1. Create a poem with an emphasis o

1. Create a poem with an emphasis on certain sounds for pronunciation.
2. Clap out or walk out the sounds of syllables.
3. Read together(choral reading) to work on fluency and intonation.
4. Read a story with great emotion sad, then happy, then angry Talk about what changes is it only tone?
5. Work with words that sound like what they mean(onomatopoeia). For example: sizzle, cuckoo, smash.
6. Read lyrics to music.
7. Use music as background while reviewing and for helping to remember new material.
8. Use rhymes to remember spelling rules, i e., I before E except after C.

Results (Thai) 2:

1. สร้างบทกวีที่มีความสำคัญกับเสียงบางอย่างสำหรับการออกเสียง.
2 ตบมือหรือเดินออกจากเสียงของพยางค์.
3 อ่านด้วยกัน (การร้องเพลงการอ่าน) ในการทำงานกับความคล่องแคล่วและน้ำเสียง.
4 อ่านเรื่องราวที่มีอารมณ์ความรู้สึกที่ดีที่น่าเศร้ามีความสุขแล้วก็พูดคุยแล้วโกรธเกี่ยวกับสิ่งที่เปลี่ยนแปลงมันเป็นเสียงเท่านั้น?
5 ทำงานด้วยคำพูดที่เสียงเหมือนสิ่งที่พวกเขาหมายถึง (สร้างคำ) ตัวอย่างเช่นเสียงดังฉ่า, นกกาเหว่าชน.
6 อ่านเนื้อเพลงเพลง.
7 ใช้เพลงเป็นพื้นหลังในขณะที่การตรวจสอบและช่วยในการจำวัสดุใหม่.
8 ใช้บ๊องจะจำกฎการสะกดผม e. ฉันก่อน E ยกเว้นหลังจากซี

Results (Thai) 3:

1 . สร้างบทกวีโดยเน้นเสียงที่แน่นอนสำหรับการออกเสียง2 . ปรบมือ หรือเดินออกไปเสียงของพยางค์3 . อ่านกัน ( อ่านไง ) ทำงานในความคล่อง และการออกเสียง4 . อ่านเรื่องราวยิ่งใหญ่กับอารมณ์เศร้า แล้วมีความสุข แล้วโกรธเรื่องอะไร เปลี่ยนเป็นเสียงเดียว5 . ทำงานกับคำที่เสียงเหมือนสิ่งที่พวกเขาหมายถึง ( นะ ) ตัวอย่าง : แช่ , นกกาเหว่า , แตก .6 . อ่านเนื้อเพลงเพลง7 . ใช้เป็นเพลงพื้นหลังในขณะที่การตรวจสอบและช่วยให้จำวัสดุใหม่8 . ใช้คล้องจองจำกฎการสะกดคำ ฉัน . ฉัน ก่อนที่อียกเว้นหลัง C