The learning theory of Thorndike re

The learning theory of Thorndike represents the original S-R framework of behavioral psychology: Learning is the result of associations forming between stimuli and responses. Such associations or "habits" become strengthened or weakened by the nature and frequency of the S-R pairings. The paradigm for S-R theory was trial and error learning in which certain responses come to dominate others due to rewards. The hallmark of connectionism (like all behavioral theory) was that learning could be adequately explained without refering to any unobservable internal states.

Thorndike's theory consists of three primary laws: (1) law of effect - responses to a situation which are followed by a rewarding state of affairs will be strengthened and become habitual responses to that situation, (2) law of readiness - a series of responses can be chained together to satisfy some goal which will result in annoyance if blocked, and (3) law of exercise - connections become strengthened with practice and weakened when practice is discontinued. A corollary of the law of effect was that responses that reduce the likelihood of achieving a rewarding state (i.e., punishments, failures) will decrease in strength.

The theory suggests that transfer of learning depends upon the presence of identical elements in the original and new learning situations; i.e., transfer is always specific, never general. In later versions of the theory, the concept of "belongingness" was introduced; connections are more readily established if the person perceives that stimuli or responses go together (c.f. Gestalt principles). Another concept introduced was "polarity" which specifies that connections occur more easily in the direction in which they were originally formed than the opposite. Thorndike also introduced the "spread of effect" idea, i.e., rewards affect not only the connection that produced them but temporally adjacent connections as well.

Results (Thai) 1:

The learning theory of Thorndike represents the original S-R framework of behavioral psychology: Learning is the result of associations forming between stimuli and responses. Such associations or "habits" become strengthened or weakened by the nature and frequency of the S-R pairings. The paradigm for S-R theory was trial and error learning in which certain responses come to dominate others due to rewards. The hallmark of connectionism (like all behavioral theory) was that learning could be adequately explained without refering to any unobservable internal states.Thorndike's theory consists of three primary laws: (1) law of effect - responses to a situation which are followed by a rewarding state of affairs will be strengthened and become habitual responses to that situation, (2) law of readiness - a series of responses can be chained together to satisfy some goal which will result in annoyance if blocked, and (3) law of exercise - connections become strengthened with practice and weakened when practice is discontinued. A corollary of the law of effect was that responses that reduce the likelihood of achieving a rewarding state (i.e., punishments, failures) will decrease in strength.ทฤษฎีแสดงให้เห็นว่า การโอนการเรียนรู้ขึ้นอยู่กับการปรากฏตัวขององค์ประกอบเหมือนเดิมและการเรียนรู้สถานการณ์ ใหม่ เช่น โอนย้ายอยู่เสมอเฉพาะ ไม่ทั่วไป รุ่นที่ใหม่กว่าของทฤษฎี แนวคิดของ "belongingness" ถูกนำมาใช้ มีมากขึ้นเชื่อมถ้าบุคคลรับรู้ว่า สิ่งเร้าหรือการตอบสนองไปด้วยกัน (สาวกตัว Gestalt หลัก) อีกแนวคิดที่นำมาใช้เป็น "ขั้ว" ซึ่งระบุว่า การเชื่อมต่อเกิดขึ้นได้ง่ายในทิศทางที่พวกเขาถูกสร้างขึ้นครั้งแรกมากกว่าตรงกันข้าม Thorndike นำความคิด "แพร่กระจายของผล" นั่นคือ ผลรางวัลไม่เพียงแต่การเชื่อมต่อที่ผลิตได้แต่เชื่อมต่อติดกันชั่วเช่นกัน

Results (Thai) 2:

ทฤษฎีการเรียนรู้ของ Thorndike หมายถึงกรอบอาร์เดิมของจิตวิทยาพฤติกรรม: การเรียนรู้เป็นผลมาจากการขึ้นรูปสมาคมระหว่างสิ่งเร้าและการตอบ สมาคมดังกล่าวหรือ "นิสัย" กลายเป็นความเข้มแข็งหรืออ่อนแอโดยธรรมชาติและความถี่ของการจับคู่เอสอาร์ กระบวนทัศน์สำหรับทฤษฎี SR คือการพิจารณาคดีและการเรียนรู้ข้อผิดพลาดในการที่คำตอบบางอย่างมาครองอื่น ๆ เนื่องจากมีผลตอบแทน จุดเด่นของ connectionism (เช่นทฤษฎีพฤติกรรมทั้งหมด) คือการที่การเรียนรู้ที่สามารถอธิบายได้อย่างเพียงพอโดยไม่ต้องหมายถึงรัฐใด ๆ ภายในสำรวจ.

ทฤษฎี Thorndike ประกอบด้วยสามกฎหมายหลัก (1) กฎหมายของผลกระทบ - การตอบสนองต่อสถานการณ์ที่จะตามมาด้วยรางวัล กิจการของรัฐจะมีความเข้มแข็งและเป็นคำตอบที่เป็นนิสัยให้เข้ากับสถานการณ์ที่ (2) กฎหมายของความพร้อม - ชุดของการตอบสนองสามารถถูกล่ามโซ่ไว้ด้วยกันเพื่อตอบสนองเป้าหมายบางอย่างซึ่งจะส่งผลให้เกิดความรำคาญถ้าบล็อกและ (3) กฎหมายของการออกกำลังกาย - การเชื่อมต่อ กลายเป็นความเข้มแข็งกับการปฏิบัติและการอ่อนค่าลงเมื่อปฏิบัติถูกยกเลิก ควันหลงของกฎหมายของผลคือว่าการตอบสนองที่ช่วยลดโอกาสในการบรรลุรัฐที่คุ้มค่า (เช่นการลงโทษความล้มเหลว) จะลดลงในความแข็งแรง.

ทฤษฎีที่แสดงให้เห็นการถ่ายโอนการเรียนรู้ที่ขึ้นอยู่กับการปรากฏตัวขององค์ประกอบที่เหมือนเดิมและใหม่ สถานการณ์การเรียนรู้ คือการถ่ายโอนเฉพาะเสมอไม่เคยทั่วไป รุ่นที่ใหม่กว่าทฤษฎีแนวคิดของ "belongingness" ได้รับการแนะนำ; การเชื่อมต่อที่มีการจัดตั้งขึ้นอย่างรวดเร็วถ้าคนที่รับรู้ว่าสิ่งเร้าหรือคำตอบไปด้วยกัน (หลักการ CF Gestalt) แนวคิดอีกแนะนำคือ "ขั้ว" ซึ่งระบุว่าการเชื่อมต่อเกิดขึ้นได้ง่ายขึ้นในทิศทางที่พวกเขากำลังก่อตัวขึ้นกว่าเดิมตรงข้าม Thorndike ยังแนะนำ "กระจายของผลกระทบ" ความคิดคือผลตอบแทนที่ไม่เพียง แต่ส่งผลกระทบต่อการเชื่อมต่อที่ผลิตพวกเขา แต่การเชื่อมต่อที่อยู่ติดกันชั่วคราวเช่นกัน

Results (Thai) 3:

การเรียนรู้ทฤษฎีของธอร์นไดค์ แสดงต้นฉบับความกรอบของทฤษฎีจิตวิทยาด้านพฤติกรรมการเรียนรู้เป็นผลของสมาคมสร้างระหว่างสิ่งเร้าและการตอบสนอง สมาคมดังกล่าว หรือ " นิสัย " กลายเป็นความเข้มแข็งหรืออ่อนแอลงจากธรรมชาติและความถี่ของการจับคู่ . กระบวนทัศน์ทฤษฎีความคือการลองผิดลองถูกซึ่งในการตอบสนองบางอย่างมาครอบงำผู้อื่นเนื่องจากรางวัล จุดเด่นของ connectionism ( เหมือนพฤติกรรมทฤษฎี ) คือการเรียนรู้ที่สามารถอธิบายได้อย่างเพียงพอ โดยไม่มีหมายถึง รัฐต่าง ๆ ภายใน unobservable .ทฤษฎีของธอร์นไดค์ประกอบด้วยสามกฎหลัก : ( 1 ) กฎหมายของผลกระทบต่อสถานการณ์ ซึ่งจะตามมาด้วยสภาพที่คุ้มค่าของกิจการจะมีความเข้มแข็งและกลายเป็นความเคยชิน เพื่อตอบสนองสถานการณ์ที่ ( 2 ) กฎแห่งความพร้อม - ชุดของการตอบสนองจะถูกล่ามโซ่ไว้ด้วยกันเพื่อตอบสนองเป้าหมายซึ่งจะส่งผลรบกวนถ้าบล็อก และ ( 3 ) กฎหมายของการออกกำลังกาย -- การเชื่อมต่อกลายเป็นความเข้มแข็งและอ่อนแอ เมื่อฝึกซ้อมต่อไม่ได้ เป็นข้อพิสูจน์ของกฎหมายของผลคือ การตอบสนองที่ลดโอกาสของการบรรลุสภาพใหม่ ( เช่น การลงโทษความล้มเหลว ) จะลดความแข็งแรงทฤษฎีแสดงให้เห็นว่าการถ่ายโอนการเรียนรู้ขึ้นอยู่กับสถานะขององค์ประกอบที่เหมือนกันในต้นฉบับและเรียนรู้สถานการณ์ใหม่ คือ การโอน อยู่เสมอ เฉพาะไม่ทั่วไป ในรุ่นที่ใหม่กว่าของทฤษฎี แนวคิดของ " การยอมรับ " เป็นที่รู้จัก ; การเชื่อมต่อเพิ่มเติมพร้อมขึ้นถ้าบุคคลรับรู้สิ่งเร้าหรือการตอบสนองที่ไปด้วยกัน ( Gestalt ซี. เอฟ หลัก ) อีกแนวคิดที่แนะนำคือ " ขั้ว " ซึ่งระบุว่า การเชื่อมต่อเกิดขึ้นได้ง่ายขึ้นในทิศทางที่พวกเขาก่อตั้งขึ้นกว่าเดิมเลย ธอร์นไดค์ยังแนะนำ " การกระจายของผล " ความคิด เช่น รางวัล ส่งผลกระทบไม่เพียง แต่การเชื่อมต่อที่ผลิตพวกเขา แต่ยังคงติดกันเชื่อมต่อได้เป็นอย่างดี