Defining Primary and SecondaryLet's

Defining Primary and Secondary
Let's say you are approached by an animal rights group and they would like you to gather some information on the link between stress and pet ownership. This kind of project is primarily a literature review, which is an examination of published material to understand what has already been said on the topic.

Published material can be articles in the New York Times or even tabloids, depending on what you're studying. However, literature reviews typically take the form of an examination of previous, scientific literature from peer-reviewed journals. When looking at previous research, it would be worthwhile to note the differences between primary and secondary research. First, we will examine the definitions and then look into them a little bit more specifically.

Primary research is defined as factual, firsthand accounts of the study written by a person who was part of the study. The methods vary on how researchers run an experiment or study, but it typically follows the scientific method. One way you can think of primary research is that it is typically original research.

Secondary research is defined as an analysis and interpretation of primary research. The method of writing secondary research is to collect primary research that is relevant to a writing topic and interpret what the primary research found. For instance, secondary research often takes the form of the results from two or more primary research articles and explains what the two separate findings are telling us. Or, the author may have a specific topic to write about and will find many pieces of primary research and use them as information in their next article or textbook chapter.

Example
Going back to our original example of the literature review on the effects of animals and stress, we need to determine what kind of research we will include in our write-up. We go online and start collecting articles about stress and animals. There are probably a lot of them, so we begin to sift through them.

When sifting through the research to locate what we want, an easy way to locate primary research articles is that they will be written by a researcher who conducted the study. For instance, a researcher examined the stress hormones in people who owned cats, dogs and no pets. Another researcher looked at the stress people say they have and how many pets they own. In these examples, a researcher is examining and writing about the study they conducted.

Secondary research articles would be from another person's view, drawing in several sources. For example, an author might discuss works by Researcher A and Researcher B and how people with pets typically acknowledge having stress. Another piece of literature we may find might be a chapter in a text discussing the positive and negative impacts of owning a pet. In these examples, the authors are taking other sources and combining or reevaluating the articles, often to make a point.

Results (Thai) 1:

การกำหนดหลักและรองสมมติว่า คุณเข้า โดยมีกลุ่มสิทธิสัตว์ และพวกเขาต้องการรวบรวมข้อมูลบางอย่างในการเชื่อมโยงระหว่างความเครียดและความเป็นเจ้าของสัตว์เลี้ยง ชนิดของโครงการนี้คือ หลักการทบทวนวรรณกรรม ซึ่งเป็นการตรวจสอบวัสดุเผยแพร่เพื่อให้เข้าใจถึงสิ่งที่ได้รับการกล่าวในหัวข้อวัสดุตีพิมพ์บทความในนิวยอร์กไทม์หรือแม้ tabloids ขึ้นอยู่กับสิ่งที่คุณกำลังเรียนก็ได้ อย่างไรก็ตาม รีวิววรรณกรรมโดยทั่วไปมีรูปแบบการตรวจสอบก่อนหน้า วิทยาศาสตร์วรรณคดีจากสมุดรายวันการตรวจทานเพื่อน เมื่อมองที่ผลงานวิจัย มันจะคุ้มค่าที่จะทราบความแตกต่างระหว่างการวิจัยหลัก และรอง ครั้งแรก เราจะตรวจสอบข้อกำหนดแล้ว มองเข้าไปเล็กน้อยโดยเฉพาะอย่างยิ่งวิจัยหลักถูกกำหนดเป็นบัญชีจริง โดยตรงของการศึกษาที่เขียน โดยคนที่เป็นส่วนหนึ่งของการศึกษา วิธีการในวิธีที่นักวิจัยทำการทดลอง หรือศึกษา แต่โดยทั่วไปตามวิธีการทางวิทยาศาสตร์แตกต่างกันไป วิธีหนึ่งที่คุณสามารถคิดของการวิจัยหลักคือ ว่า มันเป็นงานวิจัยเดิมโดยทั่วไปรองวิจัยหมายถึงการวิเคราะห์และตีความงานวิจัยหลัก วิธีการเขียนวิจัยรองคือการ รวบรวมงานวิจัยหลักที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อเขียน และตีความพบของการวิจัยหลัก เช่น รองวิจัยมักจะใช้รูปแบบของผลที่ได้จากบทความวิจัยหลักสอง หรือมากกว่า และอธิบายสิ่งที่พบแยกที่สองจะบอกเรา หรือ ผู้เขียนอาจมีหัวข้อเฉพาะการเขียนเกี่ยวกับ และจะค้นหาหลายชิ้นของการวิจัยหลัก และใช้เป็นข้อมูลในบทความถัดไปหรือบทตำราตัวอย่างเราต้องกำหนดชนิดของงานวิจัยเราจะรวมในการเขียนของเราจะกลับไปตัวอย่างเดิมของการทบทวนวรรณกรรมเกี่ยวกับผลกระทบของสัตว์และความเครียด เราออนไลน์ และเริ่มรวบรวมบทความเกี่ยวกับความเครียดและสัตว์ อาจจะมีจำนวนมากของพวกเขา ดังนั้นเราเริ่มที่จะลอดผ่านได้เมื่อแทน การวิจัยเพื่อค้นหาสิ่งที่เราต้องการวิธีง่าย ๆ เพื่อค้นหาบทความวิจัยหลักคือ ว่า พวกเขาจะถูกเขียน โดยนักวิจัยที่ดำเนินการศึกษา เช่น นักวิจัยตรวจสอบฮอร์โมนความเครียดในคนที่เป็นเจ้าของแมว สุนัข และสัตว์เลี้ยงไม่มี นักวิจัยอื่นมองคนเครียดพูดว่าพวกเขามีและจำนวนสัตว์ที่พวกเขาเป็นเจ้าของ ในตัวอย่างเหล่านี้ นักวิจัยได้ตรวจสอบ และเขียนเกี่ยวกับการศึกษาที่พวกเขาดำเนินการบทความวิจัยที่รองได้จากมุมมองของผู้อื่น การวาดภาพในหลายแหล่ง ตัวอย่างเช่น ผู้เขียนอาจหารืองานวิจัย A และ B นักวิจัย และวิธีคนกับสัตว์เลี้ยงโดยทั่วไปที่รับทราบมีความเครียด อีกชิ้นของวรรณคดีที่เราอาจพบอาจมีบทในข้อความที่พูดถึงผลกระทบด้านบวก และลบของเจ้าของสัตว์เลี้ยงได้ ในตัวอย่างเหล่านี้ ผู้เขียนถ่ายแหล่งอื่น ๆ และรวม หรือ reevaluating บทความ มักจะทำให้เป็นจุด

Results (Thai) 2:

กำหนดประถมศึกษาและมัธยมศึกษา
สมมติว่าคุณกำลังเดินเข้ามาใกล้โดยกลุ่มสิทธิสัตว์และพวกเขาต้องการให้คุณรวบรวมข้อมูลบางอย่างเกี่ยวกับการเชื่อมโยงระหว่างความเครียดและความเป็นเจ้าของสัตว์เลี้ยง ชนิดของโครงการนี้เป็นหลักทบทวนวรรณกรรมซึ่งคือการตรวจสอบของวัสดุตีพิมพ์จะเข้าใจสิ่งที่ได้รับการกล่าวในหัวข้อ.

ตีพิมพ์สามารถเป็นบทความในนิวยอร์กไทม์สหรือแม้กระทั่งหนังสือพิมพ์ขึ้นอยู่กับสิ่งที่คุณเรียน อย่างไรก็ตามความคิดเห็นวรรณกรรมมักจะใช้รูปแบบของการตรวจสอบก่อนหน้านี้วรรณกรรมทางวิทยาศาสตร์จากวารสาร peer-reviewed นั้น เมื่อมองไปที่การวิจัยก่อนหน้านี้มันจะคุ้มค่าที่จะต้องทราบความแตกต่างระหว่างการวิจัยประถมศึกษาและมัธยมศึกษา ครั้งแรกที่เราจะตรวจสอบคำจำกัดความแล้วมองเข้าไปในพวกเขาโดยเฉพาะนิด ๆ หน่อย ๆ .

วิจัยประถมถูกกำหนดให้เป็นจริงโดยตรงบัญชีของการศึกษาที่เขียนโดยคนที่เป็นส่วนหนึ่งของการศึกษา วิธีการที่แตกต่างกันเกี่ยวกับวิธีที่นักวิจัยเรียกใช้การทดสอบหรือการศึกษา แต่มันมักจะเป็นไปตามวิธีการทางวิทยาศาสตร์ วิธีการหนึ่งที่คุณสามารถคิดของการวิจัยหลักก็คือว่ามันเป็นปกติวิจัยเดิม.

วิจัยที่สองถูกกำหนดให้เป็นการวิเคราะห์และตีความหมายของการวิจัยหลัก วิธีการเขียนวิจัยที่สองคือการรวบรวมการวิจัยหลักที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อการเขียนและแปลความหมายว่าการวิจัยหลักพบ ยกตัวอย่างเช่นการวิจัยรองมักจะใช้รูปแบบของผลที่ได้จากสองคนหรือมากกว่าบทความวิจัยหลักและอธิบายถึงสิ่งที่สองผลการวิจัยแยกต่างหากกำลังบอกเรา หรือผู้เขียนอาจจะมีหัวข้อที่เฉพาะเจาะจงเกี่ยวกับการเขียนและจะพบหลายชิ้นของการวิจัยหลักและใช้พวกเขาเป็นข้อมูลในบทความต่อไปของพวกเขาหรือบทตำรา.

ตัวอย่าง
จะกลับไปเช่นเดิมของเราของการทบทวนวรรณกรรมเกี่ยวกับผลกระทบของสัตว์และ ความเครียดที่เราต้องกำหนดชนิดของการวิจัยเราจะรวมอยู่ในของเราเขียนขึ้น เราไปออนไลน์และเริ่มเก็บบทความเกี่ยวกับความเครียดและสัตว์ อาจมีจำนวนมากของพวกเขาดังนั้นเราจะเริ่มต้นที่จะลอดผ่านพวกเขา.

เมื่อผ่านการกลั่นกรองวิจัยเพื่อค้นหาสิ่งที่เราต้องการเป็นวิธีที่ง่ายต่อการค้นหาบทความวิจัยหลักคือว่าพวกเขาจะได้รับการเขียนโดยนักวิจัยที่ดำเนินการศึกษาที่ ยกตัวอย่างเช่นนักวิจัยตรวจสอบฮอร์โมนความเครียดในคนที่เป็นเจ้าของแมวสุนัขและสัตว์เลี้ยงที่ไม่มี นักวิจัยมองที่ความเครียดคนบอกว่าพวกเขามีและจำนวนสัตว์เลี้ยงของพวกเขาเอง ในตัวอย่างเหล่านี้นักวิจัยจะตรวจสอบและการเขียนเกี่ยวกับการศึกษาที่พวกเขาดำเนินการ.

บทความวิจัยรองจะมาจากมุมมองของคนอื่น, การวาดภาพในหลายแหล่งที่มา ตัวอย่างเช่นผู้เขียนอาจจะหารือเกี่ยวกับผลงานของนักวิจัยและนักวิจัย B และวิธีการที่คนที่มีสัตว์เลี้ยงมักจะได้รับทราบมีความเครียด อีกชิ้นหนึ่งของวรรณกรรมที่เราอาจพบว่าอาจจะมีบทในข้อความถกผลกระทบในเชิงบวกและเชิงลบของการเป็นเจ้าของสัตว์เลี้ยง ในตัวอย่างเหล่านี้ผู้เขียนจะพาแหล่งอื่น ๆ และการรวมหรือประเมินบทความที่มักจะทำให้จุด

Results (Thai) 3:

การประถมศึกษาและมัธยมสมมติว่า คุณกำลังเข้าหาโดยกลุ่มสิทธิสัตว์และพวกเขาต้องการให้คุณ รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับการเชื่อมโยงระหว่างความเครียดและเจ้าของสัตว์เลี้ยง ชนิดนี้ของโครงการเป็นหลัก การทบทวนวรรณกรรม ซึ่งเป็นการเผยแพร่วัสดุที่จะเข้าใจสิ่งที่ถูกกล่าวในหัวข้อวัสดุที่สามารถเผยแพร่บทความในนิวยอร์กไทม์สหรือแม้แต่หนังสือพิมพ์ ขึ้นอยู่กับสิ่งที่คุณกำลังเรียนอยู่ อย่างไรก็ตาม การทบทวนวรรณกรรมมักจะใช้รูปแบบของการตรวจสอบก่อนหน้านี้ วิทยาศาสตร์ จากวรรณคดี peer-reviewed วารสาร เมื่อมองไปที่งานวิจัยก่อนหน้า มันจะคุ้มค่าที่จะทราบความแตกต่างระหว่างประถมศึกษาและมัธยมศึกษาวิจัย . ก่อนเราจะมาศึกษาความหมายและมองเข้าไปอีกนิดหน่อย โดยเฉพาะการวิจัยขั้นปฐมภูมิหมายถึงข้อเท็จจริง ก่อนบัญชีการศึกษาที่เขียนโดยคนที่เป็นส่วนหนึ่งของการศึกษา วิธีการที่แตกต่างกันในวิธีการที่นักวิจัยเรียกการทดลองหรือการศึกษา แต่โดยทั่วไปตามวิธีการทางวิทยาศาสตร์ วิธีหนึ่งที่คุณสามารถคิดของการวิจัยหลัก คือว่า มันมักจะมีต้นฉบับการวิจัยขั้นทุติยภูมิ หมายถึง การวิเคราะห์และการตีความของการวิจัยหลัก วิธีการเขียนวิจัยรองคือการรวบรวมหลัก งานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อที่เขียนและแปลความหมายสิ่งที่งานวิจัยหลักที่พบ ตัวอย่าง การวิจัยทุติยภูมิมักจะใช้รูปแบบของผลลัพธ์จากสองคนหรือมากกว่าบทความวิจัยหลักและอธิบายสิ่งที่สองแยกข้อมูลบอกเรา หรือ ผู้เขียนอาจจะมีหัวข้อที่เฉพาะเจาะจงที่จะเขียนเกี่ยวกับและจะพบหลายชิ้นของการวิจัยหลักและใช้เป็นข้อมูลในบทความถัดไปของพวกเขาหรือหนังสือเรียนบทที่ตัวอย่างเช่นกลับไปที่ตัวอย่างของเราต้นฉบับของการทบทวนวรรณกรรมในลักษณะของสัตว์และความเครียด เราต้องพิจารณาสิ่งที่ประเภทของการวิจัย เราจะรวมไว้ในที่เราเขียนขึ้น ไปออนไลน์และเริ่มต้นรวบรวมบทความเกี่ยวกับความเครียด และสัตว์ อาจจะมีของพวกเขาดังนั้นเราเริ่มร่อนผ่านพวกเขาเมื่อลอดผ่านการวิจัยเพื่อค้นหาสิ่งที่เราต้องการเป็นวิธีที่ง่ายในการค้นหาบทความวิจัยหลักคือ ว่า พวกเขาจะถูกเขียนโดยนักวิจัยที่ดำเนินการศึกษา ตัวอย่างเช่นนักวิจัยตรวจฮอร์โมนความเครียดในผู้ที่เป็นเจ้าของแมว สุนัข และ สัตว์เลี้ยงไม่มี นักวิจัยอื่นมองความเครียดคนกล่าวว่าพวกเขามีและวิธีการหลายสัตว์เลี้ยงของพวกเขาเอง ในตัวอย่างเหล่านี้ นักวิจัยจะศึกษาและเขียนเกี่ยวกับการศึกษาที่พวกเขาดำเนินการบทความการวิจัยทุติยภูมิจะถูก จากมุมมองของบุคคลอื่น การวาดในแหล่งต่างๆ ตัวอย่างเช่น ผู้เขียนอาจจะหารือเกี่ยวกับทำงานโดยนักวิจัยและนักวิจัย B และผู้คนกับสัตว์เลี้ยงโดยทั่วไปยอมรับว่ามีความเครียด อีกชิ้นหนึ่งของวรรณกรรมที่เราอาจพบ อาจจะมีบทในข้อความพูดถึงผลกระทบด้านบวกและด้านลบของการเป็นเจ้าของสัตว์เลี้ยง ในตัวอย่างนี้ผู้เขียนจะใช้แหล่งข้อมูลอื่น ๆและรวมหรือประเมินบทความ มักจะทำให้จุด