Asian economic downturnThe benefits

Asian economic downturn

The benefits Mitsubishi had seen because of its strong presence in south-east Asia reversed themselves as a result of the economic crisis in the region which began in 1991 with the advent of the collapse of the Japanese asset price bubble, referred to in Japan as the beginning of the Lost Decade and continued to 1997. The collapse was partly the result of the Plaza Accord agreement in 1985, which sought to equalize the United States dollar with the Japanese yen and the German mark. In September of that year the company closed its Thai factory in response to a crash in the country's currency and plummeting consumer demand. The large truck plant, which had produced 8,700 trucks in 1996, was shut down indefinitely. In addition, Mitsubishi had little support from sales in Japan, which slowed considerably throughout 1997 and were affected by that country's own economic uncertainty into 1998. Other Japanese automakers, such as Toyota and Honda, bolstered their own slipping domestic sales with success in the U.S. However, with a comparatively small percentage of the American market, the impact of the turmoil in the Asian economy had a greater effect on Mitsubishi, and the company's 1997 losses were the worst in its history. In addition, it lost both its rank as the third largest automaker in Japan to Mazda, and market share overseas. Its stock price fell precipitously, prompting the company to cancel its year-end dividend payment.[36]

In November 1997, Mitsubishi hired Katsuhiko Kawasoe to replace Takemune Kimura as company president. Kawasoe unveiled an aggressive restructuring program that aimed to cut costs by ¥350 billion in three years, reduce personnel by 1,400, and return the company to profitability by 1998. But while the program had some initial success, the company's sales were still stagnant as the Asian economy continued to sputter. In 1999, Mitsubishi was forced once again to skip dividend payments. Its interest-bearing debt totalled ¥1.7 trillion.

Results (Thai) 1:

เศรษฐกิจเอเชียผลประโยชน์มิตซูบิชิได้เห็นเนื่องจากการดำเนินธุรกิจในตะวันออกเฉียงใต้เอเชียกลับเองเป็นผลมาจากวิกฤติเศรษฐกิจในภูมิภาคซึ่งเริ่มในปี 1991 กับการถือกำเนิดของการล่มสลายของญี่ปุ่นฟองสบู่ราคาสินทรัพย์ อ้างถึงในญี่ปุ่นเป็นจุดเริ่มต้นของทศวรรษสูญหาย และยังคง 1997 การล่มสลายบางส่วนเป็นผลจากข้อตกลง Plaza Accord ในปี 1985 ซึ่งจะเบิ้ลดอลลาร์สหรัฐเยนญี่ปุ่นและมาร์คเยอรมัน ในเดือนกันยายนของปีที่ บริษัทฯ ปิดโรงงานของไทยในการตอบสนองผิดพลาดของประเทศสกุลเงินและหล่นฮวบลงความต้องการของผู้บริโภค โรงงานรถบรรทุกใหญ่ ซึ่งได้ผลิตรถบรรทุก 8,700 ในปี 1996 ถูกปิดลงอย่างไม่มีกำหนด นอกจากนี้ มิตซูบิชิมีการสนับสนุนเล็ก ๆ น้อย ๆ จากการขายในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งชะลอตัวอย่างมากตลอดปี 1997 และได้รับผลกระทบ โดยที่ความผันผวนทางเศรษฐกิจของประเทศในปี 1998 อื่น ๆ ภูมิภาค เช่นโตโยต้าและฮอนด้า รับการสนับสนุนตัวเองลื่นขายในประเทศกับความสำเร็จในสหรัฐอเมริกา อย่างไรก็ตาม กับเล็กเปอร์เซ็นต์ของตลาดอเมริกัน ผลกระทบของความวุ่นวายในเศรษฐกิจเอเชียมีผลมากขึ้นในมิตซูบิชิ และสูญเสีย 1997 บริษัทเลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ นอกจากนี้ มันหายอันดับของทั้งสองเป็น automaker ใหญ่เป็นอันดับสามในประเทศญี่ปุ่นมาสด้า และส่วนแบ่งการตลาดในต่างประเทศ ราคาหุ้นของตก precipitously พร้อมท์ให้บริษัทฯ ยกเลิกการจ่ายเงินปันผลสิ้นปี [36]2540 พฤศจิกายน มิตซูบิชิจ้าง Kawasoe ซึฮิโระคิมุระ Takemune เป็นประธานบริษัทแทน Kawasoe เปิดตัวโปรแกรมปรับโครงสร้างเชิงรุกที่มุ่งการลดต้นทุนโดย 350 ล้านเยนในสามปี ลดบุคลากร 1,400 และกลับบริษัทไปทำกำไร โดยปี 1998 แต่ในขณะที่โปรแกรมประสบความสำเร็จเบื้องต้น การขายยังคงนิ่งเป็นเศรษฐกิจเอเชียยังคงละล่ำละลัก ในปี 1999 มิตซูบิชิถูกบังคับอีกครั้งเพื่อข้ามเงินปันผล ชำระหนี้ภาระดอกเบี้ยสรุป 1.7 ล้านล้านเยน

Results (Thai) 2:

การชะลอตัวทางเศรษฐกิจในเอเชียประโยชน์ที่มิตซูบิชิได้เห็นเพราะสถานะที่แข็งแกร่งในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ย้อนกลับตัวเองว่าเป็นผลมาจากวิกฤตเศรษฐกิจในภูมิภาคซึ่งเริ่มขึ้นในปี 1991 กับการถือกำเนิดของการล่มสลายของฟองสบู่ราคาสินทรัพย์ที่ญี่ปุ่นอ้างถึงใน ญี่ปุ่นเป็นจุดเริ่มต้นของทศวรรษที่หายไปและยังคงปี 1997 การล่มสลายส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากข้อตกลง Plaza Accord ในปี 1985 ซึ่งพยายามที่จะเกลี่ยดอลลาร์สหรัฐกับเงินเยนของญี่ปุ่นและมาร์คเยอรมัน ในเดือนกันยายนของปีนั้น บริษัท ปิดโรงงานไทยในการตอบสนองต่อความผิดพลาดในสกุลเงินของประเทศและดิ่งต้องการของผู้บริโภค โรงงานรถบรรทุกขนาดใหญ่ซึ่งมีการผลิตรถบรรทุก 8,700 ในปี 1996 ถูกปิดตัวลงไปเรื่อย ๆ นอกจากนี้มิตซูบิชิได้รับการสนับสนุนเพียงเล็กน้อยจากการขายในประเทศญี่ปุ่นซึ่งชะลอตัวลงอย่างมากตลอดทั้งปี 1997 และได้รับผลกระทบจากความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจของประเทศนั้นเองลงในปี 1998 ผู้ผลิตรถยนต์ญี่ปุ่นอื่น ๆ เช่นโตโยต้าและฮอนด้าหนุนของตัวเองลื่นไถลยอดขายในประเทศที่มีความสำเร็จในสหรัฐอเมริกา แต่ด้วยร้อยละขนาดเล็กเมื่อเทียบกับของตลาดอเมริกันผลกระทบของความวุ่นวายในเศรษฐกิจเอเชียมีผลกระทบมากขึ้นเกี่ยวกับมิตซูบิชิและ บริษัท ฯ ปี 1997 เป็นความสูญเสียที่เลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ นอกจากนี้มันหายไปทั้งสองตำแหน่งในฐานะที่เป็นผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่อันดับสามในประเทศญี่ปุ่นมาสด้าและส่วนแบ่งการตลาดในต่างประเทศ ราคาหุ้นปรับตัวลดลงฮวบกระตุ้นให้ บริษัท ที่จะยกเลิกการจ่ายเงินปันผลในช่วงปลายปีของ. [36] ในเดือนพฤศจิกายนปี 1997 มิตซูบิชิได้รับการว่าจ้าง Katsuhiko Kawasoe เพื่อแทนที่ Takemune คิมูระเป็นประธาน บริษัท Kawasoe เปิดตัวโครงการปรับโครงสร้างเชิงรุกที่มีวัตถุประสงค์เพื่อลดค่าใช้จ่ายโดย¥ 350,000,000,000 ในปีที่สามลดบุคลากร 1,400 และกลับ บริษัท ที่จะทำกำไรจากปี 1998 แต่ในขณะที่โปรแกรมมีบางความสำเร็จครั้งแรกยอดขายของ บริษัท ก็ยังคงซบเซาเป็น เศรษฐกิจเอเชียยังคงปะทุ ในปี 1999 มิตซูบิชิถูกบังคับอีกครั้งเพื่อข้ามการจ่ายเงินปันผล หนี้ที่มีภาระดอกเบี้ยของมีจำนวนทั้งสิ้น¥ 1700000000000