We have analyzed the return behavio

We have analyzed the return behavior of the equity REIT, mortgage REIT, and SP500 indices using monthly data for the period of 1972-2001. Following a large monthly gain, investors can benefit by adopting a momentum buying strategy for stocks or mortgage for REITs, but not for equity REITs. Investors can also profitably employ a mean reversion strategy for any of the three indices. They would wait for a large decline and then buy the index and hold it for six months. Significant calendar effects were found for both REIT and stock indices involving positive January, and negative August and October effects, although there are some differences in seasonal effects between REITs and stocks. The correlation coefficients between all three asset classes are similar, but the relationship between stocks and equityREITs has lessened over time. We also show that equity REITs dominate mortgage REITs on a risk-return basis and that REITs compare favorably with stocks. Our findings suggest that equity REITs can enhance the risk-return relationship of an investment portfolio and should be considered as a major asset class just like stocks or bonds.

Results (Thai) 1:

เรามีการวิเคราะห์พฤติกรรมการกลับมาของทุน Reit จำนอง Reit และ SP500 ดัชนีโดยใช้ข้อมูลรายเดือนสำหรับระยะเวลาของการ 1972-2001 ดังต่อไปนี้ได้รับรายเดือนที่มีขนาดใหญ่นักลงทุนจะได้รับประโยชน์โดยการกำหนดกลยุทธ์การผลักดันการซื้อสำหรับหุ้นหรือการจำนองสำหรับ REITs แต่ไม่ใช่สำหรับส่วนของ REITs นักลงทุนยังสามารถทำกำไรจ้างกลยุทธ์การพลิกกลับหมายถึงสำหรับการใด ๆ ของทั้งสามดัชนีพวกเขาจะรอให้ลดลงมากแล้วซื้อดัชนีและถือมันเป็นเวลาหกเดือน ผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญปฏิทินของเขาถูกพบทั้ง Reit และดัชนีหุ้นที่เกี่ยวข้องกับการบวกมกราคมและสิงหาคมเชิงลบและผลกระทบตุลาคมแม้ว่าจะมีความแตกต่างบางอย่างในผลของฤดูกาลระหว่าง REITs และหุ้น ค่าสัมประสิทธิ์ความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสามสินทรัพย์จะคล้ายกันแต่ความสัมพันธ์ระหว่างหุ้นและ equityreits ได้ลดลงเมื่อเวลาผ่านไป เรายังแสดงให้เห็นว่าผู้ถือหุ้น REITs ครอง REITs จำนองบนพื้นฐานความเสี่ยงผลตอบแทนและ REITs ที่เปรียบเทียบเหมาะกับหุ้น ผลการวิจัยของเราแสดงให้เห็นว่าผู้ถือหุ้น REITs สามารถเพิ่มความสัมพันธ์ความเสี่ยงผลตอบแทนของพอร์ตการลงทุนและควรจะถือเป็นสินทรัพย์ที่สำคัญเช่นเดียวกับหุ้นหรือพันธบัตร

Results (Thai) 2:

เราได้วิเคราะห์ลักษณะคืนทุน REIT จำนอง REIT และ SP500 ดัชนีโดยใช้ข้อมูลรายเดือนในช่วงปี 1972-2001 ต่อขนาดใหญ่ได้รับรายเดือน นักลงทุนสามารถได้รับประโยชน์ โดยใช้โมเมนตัมการซื้อกลยุทธ์สำหรับหุ้น หรือจำนอง REITs แต่ ในส่วนของ REITs ไม่ นักลงทุนยัง profitably สามารถใช้กลยุทธ์ reversion หมายถึงดัชนีสามใด ๆ พวกเขาจะรอให้ลดน้อยลงมากแล้วซื้อดัชนี และไว้หกเดือน ลักษณะปฏิทินสำคัญพบ REIT และดัชนีหุ้นบวกมกราคม และเดือนสิงหาคมและตุลาคมกระทบ แม้ว่าจะมีความแตกต่างในผลของฤดูกาลระหว่าง REITs และหุ้น สัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ระหว่างเรียน 3 สินทรัพย์ทั้งหมดคล้ายกัน แต่ความสัมพันธ์ระหว่างหุ้นและ equityREITs มีน้อยกว่าเวลา เรายังแสดงว่า หุ้น REITs ครองจำนอง REITs บนพื้นฐานผลตอบแทนความเสี่ยง และเปรียบให้ REITs เทียบพ้องต้องกันกับหุ้น ผลการวิจัยของเราแนะนำว่า หุ้น REITs สามารถเพิ่มความสัมพันธ์ผลตอบแทนความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุน และควรเป็นประเภทสินทรัพย์หลักเช่นหุ้นหรือพันธบัตร

Results (Thai) 3:

เราได้วิเคราะห์ถึงพฤติกรรมการกลับมาของกรีดบอคส่วนของผู้ถือหุ้นที่กรีดบอคสินเชื่อที่อยู่อาศัยและ SP 500 ดัชนีรายเดือนโดยใช้ข้อมูลสำหรับช่วงระยะเวลาของ 1972-2001 ต่อไปนี้ได้รับรายเดือนขนาดใหญ่ที่ผู้ลงทุนสามารถได้รับประโยชน์โดยมีการปรับใช้กลยุทธ์การซื้อแรงขับเคลื่อนที่จะกู้หรือหุ้นในกองทุนรวมแต่ไม่ใช่สำหรับกองทุนรวมหุ้น นักลงทุนยังสามารถใช้กลยุทธ์กลับไปพูดหมายถึงที่สามดัชนีที่ใดผู้ถือหุ้นเป็นบวกพวกเขาจะรอให้ลดลงขนาดใหญ่และซื้อดัชนีขึ้นและถือไว้สำหรับหกเดือน ผลปฏิทินอย่างมีนัยสำคัญสำหรับกรีดบอคและดัชนีหุ้นเกี่ยวข้องกับเดือนมกราคมในเชิงบวกและเชิงลบต่อเดือนสิงหาคมและตุลาคมทั้งแม้ว่าจะมีความแตกต่างกันบางในผลตามฤดูกาลระหว่างหุ้นและกองทุนรวม coefficients ความสัมพันธ์ระหว่างชั้นเรียนสามสินทรัพย์ทั้งหมดมีลักษณะคล้ายคลึงกันแต่ความสัมพันธ์ระหว่าง equityreits หุ้นและมีบรรเทาลงไปมากในช่วงเวลาหนึ่ง นอกจากนั้นเรายังแสดงให้เห็นว่ากองทุนรวมหุ้นกองทุนรวมสินเชื่อที่อยู่อาศัยสร้างความโดดเด่นบนพื้นฐานความเสี่ยง - กลับไปและเมื่อเปรียบเทียบกันว่ากองทุนรวมกับหุ้น จากการสำรวจของเราขอแนะนำให้กองทุนรวมหุ้นสามารถเพิ่มความสัมพันธ์ความเสี่ยง - กลับไปที่พอร์ตการลงทุนและควรจะได้รับการพิจารณาให้เป็นสินทรัพย์ที่สำคัญเหมือนกับหุ้นหรือพันธบัตร