Officially Paul Thek died in 1988,

Officially Paul Thek died in 1988, but really he died twice. In 1967 he conceived The Tomb (frequently called Death of a Hippie) - the summation of a decade, a cultural ethos, and a career. It was the piece he never lived down and never lived up to.

Thek became the unwilling prophet of the failure of counterculture idealism and could not regain the tragicomic intensity of The Tomb or his Technological Reliquaries, wax sculptures of raw meat and body parts encased within vitrines.”

“The Tomb consisted of a one-story-high, pale pink structure reminiscent of a Sumerian ziggurat, within which lay a full-size, painstakingly crafted effigy of Thek himself.

Painted pale pink, the replicant featured long hair and a moustache like Thek’s own, and wore a double-breasted suit and a necklace made of human hair, as well as other jewelry. Its tongue was sticking out of its mouth, and the fingers on its right hand - Thek’s working hand - were cut off, leaving bloody stumps. The fingers hung inside a pouch near the figure. (The artist was thus symbolically silenced, unable to do his work.)

Results (Thai) 1:

อย่าง Paul Thek เสียชีวิตในปี 1988 แต่จริง ๆ เขาตายสองครั้ง ในค.ศ. 1967 เขารู้สึกสุสาน (มักเรียกว่าตายแบบฮิปปี้) - รวมของทศวรรษ ปัดวัฒนธรรม และอาชีพ มันเป็นชิ้นที่เขาอาศัยอยู่ไม่ลง และไม่เคยอยู่ถึง

Thek เป็น ผู้เผยพระวจนะจำยอมของความล้มเหลวของวัฒนธรรมต่อต้าน idealism และสามารถฟื้นความเข้ม tragicomic ของสุสานของเขา Reliquaries เทคโนโลยี รูปปั้นหุ่นขี้ผึ้งเนื้อดิบและอวัยวะ encased ใน vitrines"

"สุสานประกอบด้วยหนึ่งเรื่องราวสูง ซีดสีชมพูโครงสร้างของ ziggurat ซูเมอร์ ที่วางมีขนาดเต็ม บรรจงสร้างขึ้น effigy ของ Thek เอง

สีซีดสีชมพู replicant ผมยาวและ moustache เช่นของ Thek และสวมสูท double-breasted และสร้อยคอทำผม รวมทั้งเครื่องประดับอื่น ๆ ลิ้นถูกผสานจากปากของมัน และนิ้วมือในของมือขวา -มือการทำงานของ Thek - ถูกตัด ตอเลือดออก มือแขวนภายในกระเป๋าใกล้ตัวเลข (ศิลปินได้จึงสร้าง silenced สามารถทำงานของเขา)

Results (Thai) 2:

อย่างเป็นทางการพอล thek เสียชีวิตในปี 1988 แต่จริงๆเขาตายสองครั้ง ในปี 1967 เขารู้สึกหลุมฝังศพ (เรียกว่าบ่อยครั้งที่ความตายของฮิปปี้) - ผลรวมของทศวรรษ, ร๊อควัฒนธรรมและอาชีพ มันเป็นชิ้นส่วนที่เขาไม่เคยอาศัยอยู่ลงและไม่เคยอยู่ถึงthek กลายเป็นผู้เผยพระวจนะไม่เต็มใจของความล้มเหลวของวัฒนธรรมอุดมคติและไม่สามารถฟื้นความเข้มเศร้าของหลุมฝังศพหรือ reliquaries เทคโนโลยีของเขารูปปั้นหุ่นขี้ผึ้งของเนื้อสัตว์ดิบและส่วนของร่างกายที่ห่อหุ้มภายใน vitrines. " "หลุมฝังศพประกอบด้วยชั้นเดียวสูงโครงสร้างสีชมพูอ่อนที่ชวนให้นึกถึงซูรัตภายในซึ่งวางอยู่เต็มขนาดจำลองสร้างขึ้นอย่างระมัดระวังของตัวเอง thek ทาสีสีชมพูอ่อน Replicant สำคัญผมยาวและ หนวดเช่น thek ของตัวเองและสวมชุดสูทกระดุมสองแถวและสร้อยคอที่ทำจากเส้นผมของมนุษย์เช่นเดียวกับที่อื่น ๆ เครื่องประดับ ลิ้นมันก็โผล่ออกมาจากปากของมันและนิ้วมือด้านขวามือของ - มือทำงานของ thek - ถูกตัดออกออกจากตอไม้เปื้อนเลือด นิ้วมือที่แขวนอยู่ภายในกระเป๋าที่อยู่ใกล้รูป (ศิลปินถูกทำให้เงียบสัญลักษณ์ไม่สามารถที่จะทำผลงานของเขา.)

Results (Thai) 3:

อย่างเป็นทางการพอลเธคเสียชีวิตในปี 1988 แต่เค้าตายสองครั้ง ในปี 1967 เขารู้สึกหลุมฝังศพ ( มักเรียกว่าความตายของฮิปปี้ ) - 3 ทศวรรษ มีขนบธรรมเนียมประเพณีวัฒนธรรมและอาชีพ มันเป็นชิ้นที่เขาเคยอาศัยอยู่ และไม่เคยอยู่ถึง

เธคกลายเป็นศาสดาที่ไม่เต็มใจของความล้มเหลวของวัฒนธรรมต่อต้านจิตนิยม และไม่สามารถฟื้นความเข้ม tragicomic จากสุสานหรือหีบวัตถุมงคลเทคโนโลยีของเขา เทียนประติมากรรมเนื้อดิบและชิ้นส่วนร่างกายถูกบรรจุอยู่ภายใน vitrines "

" สุสานประกอบด้วยเรื่องราวหนึ่งสูง โครงสร้างสีชมพูอ่อนรำลึกของซิกกูรัต Sumerian ซึ่งวาง ภายใน ขนาดใหญ่ที่สร้างขึ้นอย่างพิถีพิถัน รูปจำลองของเธคเอง

ทาสีชมพูอ่อน เป็นเสมือนมนุษย์เด่นผมยาวและหนวดเหมือนเธคเอง และสวมสูทกระดุมคู่และสร้อยคอทำจากเส้นผมของมนุษย์ ตลอดจนเครื่องประดับอื่น ๆ ลิ้นยื่นออกมาจากปากของมัน และนิ้วมือของมือข้างขวา - เธคกำลังทำงานมือ - ถูกตัด ออกจากเลือด ตอไม้นิ้วแขวนข้างในกระเป๋าใกล้รูป ( ศิลปินจึงเป็นสัญลักษณ์ให้ ไม่สามารถทำงาน ของเขา )