A government's budget balance is th

A government's budget balance is the difference in government revenues (primarily from taxes) and spending. If spending is greater than revenue, there is a deficit. If revenue is greater than spending, there is a surplus.

A government deficit can be thought of as consisting of two elements, structural and cyclical. At the lowest point in the business cycle, there is a high level of unemployment. This means that tax revenues are low and expenditures are high, leading naturally to a budget deficit.

The additional borrowing required at the low point of the cycle is the cyclical deficit. The cyclical deficit will be entirely repaid by a cyclical surplus at the peak of the cycle. This type of deficit serves as an automatic stabilizer.

The structural deficit is the deficit that remains across the business cycle because the general level of government spending exceeds prevailing tax levels. Structural deficits are the result of discretionary fiscal policy and can shift the aggregate demand curve to the right.

Crowding out is a negative consequence of budget deficits in which higher interest rates lead to less private investment, higher exchange rates, and fewer exports.

Crowding out is a negative consequence of budget deficits in which higher interest rates lead to less private investment, higher exchange rates, and fewer exports.

Results (Thai) 1:

ยอดดุลงบประมาณของรัฐบาลมีความแตกต่างของรายได้รัฐบาล (จากภาษี) และค่าใช้จ่าย ถ้าใช้จ่ายมากกว่ารายได้ มีการขาดดุล ถ้ารายได้มากกว่าค่าใช้จ่าย มีส่วนเกินดุลรัฐบาลสามารถคิดเป็นประกอบด้วยสององค์ประกอบ โครงสร้าง และแบบของการ ที่จุดต่ำสุดในวงจรธุรกิจ มีงานระดับสูง หมายความ ว่า ภาษีรายได้ต่ำ และค่าใช้จ่ายสูง ธรรมชาตินำไปสู่การขาดดุลงบประมาณการเพิ่มเติมกู้ยืมต้องที่จุดต่ำสุดของรอบการเป็นห่วงดุล ดุลห่วงจะได้บางส่วน โดยส่วนเกินแบบที่จุดสูงสุดของวงจรทั้งหมด ดุลชนิดนี้ทำหน้าที่เป็นตัวกระแทกประตูอัตโนมัติโครงสร้างดุลดุลที่อยู่ในวงจรธุรกิจเนื่องจากเป็นภาษีระดับเกินระดับทั่วไปของการใช้จ่ายของรัฐบาล ได้ ขาดดุลการคลังโครงสร้างเป็นผลมาจากนโยบายทางการเงิน discretionary และสามารถเลื่อนเส้นอุปสงค์รวมทางด้านขวากครั้งออกเป็นเวรลบงบประมาณขาดดุลซึ่งอัตราดอกเบี้ยสูงทำให้ส่วนน้อยการลงทุน อัตราแลกเปลี่ยนสูงขึ้น และน้อยลงกครั้งออกเป็นเวรลบงบประมาณขาดดุลซึ่งอัตราดอกเบี้ยสูงทำให้ส่วนน้อยการลงทุน อัตราแลกเปลี่ยนสูงขึ้น และน้อยลง

Results (Thai) 2:

ยอดเงินงบประมาณของรัฐบาลที่เป็นความแตกต่างในรายได้ของรัฐบาล (ส่วนใหญ่มาจากภาษี) และการใช้จ่าย หากการใช้จ่ายมีค่ามากกว่ารายได้ที่มีการขาดดุล หากรายได้สูงกว่าค่าใช้จ่ายที่มีส่วนเกิน. การขาดดุลของรัฐบาลอาจจะคิดว่าเป็นประกอบด้วยสององค์ประกอบโครงสร้างและวงจร เมื่อมาถึงจุดต่ำสุดในวงจรธุรกิจที่มีระดับสูงของการว่างงาน ซึ่งหมายความว่ารายได้จากภาษีที่ต่ำและค่าใช้จ่ายที่สูงนำธรรมชาติที่ขาดดุลงบประมาณ. การกู้ยืมเงินเพิ่มเติมที่จำเป็นที่จุดต่ำสุดของวงจรคือวงจรการขาดดุล วัฏจักรการขาดดุลจะชำระคืนโดยสิ้นเชิงส่วนเกินที่จุดสูงสุดของวัฏจักรของวงจร ประเภทของการขาดดุลนี้ทำหน้าที่เป็นโคลงอัตโนมัติ. ขาดดุลโครงสร้างการขาดดุลที่ยังคงอยู่ทั่วทั้งวงจรธุรกิจเพราะระดับทั่วไปของการใช้จ่ายของรัฐบาลในขณะนั้นเกินกว่าระดับภาษี การขาดดุลโครงสร้างเป็นผลมาจากนโยบายการคลังกับการตัดสินใจและสามารถเปลี่ยนเส้นอุปสงค์รวมไปทางขวา. อัดแน่นออกมาเป็นผลกระทบเชิงลบของการขาดดุลงบประมาณที่สูงกว่าอัตราดอกเบี้ยนำไปสู่การลงทุนภาคเอกชนที่น้อยกว่าราคาที่สูงขึ้นการแลกเปลี่ยนและการส่งออกน้อยลง. อัดแน่นออก เป็นผลกระทบเชิงลบของการขาดดุลงบประมาณที่สูงกว่าอัตราดอกเบี้ยนำไปสู่การลงทุนภาคเอกชนน้อยกว่าอัตราการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศและการส่งออกน้อยลง

Results (Thai) 3:

ดุลงบประมาณของรัฐบาลคือความแตกต่างในรายได้ของรัฐบาล ( ส่วนใหญ่จากภาษี ) และใช้ หากการใช้จ่ายมากกว่ารายได้ ไม่มีขาดทุน ถ้ารายได้มากกว่าใช้ มีการเกินดุล ขาดดุลของรัฐบาล

สามารถคิดเป็นประกอบด้วยสององค์ประกอบ โครงสร้าง และวงกลม ที่จุดต่ำสุดของวัฏจักรธุรกิจ มีระดับสูงของการว่างงานซึ่งหมายความว่ารายได้จากภาษีต่ำและค่าใช้จ่ายสูง ผู้นำตามธรรมชาติที่จะขาดดุลงบประมาณ

เพิ่มการกู้ยืมเงินต้องอยู่ที่จุดต่ำของรอบการขาดดุลเป็นวงกลม การขาดดุลเกินจะจ่ายทั้งหมดโดยเกินระดับที่จุดสูงสุดของวัฏจักร ของการขาดดุลชนิดนี้ทำหน้าที่เป็นโคลงนะ

โดยการขาดดุลเชิงโครงสร้าง คือ การขาดดุลที่ยังคงอยู่ในวัฏจักรธุรกิจ เนื่องจากระดับทั่วไปของการใช้จ่ายของรัฐบาลออกภาษีเกินกว่าระดับ การขาดดุลเชิงโครงสร้างที่มีผลของนโยบายการคลังอย่างรอบคอบและสามารถเปลี่ยนเส้นอุปสงค์ไปทางขวา

เบียดเสียดออกมาเป็นผลเชิงลบของการขาดดุลงบประมาณ ซึ่งในอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นทำให้การลงทุนภาคเอกชนลดลง อัตราแลกเปลี่ยนเพิ่มขึ้น และการส่งออกน้อยลง

ออกมากดดันเป็นผลเชิงลบของการขาดดุลงบประมาณ ซึ่งในอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นทำให้การลงทุนภาคเอกชนลดลง อัตราแลกเปลี่ยนเพิ่มขึ้น และการส่งออกน้อยลง

.