What are the effects of cellphone u

What are the effects of cellphone use on ability to drive? There is a growing body of evidence, including methodologically sound studies of crash risk, that cellphone use by drivers substantially increases the risk of a crash.[1] Cellphone use is associated with both a fourfold increase in crashes serious enough to injure the driver[2] and a fourfold increase in property-damage-only crashes.3 Strayer and colleagues completed a study using a high-fidelity driving simulator and concluded that the impairments associated with using a cellphone while driving can be as profound as those associated with driving while drunk. They found that participants using a cellphone had delayed braking reactions and were involved in more traffic accidents than when they were not conversing on a cellphone. By contrast, when drivers were intoxicated from ethanol they exhibited a more aggressive driving style, following closer to the vehicle immediately in front of them, and applying more force while braking.[4] In their seminal article, Redelmeier and Tibshirani reported that epidemiological evidence suggests that the relative risk of being in a traffic accident while using a cellphone is similar to the hazard associated with driving with a blood alcohol level at the legal limit.[3]

Numerous authors have found that the impairment that cellphone use causes to driving performance occurs regardless of whether the cellphone is a hands-free or handheld model.[3,5,6] When people have cellphone conversations, they are required to consider the information they hear very carefully. This concentration on the conversation competes for the brain’s resources in a way that listening to the chatter of a passenger does not and can result in impaired driving performance.[7] Some researchers have suggested that since passengers are in the car, they are aware of the driving conditions and will keep quiet in difficult driving situations.

As well, using a cellphone causes impairment to our peripheral vision, similar to horse blinkers, rendering us blind to objects we would normally have no trouble seeing (for example, a child in a crosswalk). Maples and colleagues measured visual fields on study participants when they were having a cellphone conversation and when they were not. They found greater overall constriction between the visual field isopters plotted during cellphone use compared with no cellphone use.[8] It would appear that our brain recruits neurons for activities that require our attention, such as having a cellphone conversation, although we are not aware this is occurring.

Results (Thai) 1:

ผลกระทบของโทรศัพท์มือถือคืออะไรใช้ความสามารถในการขับรถหรือไม่ มีร่างกายเติบโตหลักฐาน รวมทั้งศึกษาความเสี่ยงของความล้มเหลว methodologically เสียงที่ใช้โทรศัพท์มือถือ โดยโปรแกรมควบคุมมากเพิ่มความเสี่ยงของการล้ม [1] โทรศัพท์มือถือใช้เป็นเกี่ยวข้องกับทั้งเป็น fourfold เพิ่มขึ้นรุนแรงจนเกิดปัญหาทำร้ายร่างกายควบคุม [2] และเพิ่ม fourfold ใน crashes.3 แห่งความเสียหายเดียว Strayer และเพื่อนร่วมงานดำเนินการศึกษาโดยใช้โปรแกรมจำลองการขับขี่คุณภาพสูง และสรุปว่า ไหวสามารถที่เกี่ยวข้องกับการใช้เป็นโทรศัพท์มือถือขณะขับรถได้อย่างลึกซึ้งเป็นที่เกี่ยวข้องกับการขับรถขณะเมา พวกเขาพบผู้เรียนที่ใช้โทรศัพท์มือถือที่มีช้าเบรคปฏิกิริยา และอุบัติเหตุจราจรเพิ่มมากขึ้นกว่าเมื่อพวกเขาถูกไม่สนทนาในโทรศัพท์มือถือเกี่ยวข้อง โดยคมชัด เมื่อโปรแกรมควบคุมถูก intoxicated จากเอทานอล ที่จัดแสดงสูงขึ้นขับแบบ ต่อใกล้กับรถด้านหน้าได้ และใช้แรงมากขณะเบรค [4] ในบทความของพวกเขาบรรลุถึง Redelmeier และ Tibshirani รายงานว่า หลักฐานความชี้ให้เห็นว่า ความเสี่ยงสัมพัทธ์ของอุบัติเหตุจราจรในขณะใช้โทรศัพท์มือถือคล้ายคลึงกับอันตรายที่เกี่ยวข้องกับการขับรถด้วยระดับแอลกอฮอล์เลือดที่ข้อจำกัดทางกฎหมาย [3]มากมายผู้เขียนได้พบว่าผลที่ว่า สาเหตุการใช้โทรศัพท์มือถือเพื่อประสิทธิภาพการขับขี่ที่เกิดขึ้นไม่ว่าโทรศัพท์มือถือที่เป็น แบบแฮนด์ฟรี หรือมือถือ [3,5,6] เมื่อบุคคลมีการสนทนาทางโทรศัพท์มือถือ พวกเขาจะต้องพิจารณาข้อมูลที่ได้ยินอย่างระมัดระวังมาก ความเข้มข้นนี้ในการสนทนาแข่งขันสำหรับทรัพยากรของสมองแบบว่า ฟังเรื่องไร้สาระของผู้โดยสารไม่ได้ และอาจทำให้ความบกพร่องทางด้านประสิทธิภาพการขับขี่ [7] บางนักวิจัยได้แนะนำว่า เนื่องจากผู้โดยสารอยู่ในรถยนต์ พวกเขาตระหนักถึงเงื่อนไขขับ และจะเก็บเงียบในสถานการณ์ขับเช่น การใช้โทรศัพท์มือถือทำให้ผลการต่อพ่วงวิสัย คล้ายกับม้า blinkers แสดงเราตาบอดกับวัตถุที่เราจะมีปัญหาไม่เห็น (เช่น อายุใน crosswalk เป็น Maples และเพื่อนร่วมงานวัด visual ฟิลด์บนอาสาเมื่อพวกเขาได้มีการสนทนาโทรศัพท์มือถือและเมื่อพวกเขาไม่ได้ พวกเขาพบที่เชื่อมระหว่าง isopters ฟิลด์ visual ลงจุดในระหว่างการใช้โทรศัพท์มือถือเมื่อเทียบกับไม่ใช้โทรศัพท์มือถือโดยรวม มากกว่า [8] ก็ปรากฏว่า สมองของเรา recruits neurons สำหรับกิจกรรมที่ต้องการความสนใจของเรา เช่นมีการสนทนาโทรศัพท์มือถือ แม้เราจะไม่ทราบซึ่งเกิดขึ้น

Results (Thai) 2:

สิ่งที่ผลกระทบของการใช้โทรศัพท์มือถืออยู่กับความสามารถในการขับรถหรือไม่ มีร่างกายเจริญเติบโตของหลักฐานรวมทั้งการศึกษาเสียง methodologically ของความเสี่ยงความผิดพลาดว่าการใช้โทรศัพท์มือถือจากการขับรถอย่างมีนัยสำคัญเพิ่มความเสี่ยงของความผิดพลาด. [1] การใช้โทรศัพท์มือถือมีความเกี่ยวข้องกับทั้งสองเพิ่มขึ้นสี่เท่าในการเกิดปัญหาร้ายแรงพอที่จะทำร้ายคนขับ [ 2] และเพิ่มขึ้นสี่เท่าในทรัพย์สินที่เสียหายเท่านั้น crashes.3 Strayer และเพื่อนร่วมงานเสร็จสิ้นการศึกษาโดยใช้ความจงรักภักดีสูงขับรถจำลองและสรุปได้ว่าความบกพร่องที่เกี่ยวข้องกับการใช้โทรศัพท์มือถือขณะขับรถสามารถเป็นอย่างยิ่งกับผู้ที่เกี่ยวข้องกับการขับรถในขณะ เมา พวกเขาพบว่าผู้เข้าร่วมการใช้โทรศัพท์มือถือได้ล่าช้าปฏิกิริยาการเบรกและการมีส่วนร่วมในอุบัติเหตุจราจรมากขึ้นกว่าเมื่อพวกเขาไม่ได้พูดคุยเกี่ยวกับโทรศัพท์มือถือ ในทางตรงกันข้ามเมื่อขับถูกเมาจากเอทานอลที่พวกเขาแสดงลักษณะการขับขี่เชิงรุกมากขึ้นต่อไปใกล้ชิดกับรถทันทีในด้านหน้าของพวกเขาและการใช้แรงมากขึ้นในขณะที่เบรก. [4] ในบทความน้ำเชื้อของพวกเขา Redelmeier และ Tibshirani รายงานว่าหลักฐานทางระบาดวิทยา แสดงให้เห็นว่าความเสี่ยงของการอยู่ในอุบัติเหตุจราจรในขณะที่ใช้โทรศัพท์มือถือมีความคล้ายคลึงกับอันตรายที่เกี่ยวข้องกับการขับรถที่มีระดับแอลกอฮอล์ในเลือดที่กฎหมายกำหนด. [3] ผู้เขียนจำนวนมากได้พบว่าการด้อยค่าว่าการใช้โทรศัพท์มือถือเป็นสาเหตุที่ทำให้ผลการดำเนินงานการขับรถ เกิดขึ้นโดยไม่คำนึงว่าโทรศัพท์มือถือเป็นรูปแบบแฮนด์ฟรีหรือมือถือ. [3,5,6] เมื่อคนมีการสนทนาโทรศัพท์มือถือของพวกเขาจะต้องพิจารณาข้อมูลที่พวกเขาได้ยินอย่างระมัดระวัง ความเข้มข้นในการสนทนานี้แข่งขันสำหรับทรัพยากรของสมองในทางที่ฟังเรื่องไร้สาระของผู้โดยสารไม่ได้และจะส่งผลให้ประสิทธิภาพการขับขี่ด้อยค่าเกิดขึ้น. [7] นักวิจัยบางคนบอกว่าตั้งแต่ผู้โดยสารอยู่ในรถที่พวกเขามีความตระหนักใน เงื่อนไขการขับรถและจะเก็บเงียบสงบในสถานการณ์การขับขี่ยาก. เช่นกันโดยใช้โทรศัพท์มือถือทำให้เกิดการด้อยค่าวิสัยทัศน์ต่อพ่วงของเราคล้ายกับแว่นตาม้า, การแสดงผลเราตาบอดไปยังวัตถุที่เราตามปกติจะมีปัญหาในการมองเห็นไม่ (ตัวอย่างเช่นเด็กที่อยู่ในความ ทางม้าลาย) เมเปิ้ลและเพื่อนร่วมงานวัดทุ่งภาพเข้าร่วมการศึกษาในเมื่อพวกเขาได้มีการสนทนาโทรศัพท์มือถือและเมื่อพวกเขาไม่ได้ พวกเขาพบว่าหดตัวมากขึ้นโดยรวมระหว่าง isopters เขตข้อมูลภาพพล็อตในระหว่างการใช้โทรศัพท์มือถือเมื่อเทียบกับไม่มีการใช้งานโทรศัพท์มือถือ. [8] ก็ปรากฏว่าเซลล์ประสาทรับสมัครสมองของเราสำหรับกิจกรรมที่ต้องการความสนใจของเราเช่นมีการสนทนาโทรศัพท์มือถือถึงแม้ว่าเราจะไม่ทราบ นี้เกิดขึ้น

Results (Thai) 3:

อะไรคือผลกระทบของโทรศัพท์มือถือที่ใช้ความสามารถในการไดรฟ์ มีร่างกายเจริญเติบโตของหลักฐาน รวมทั้งเสียงวิธีการศึกษาความเสี่ยงของความล้มเหลว ที่มือถือใช้ไดรเวอร์มากเพิ่มความเสี่ยงของความล้มเหลว [ 1 ] มือถือใช้เกี่ยวข้องกับการเพิ่มขึ้นสี่เท่าในปัญหาร้ายแรงพอที่จะทำร้ายคนขับรถ [ 2 ] และเพิ่มจาตุรงค์ในทรัพย์สินเสียหาย เกิดปัญหาเท่านั้น3 สเตรย์เออร์และเพื่อนร่วมงานจบการศึกษาการใช้ความจงรักภักดีสูงจำลองการขับขี่และสรุปได้ว่าเด็กที่มีความบกพร่องทางการมองเห็น ที่เกี่ยวข้องกับการใช้โทรศัพท์มือถือขณะขับรถจะลึกซึ้งเป็นผู้ที่เกี่ยวข้องกับการขับรถในขณะเมาพวกเขาพบว่าผู้ที่ใช้โทรศัพท์มือถือมีปฏิกิริยาล่าช้าเบรกและมีส่วนร่วมในการเกิดอุบัติเหตุการจราจรมากขึ้นกว่าเมื่อพวกเขาไม่ได้พูดคุยเกี่ยวกับโทรศัพท์มือถือ ในทางตรงกันข้าม เมื่อไดรเวอร์ถูกมอมเมาจากเอทานอลที่พวกเขามีมากกว่าการขับรถก้าวร้าวลักษณะต่อไปนี้ใกล้รถทันทีในด้านหน้าของพวกเขาและใช้แรงมากขึ้นในขณะที่เบรก[ 4 ] ในบทความอสุจิของพวกเขา redelmeier tibshirani รายงานทางระบาดวิทยา และหลักฐานที่แสดงให้เห็นว่าความเสี่ยงสัมพัทธ์ของการเกิดอุบัติเหตุขณะใช้โทรศัพท์มือถือคล้ายกับอันตรายที่เกี่ยวข้องกับการขับรถที่มีระดับแอลกอฮอล์ในเลือดที่กฏหมายกำหนด [ 3 ]

ผู้เขียนมากมาย ได้พบว่า การใช้โทรศัพท์มือถือเป็นสาเหตุให้ประสิทธิภาพการขับขี่เกิดขึ้นไม่ว่ามือถือเป็นแบบแฮนด์ฟรีหรือรุ่นมือถือ [ 3,5,6 ] เมื่อมีคนโทรศัพท์การสนทนา , พวกเขาจะต้องพิจารณาข้อมูลที่พวกเขาฟังให้ดีๆThey found greater overall constriction between the visual field isopters plotted during cellphone use compared with no. Cellphone use. [] It 8 would appear that our brain recruits neurons for activities that require our attention such as, having. A, cellphone conversation although we are not aware this is occurring.การใช้โทรศัพท์มือถือเป็นสาเหตุการด้อยค่าวิสัยทัศน์ของเรา อุปกรณ์ต่อพ่วง คล้ายกับม้าไฟกระพริบ , การแสดงผลเราตาบอดกับวัตถุเราปกติจะไม่มีปัญหาในการดู ( ตัวอย่างเช่น เด็กในทางม้าลาย ) เมเปิลและเพื่อนร่วมงานวัดภาพเขตในผู้เข้าร่วมการศึกษาเมื่อพวกเขามีโทรศัพท์มือถือ การสนทนา และเมื่อพวกเขาไม่พวกเขาพบว่าโดยรวมมากกว่าการรัดระหว่างเขตข้อมูลภาพ isopters วางแผนในโทรศัพท์มือถือใช้โทรศัพท์มือถือเมื่อเทียบกับไม่ใช้ [ 8 ] ปรากฎว่า เซลล์ประสาทสมอง พนักงานของเราสำหรับกิจกรรมที่ต้องใช้ความสนใจของเรา เช่น มีโทรศัพท์คุยกัน ถึงแม้ว่าเราไม่ได้ตระหนักถึงนี้ที่เกิดขึ้น