However, whatever your own tendenci

However, whatever your own tendencies, you may in fact prefer working around people who do experience, and express, more positive than negative emotions. You probably like to be around people who are usually in a good mood and the positive atmosphere might just give your own mood a bit of a boost.

What you may be less aware of is that there’s a chance that working with someone high on positive affectivity could not only be a preferable experience, but it might even improve your work performance.

Your positive colleague’s good mood may extend to overt appreciation of you and the work you do, leading you to feel good about your abilities and your role and that in turn could inspire you to achieve more. And if your positive colleague also happens to be your team leader then so much the better: they may well influence you further to improve your performance through engaging in more helping and encouraging behaviours around you.

If this sounds fanciful, research specifically into customer service teams by Jennifer George suggests exactly that. As measured by their mood at work, team leaders who are higher in positive affectivity tend to have higher performing customer service teams.

Paraphrasing George’s reflections on positive affectivity and job performance, perhaps positive affectivity is one of the “silent drivers” of team performance, explaining why some leaders achieve much greater results than others, when their skills, abilities and methods seem to be similar.

Given that the concept of positive affectivity largely doesn’t seem to have made the trip out of the ivory towers, let alone been widely tested in an applied setting, there is clearly great scope to learn more about the concept in the spheres of work and productivity. But these resarch results point to significant potential in terms of real world application if we can find opportunities to use and test the concept in practice.

The dedication and insight of the few positive affectivity thought leaders like David Watson and Jennifer George (apologies to those not mentioned) has significantly advanced our understanding of the construct and its potential. However, their work highlights that this characteristic promises much more than it has delivered at this point.

Perhaps the semantically correct but less than catchy title hasn’t helped in the world of busy practitioners. The significance of positive affectivity is probably easier to grasp when we talk about working with people who are generally in a good or a bad mood. But that is a question for another time.

In the current economic climate, with every inch of performance and competitive advantage counting, now is the time to take positive affectivity to task and fully explore the consequential difference it could make to the workplace, to team performance and the quality of customer service provision.

Results (Thai) 1:

อย่างไรก็ตาม ว่าแนวโน้มของคุณเอง คุณอาจในความเป็นจริงต้องทำงานผู้มีประสบการณ์ และเอ็กซ์เพรส บวกมากขึ้นกว่าอารมณ์ลบ คุณคงอยากอยู่ใกล้คนที่มักอารมณ์ดี และบรรยากาศบวกอาจเพียงให้อารมณ์ของคุณเองของเพิ่มสิ่งที่คุณอาจไม่ทราบได้ว่า มีโอกาสที่ทำงานกับคนสูงบนมีผลกระทบของค่าบวกเท่านั้นไม่ประสบการณ์กว่า แต่อาจจะปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานของคุณอารมณ์ดีของเพื่อนร่วมบวกอาจขยายไปซาบซึ้งแจ่มแจ้งของคุณและงานที่คุณทำ นำคุณความดีเกี่ยวกับความสามารถของคุณ และบทบาทของคุณ และที่จะสามารถสร้างแรงบันดาลใจคุณให้มากขึ้น และ หากเพื่อนร่วมงานของคุณบวกยังเกิดขึ้นกับ ผู้นำของทีมงานแล้วมากดีกว่า: พวกเขาอาจดีมีอิทธิพลต่อคุณเพิ่มเติมเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพในการช่วยเพิ่มเติม และส่งเสริมพฤติกรรมคุณได้ถ้าเสียงนี้ fanciful วิจัยเฉพาะในทีมบริการลูกค้าโดยเจนนิเฟอร์จอร์จแนะนำตรงนั้น วัดจากอารมณ์ของพวกเขาที่ทำงาน ทีมงานที่มีผลกระทบของค่าบวกสูงกว่ามักจะ มีการทำทีมบริการลูกค้าสูงถอดความสะท้อนของจอร์จมีผลกระทบของค่าบวกและประสิทธิภาพงาน บวกบางทีมีผลกระทบของเป็นหนึ่งใน "เงียบไดร์เวอร์" ของทีมประสิทธิภาพ อธิบายทำไมผู้นำบางบรรลุผลมากยิ่งกว่าผู้อื่น เมื่อพวกเขาทักษะ ความสามารถ และวิธีการที่ดูเหมือนจะคล้ายกันระบุว่าแนวคิดของการมีผลกระทบของค่าบวกส่วนใหญ่ดูเหมือนจะไม่ ได้ทำการเดินจากอาคารไอวอรี่ นับ ประสารับการทดสอบในการตั้งค่าที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย มีขอบเขตชัดเจนมากเพื่อเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับแนวคิดในท้องถิ่นของงานและผลผลิต แต่ผลลัพธ์เหล่านี้ resarch ชี้ศักยภาพสำคัญในแอพลิเคชันในโลกถ้าเราสามารถค้นหาโอกาสในการใช้ และทดสอบแนวความคิดในทางปฏิบัติทุ่มเทและความเข้าใจที่น้อยบวกมีผลกระทบของผู้นำเช่น David Watson และเจนนิเฟอร์จอร์จ (ขอโทษที่ไม่ได้กล่าวถึง) ความคิดได้อย่างมีนัยสำคัญสูงเราเข้าใจในโครงสร้างและศักยภาพ อย่างไรก็ตาม งานเน้นว่า ลักษณะนี้สัญญามากขึ้นกว่าจะได้จัดส่งณจุดนี้บางทีในทางถูกต้อง แต่น้อยกว่าตัวเรื่องไม่ช่วยในโลกของผู้ที่ว่าง ความสำคัญของการมีผลกระทบของค่าบวกคงที่ง่ายต่อการเข้าใจเมื่อเราพูดคุยเกี่ยวกับการทำงานกับคนที่โดยทั่วไปดีหรืออารมณ์เสีย ได้ แต่ที่เป็นคำถามอีกครั้งในสภาพเศรษฐกิจปัจจุบัน กับทุกตารางนิ้วของประสิทธิภาพการทำงานและการได้เปรียบเชิงแข่งขันนับ ขณะนี้เป็นเวลาจะมีผลกระทบในเชิงบวกของงาน และสำรวจความแตกต่างอันที่มันสามารถทำให้การทำงาน ทีมประสิทธิภาพและคุณภาพของการจัดบริการลูกค้าทั้งหมด

Results (Thai) 2:

อย่างไรก็ตามสิ่งที่แนวโน้มของคุณเองคุณอาจจะชอบในความเป็นจริงการทำงานรอบคนที่ทำประสบการณ์และแสดงออกในเชิงบวกมากกว่าอารมณ์เชิงลบ คุณอาจต้องการที่จะเป็นรอบคนที่มักจะอยู่ในอารมณ์ที่ดีและบรรยากาศที่ดีก็อาจจะให้อารมณ์ของคุณเองบิตของการเพิ่ม. สิ่งที่คุณอาจจะตระหนักถึงก็คือว่ามีโอกาสที่จะทำงานร่วมกับคนที่สูงใน affectivity บวก อาจไม่เพียง แต่จะเป็นประสบการณ์ที่ดีกว่า แต่มันก็อาจปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานของคุณ. อารมณ์ดีเพื่อนร่วมงานที่เป็นบวกของคุณอาจขยายการแข็งค่าโจ่งแจ้งของคุณและงานที่คุณทำนำให้คุณรู้สึกดีเกี่ยวกับความสามารถและบทบาทของคุณและในทางกลับ สามารถสร้างแรงบันดาลใจให้คุณประสบความสำเร็จมาก และถ้าเพื่อนร่วมงานที่เป็นบวกของคุณยังเกิดขึ้นเป็นหัวหน้าทีมของคุณแล้วมากดีกว่าที่พวกเขาอาจจะมีผลต่อคุณเพิ่มเติมเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานของคุณผ่านการมีส่วนร่วมในการให้ความช่วยเหลือและส่งเสริมพฤติกรรมรอบตัวคุณ. ถ้าเสียงเพ้อฝันโดยเฉพาะการวิจัยเป็นทีมบริการลูกค้า โดยเจนนิเฟอร์จอร์จแสดงให้เห็นว่าที่ เป็นวัดโดยอารมณ์ของพวกเขาในการทำงานผู้นำทีมที่มีสูงขึ้นใน affectivity บวกมีแนวโน้มที่จะมีทีมงานบริการลูกค้าที่มีประสิทธิภาพที่สูงขึ้น. สะท้อนถอดความจอร์จใน affectivity บวกและการปฏิบัติงานในเชิงบวกที่อาจจะ affectivity เป็นหนึ่งใน "คนขับรถเงียบ" ของการทำงานเป็นทีม อธิบายว่าทำไมผู้นำบางคนบรรลุผลมากขึ้นกว่าคนอื่น ๆ เมื่อทักษะความสามารถและวิธีการของพวกเขาดูเหมือนจะคล้ายกัน. ระบุว่าแนวคิดของ affectivity บวกส่วนใหญ่ดูเหมือนจะไม่ได้ทำให้การเดินทางออกจากหอคอยงาช้างให้อยู่คนเดียวได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง การทดสอบในการตั้งค่าที่นำมาใช้มีขอบเขตอย่างชัดเจนที่ดีในการเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับแนวคิดในทรงกลมของการทำงานและการผลิต แต่ผล Resarch เหล่านี้ชี้ไปที่อาจเกิดขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในแง่ของการประยุกต์ใช้จริงในโลกถ้าเราสามารถหาโอกาสที่จะใช้และทดสอบแนวคิดในการปฏิบัติ. อุทิศตนและความเข้าใจของ affectivity บวกไม่กี่ผู้นำทางความคิดเช่นเดวิดวัตสันและเจนนิเฟอร์จอร์จ (ขอโทษไปยังผู้ที่ไม่ได้ กล่าวถึง) ได้อย่างมีนัยสำคัญสูงความเข้าใจของเราสร้างและศักยภาพของตน อย่างไรก็ตามการทำงานของพวกเขาเน้นว่าสัญญาลักษณะนี้มากขึ้นกว่าที่มีการส่งมอบที่จุดนี้. บางทีความหมายที่ถูกต้อง แต่น้อยกว่าชื่อลวงไม่ได้ช่วยในโลกของผู้ปฏิบัติงานยุ่ง ความสำคัญของการ affectivity ในเชิงบวกคืออาจจะง่ายต่อการเข้าใจเมื่อเราพูดถึงการทำงานร่วมกับคนที่มีทั่วไปในที่ดีหรืออารมณ์ที่ไม่ดี แต่นั่นเป็นคำถามสำหรับอีกครั้ง. ในภาวะเศรษฐกิจปัจจุบันกับนิ้วของประสิทธิภาพการทำงานและการนับเปรียบในการแข่งขันทุกคนตอนนี้เป็นเวลาที่จะใช้ affectivity บวกกับงานและรองรับการสำรวจความแตกต่างที่เป็นผลสืบเนื่องจะทำให้การทำงานเพื่อทีม ประสิทธิภาพและคุณภาพของการให้บริการลูกค้า

Results (Thai) 3:

แต่สิ่งที่ตัวคุณเอง คุณอาจจะในความเป็นจริงต้องทำงานรอบผู้ที่มีประสบการณ์และบริการ , บวก มากกว่าอารมณ์ที่เป็นลบ คุณอาจต้องการที่จะเป็นรอบคนที่มักจะอยู่ในอารมณ์ที่ดีและบรรยากาศที่เป็นบวก อาจทำให้อารมณ์ของคุณเองนิดหน่อย

เพิ่มสิ่งที่คุณอาจจะไม่ตระหนักถึงมันก็มีโอกาสที่จะทำงานกับคนที่สูงกระทบในเชิงบวกอาจจะไม่เพียง แต่เป็นประสบการณ์ดีกว่า แต่มันอาจจะปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานของคุณ

บวกของคุณ เพื่อนร่วมงานก็ดี อารมณ์อาจขยายตัวเพิ่มของคุณและงานที่คุณทำนำคุณรู้สึกดีเกี่ยวกับความสามารถของคุณและบทบาทและที่ในการเปิดอาจจะสร้างแรงบันดาลใจให้คุณเพื่อให้บรรลุของคุณ และถ้าเพื่อนร่วมงานของคุณบวกยัง เกิดขึ้นเป็น หัวหน้าทีมก็มากดีกว่า : พวกเขาอาจมีอิทธิพลต่อคุณเพิ่มเติมเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพของคุณผ่านการมีส่วนร่วมในการช่วยเหลือ และสนับสนุนพฤติกรรมมากขึ้นๆ

ถ้านี้เสียงเพ้อฝัน ,การวิจัยโดยเฉพาะทีมบริการลูกค้าโดยเจนนิเฟอร์จอร์จแนะนำตรงที่ เป็นวัดโดยอารมณ์ของพวกเขาในที่ทำงาน หัวหน้าทีมที่มีสูงขึ้นกระทบในเชิงบวก มักจะมีประสิทธิภาพสูงขึ้นทีมบริการลูกค้า

การถอดความของจอร์จ สะท้อนกระทบเชิงบวกกับผลการปฏิบัติงาน บางทีบวกกระทบเป็นหนึ่งใน " เงียบไดรเวอร์ " การปฏิบัติงานของทีมอธิบายว่าทำไมผู้นำบางคนบรรลุผลมากขึ้นกว่าคนอื่น ๆ เมื่อพวกเขา ทักษะความสามารถและวิธีการที่ดูเหมือนจะคล้ายกัน

ระบุว่าแนวคิดของแคดเมียมบวกส่วนใหญ่ดูเหมือนจะไม่ทำให้การเดินทางออกจากหอคอยงาช้างให้อยู่คนเดียวได้รับอย่างกว้างขวางใช้ในการประยุกต์การมีขอบเขตชัดเจนมากที่จะเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับแนวคิดในทรงกลมของงานและการผลิต แต่ผลลัพธ์การวิจัยเหล่านี้ชี้ไปที่ที่มีศักยภาพที่สำคัญในแง่ของการใช้โลกจริง ถ้าเราสามารถหาโอกาสในการใช้และทดสอบแนวคิดในการปฏิบัติ .

ทุ่มเทและความเข้าใจของแคดเมียมบวกไม่กี่คิดว่าผู้นำเหมือนเดวิดวัตสันและเจนนิเฟอร์ จอร์จ ( ขออภัยที่ไม่ได้กล่าวถึง ) มีสถิติขั้นสูงของเราและความเข้าใจในการสร้างศักยภาพของ อย่างไรก็ตาม งานของพวกเขา ภาพลักษณะนี้สัญญามากขึ้นกว่าที่มีการส่งมอบในจุดนี้ . . .

บางทีความหมายถูกต้อง แต่น้อยกว่าชื่อลวงไม่ได้ช่วยอะไรในโลกของผู้ปฏิบัติงานที่ไม่ว่าง ความสำคัญของกระทบในเชิงบวกอาจจะง่ายที่จะเข้าใจเมื่อเราพูดคุยเกี่ยวกับการทำงานกับคนที่เป็นโดยทั่วไปดี หรืออารมณ์ที่ไม่ดี แต่นั่นเป็นคำถามอีกครั้ง

ในภาวะเศรษฐกิจปัจจุบันกับทุกนิ้วของประสิทธิภาพและความได้เปรียบทางการแข่งขัน นับ ตอนนี้คือเวลากระทบบวกกับงานอย่างเต็มที่และศึกษาต่อต่างให้กับที่ทำงาน กับผลงานของทีม และคุณภาพของการให้บริการลูกค้า