Description[edit]Cycads have a rose

Description[edit]

Cycads have a rosette of pinnate leaves around cylindrical trunk
Cycads have a cylindrical trunk which usually does not branch. Leaves grow directly from the trunk, and typically fall when older, leaving a crown of leaves at the top. The leaves grow in a rosette form, with new foliage emerging from the top and center of the crown. The trunk may be buried, so the leaves appear to be emerging from the ground, so the plant appears to be a basal rosette. The leaves are generally large in proportion to the trunk size, and sometimes even larger than the trunk.

The leaves are pinnate (in the form of bird feathers, pinnae), with a central leaf stalk from which parallel "ribs" emerge from each side of the stalk, perpendicular to it. The leaves are typically either compound (the leaf stalk has leaflets emerging from it as "ribs"), or have edges (margins) so deeply cut (incised) so as to appear compound. Some species have leaves that are bipinnate, which means the leaflets each have their own subleaflets, growing in the same form on the leaflet as the leaflets grow on the stalk of the leaf (self-similar geometry).

Results (Thai) 1:

ลักษณะ [แก้]ปรงมีริบบิ้นรางวัลของ pinnate ใบรอบลำต้นรูปทรงกระบอกปรงที่มีลำต้นเป็นทรงกระบอกซึ่งมักจะไม่แตก ใบเติบโตจากลำต้นโดยตรง และจะตกเมื่อเก่า ออกจากมงกุฎของใบด้านบน ใบที่เติบโตในรูปแบบกุหลาบ มีใบใหม่เกิดขึ้นจากด้านบนและกลางของมงกุฎ ลำต้นอาจฝังอยู่ ดังนั้นใบจะ โผล่จากพื้นดิน เพื่อพืชปรากฏ เป็นริบบิ้นรางวัลฐาน ใบมีขนาดใหญ่โดยทั่วไปสัดส่วนขนาดลำ และบางครั้งก็มีขนาดใหญ่กว่าลำต้นใบมี pinnate (ในรูปของขนนก pinnae), กับก้านใบเป็นกลางจากขนานซึ่ง "ซี่โครง" โผล่ออกมาจากแต่ละด้านของก้าน ตั้งฉากกับมัน ใบโดยทั่วไปมีสารอย่างใดอย่างหนึ่ง (มีก้านใบแผ่นพับที่เกิดขึ้นจากมัน "ซี่โครง"), หรือมีขอบ (ระยะขอบ) ลึกเพื่อตัด (incised) เพื่อปรากฏสาร บางชนิดมีใบที่ bipinnate ซึ่งหมายความว่า มีแผ่นพับแต่ละตน subleaflets เติบโตในรูปแบบเดียวกันในแผ่นพับเป็นแผ่นพับที่เติบโตบนก้านใบ (รูปทรงเรขาคณิตคล้ายตนเอง)

Results (Thai) 2:

คำอธิบาย [แก้ไข] ปรงมีดอกกุหลาบจากใบ pinnate รอบลำต้นรูปทรงกระบอกปรงมีลำต้นรูปทรงกระบอกซึ่งมักจะไม่ได้สาขา ใบเติบโตโดยตรงจากลำต้นและมักจะตกอยู่เมื่ออายุมากออกจากมงกุฎของใบที่อยู่ด้านบน ใบเจริญเติบโตได้ในรูปแบบดอกกุหลาบที่มีใบใหม่โผล่ออกมาจากด้านบนและศูนย์กลางของพระมหากษัตริย์ ลำต้นอาจถูกฝังอยู่ดังนั้นใบปรากฏที่จะโผล่ออกมาจากพื้นดินเพื่อให้พืชที่ดูเหมือนจะเป็นฐานกุหลาบ ใบโดยทั่วไปจะมีขนาดใหญ่ในสัดส่วนกับขนาดลำตัวและบางครั้งก็มีขนาดใหญ่กว่าลำต้น. ใบมี pinnate (ในรูปแบบของขนนก pinnae) ที่มีก้านใบกลางจากการที่คู่ขนาน "ซี่โครง" โผล่ออกมาจากแต่ละด้าน ก้านตั้งฉากกับมัน ใบมักจะมีสารอย่างใดอย่างหนึ่ง (ก้านใบมีใบปลิวโผล่ออกมาจากว่ามันเป็น "ซี่โครง") หรือมีขอบ (อัตรากำไรขั้นต้น) เพื่อให้ตัดลึก (รอยบาก) เพื่อให้เป็นไปปรากฏสารประกอบ บางชนิดมีใบที่มี bipinnate ซึ่งหมายถึงแผ่นพับแต่ละคนมี subleaflets ของตัวเองที่กำลังเติบโตในรูปแบบเดียวกันกับแผ่นพับเป็นแผ่นพับเติบโตในก้านใบ (Self-คล้ายรูปทรงเรขาคณิต) เดอะ

Results (Thai) 3:

รายละเอียด [ แก้ไข ]ปรงมีดอกกุหลาบใบ pinnate รอบลำตัวทรงกระบอกปรงลำต้นมีรูปทรงกระบอกซึ่งมักจะไม่สาขา ใบเติบโตโดยตรงจากท้ายรถ และมักจะตกเมื่อเก่าทิ้งมงกุฎใบอยู่ด้านบน ใบเติบโตในดอกกุหลาบรูปแบบ ใหม่ใบใหม่จากด้านบนและศูนย์กลางของมงกุฎ รถอาจจะฝัง เพื่อให้ใบอยู่จากพื้นดิน ดังนั้นพืชปรากฏเป็นดอกกุหลาบแรกเริ่ม . ใบโดยทั่วไปมีขนาดใหญ่ในสัดส่วนกับขนาดลำตัว และบางครั้งแม้มีขนาดใหญ่กว่าลำตัวใบเป็นรูปไข่ ( ในรูปแบบของขนนก นก pinnae ) มีก้านกลางใบที่ขนาน " ซี่โครง " โผล่ออกมาจากด้านข้างของแต่ละก้านตั้งฉากกับมัน ใบโดยให้สาร ( ใบก้านมีใบปลิวที่เกิดขึ้นใหม่จากมันเป็น " ซี่โครง " ) , หรือมีขอบ ( ขอบ ) ลึก ( ผ่าตัด ) เพื่อให้ปรากฏสาร บางชนิดมีใบเป็นใบประกอบแบบขนนกสองชั้น ซึ่งหมายความว่า แผ่นพับแต่ละ subleaflets ของตัวเองเติบโตในรูปแบบเดียวกันกับใบที่เป็นใบเติบโตในก้านของใบ ( ตนเองเรขาคณิตคล้ายคลึงกัน )