังคับให้ทำงานข้อดีที่สุดของปัญหา:ความละเอียดปัญหาได้เร็วขึ้น สูญเสียอาจเป็นประโยชน์เมื่อเวลาเป็นปัจจัยสามารถให้การแก้ไขปัญหาชั่วคราวในขณะที่ยังคง มองหาโซลูชันชนะช่วยลดระดับของความตึงเครียดและความเครียดที่เกิดจากความขัดแย้งคำเตือนบางประการของการใช้ประนีประนอม:อาจส่งผลในสถานการณ์เมื่อทั้งสองฝ่ายไม่พอใจกับผลที่ได้ (สถานการณ์ผลแพ้ผลแพ้)ไม่มีส่วนร่วมในการสร้างความน่าเชื่อถือในระยะยาวอาจต้องการปิดการตรวจสอบและควบคุมให้ข้อตกลงที่เป็นไปตาม

Results (Thai) 2:

สูญเสียรูปลักษณ์สำหรับสมควรและการแก้ไขปัญหาที่ยอมรับร่วมกันซึ่งบางส่วนน่าพอใจทั้งสองฝ่าย. ตัวอย่างของเมื่อประนีประนอมอาจจะเหมาะสม: เมื่อเป้าหมายที่มีความสำคัญในระดับปานกลางและไม่คุ้มค่าการใช้วิธีการแสดงออกที่เหมาะสมมากขึ้นหรืออื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องเช่นการบังคับหรือการทำงานร่วมกันในการเข้าถึงชั่วคราว การตั้งถิ่นฐานในประเด็นที่ซับซ้อนในการเข้าถึงโซลูชั่นสมควรในประเด็นที่สำคัญในฐานะที่เป็นขั้นตอนแรกเมื่อฝ่ายที่เกี่ยวข้องไม่ได้รู้จักกันดีหรือยังไม่ได้รับการพัฒนาในระดับสูงของความไว้วางใจซึ่งกันและกันเมื่อทำงานร่วมกันหรือบังคับให้ไม่ทำงานได้เปรียบที่เป็นไปได้ของการประนีประนอม: ได้เร็วขึ้น แก้ไขปัญหา ประนีประนอมอาจจะเป็นจริงมากขึ้นเมื่อเวลาเป็นปัจจัยที่สามารถให้การแก้ปัญหาชั่วคราวในขณะที่ยังคงมองหาวิธีการแก้ปัญหาชนะลดระดับของความตึงเครียดและความเครียดที่เกิดจากความขัดแย้งบางประการของการใช้การประนีประนอม: อาจส่งผลให้เกิดสถานการณ์เมื่อทั้งสองฝ่ายมี ไม่พอใจกับผล (สถานการณ์สูญเสีย) ไม่ได้นำไปสู่การสร้างความไว้วางใจในระยะยาวอาจจำเป็นต้องมีการดูแลอย่างใกล้ชิดและการควบคุมเพื่อให้แน่ใจว่าข้อตกลงที่จะได้พบกับ

Results (Thai) 3:

การดู เพื่อ ผลประโยชน์ และยอมรับกันและกัน โซลูชั่น ซึ่งบางส่วนที่น่าพอใจทั้งสองฝ่าย

ตัวอย่างเมื่อการประนีประนอมอาจเหมาะสม :

เมื่อเป้าหมายอยู่พอสมควรที่สำคัญและไม่น่าใช้มากขึ้นกล้าแสดงออกหรือมากกว่าที่เกี่ยวข้องกับแนวทาง เช่น การบังคับ หรือร่วมมือกัน
ถึงระงับชั่วคราวในประเด็น
ถึงสมควรโซลูชั่นบน ที่สำคัญประเด็น
ที่ซับซ้อนเป็นขั้นตอนแรกที่ฝ่ายที่เกี่ยวข้องไม่รู้กันหรือยังไม่ได้พัฒนาในระดับสูงของความไว้วางใจซึ่งกันและกัน
เมื่อความร่วมมือหรือบังคับไม่ได้
ข้อดีที่สุดของการประนีประนอม :

ปัญหาได้เร็วขึ้น ความละเอียด สูญเสียอาจจะปฏิบัติมากขึ้นเมื่อเวลาเป็นปัจจัย
สามารถให้บริการโซลูชั่นชั่วคราวในขณะที่ยังคงมองหา win - win โซลูชั่น
ช่วยลดระดับของความตึงเครียดและความเครียดที่เกิดจากความขัดแย้ง
บาง caveats การประนีประนอม :

อาจส่งผลในสถานการณ์เมื่อทั้งสองฝ่ายไม่พอใจกับผล ( สูญเสียสถานการณ์ )
ไม่ได้มีส่วนร่วมในการสร้างความไว้วางใจใน
ยาวอาจต้องดูแลอย่างใกล้ชิด และควบคุมเพื่อให้แน่ใจว่าข้อตกลงจะพบ