SECTION 1: ‘FORREST GUMP’ AND FILM

SECTION 1: ‘FORREST GUMP’ AND FILM STRUCTURE
‘. . . I don’t know if we have a destiny or if we’re just floating around accidentally on a breeze.
Maybe it’s both at the same time’
(Forrest Gump)
Consider the plots of three popular films from that time:
In ‘Die Hard’, a group of terrorists hold to ransom a high-rise tower block. But unknown to
them a tough cop (Bruce Willis) is hiding in the building. Will he ‘take out’ the terrorists and
rescue all the hostages before they blow up the building…?
In ‘Dead Calm’, a couple go yachting in the Caribbean. They come across an apparently
sinking ship, and take aboard a man who claims to be a sole survivor. But whilst the husband
(Sam Neill) makes a tour of the ‘ghost’ ship, the survivor – a psychopath – takes over the
yacht and kidnaps the young wife (Nicole Kidman). Can she regain control of the yacht and
get back to her husband before he drowns…?
In ‘Jurassic Park’, a ‘mad scientist’ (Richard Attenborough) invites a small group of experts to
his private island, where he has accomplished a scientific miracle: he has brought long-extinct
dinosaurs back to life. But the security system on the island collapses, and the dinosaurs run
rampage. Can our heroes outwit the dinosaurs and escape unscathed…?
In terms of structure and narrative, these three are typical of the great majority of films
produced in Hollywood each year. What drives them onward in their sheer simplicity? First
we are introduced to the situation and to the characters who must play that situation through.
Then we simply sit and watch, and the story, two hours later, reaches its reasonably
inevitable conclusion.
These films aren’t predictable. Far from it; they are full of twists and turns. But the twists and
turns take place within a formula that’s been clearly spelled out in advance by the filmmakers,
and which is clearly understood by the audience. If ‘Die Hard’ took a bizarre turning half way
through, and Bruce Willis gave up on the terrorists and went Christmas shopping instead, we,
(the audience) would feel cheated. If Nicole Kidman, in ‘Dead Calm’, fell in love with the
psychopath and set sail for Jamaica, we’d feel cheated. If the cast of ‘Jurassic Park’ had
ignored the rampaging dinosaurs and sat down for a game of charades, we’d feel cheated.
But to ‘feel cheated’ implies there are rules by which we expect the filmmakers to play...
So let’s consider ‘Forrest Gump’. Does ‘Forrest Gump’ stick to the rules…?
One common feature of ‘Die Hard’, ‘Dead Calm’ and ‘Jurassic Park’ is that – in terms of
breadth of narrative – all three make a lot out of comparatively little; they stay in one place,
they feature only a few characters, they cover a short period of time…
‘Forrest Gump’ is more ambitious. It covers the world, has a cast of thousands, and spans
whole decades. It is epic in its breadth. During its two-and-a-half hours duration we’re shown
wars, assassinations, scandals… We’re shown Forrest’s childhood, his college days, his
career as soldier, shrimper, runner, millionaire… And beyond this life story we’re presented
with a sprawling tapestry of recent American history. It’s a film that truly bulges at the seams.
The film’s director, Robert Zemeckis, has described the film as ‘essentially a picaresque novel
for the screen’. The term ‘picaresque’ refers to a type of novel common in the 18th century.
Usually these were lengthy prose works of many hundred pages, following the rambling
adventures of some heroic (or unheroic) character. These works were always episodic; they
didn’t build towards a grand conclusion, they simply tacked one self-contained scene after
another. The novels ended not because the story was over; had the author wished, the story
could have sprawled onwards forever.
How accurate does ‘picaresque’ seem as a description of the structure of ‘Forrest Gump’?

Results (Thai) 1:

ส่วนที่ 1: โครงสร้าง 'สฟอร์เรสท์ GUMP' และฟิล์ม‘. . . ถ้าเรามีโชคชะตาเป็น หรือ ถ้าเรากำลังน้ำตั้งใจในสายลมไม่อาจจะเป็นทั้งสองอย่างในเวลาเดียวกัน '(สฟอร์เรสท์ Gump)พิจารณาโครงการสามยอดนิยมภาพยนตร์จากช่วงเวลานั้น:ใน Die Hard' กลุ่มผู้ก่อการร้ายถือไถ่ถอนบล็อกอาคารอาคารสูง แต่ไม่รู้จักให้ตำรวจยาก (Bruce Willis) พวกเขาซ่อนอยู่ในอาคาร เขา 'จะออก' ผู้ก่อการร้าย และช่วยตัวประกันทั้งหมดก่อนที่พวกเขาจะระเบิดอาคาร...ใน 'ตายสงบ' คู่ไปแล่นเรือสำราญในทะเลแคริบเบียน พวกเขามาเห็นได้ชัดเรือจม และรับคน ผู้รอดชีวิตบนเรือ แต่ในขณะที่สามี(แซมนีล) ทำให้ราคาทัวร์ของเรือ 'ผี' –ผู้ป่วยโรคจิต – ผู้เสียหายจะมากกว่าเรือสำราญ และลักพาตัวภรรยาสาว (นิโคลคิดแมน) เธอสามารถควบคุมเรือ และกลับไปสามีของเธอก่อนที่เขาดังกว่าบทสนทนา...ใน 'จูราสสิค' 'นักวิทยาศาสตร์บ้า' (ริชาร์ด Attenborough) เชิญผู้เชี่ยวชาญกลุ่มเล็ก ๆเกาะส่วนตัวของเขา ซึ่งเขาประสบความสำเร็จความมหัศจรรย์ทางวิทยาศาสตร์: มีมานานสูญพันธุ์ไดโนเสาร์ไปชีวิต แต่ใช้ระบบรักษาความปลอดภัยบนยุบเกาะ และไดโนเสาร์อาละวาด สามารถฮีโร่ของเราขัดตาไดโนเสาร์และหลบหนีผ่าน...ในแง่ของโครงสร้างและการเล่าเรื่อง สามเหล่านี้เป็นของส่วนใหญ่ของภาพยนตร์ผลิตในฮอลลีวู้ดแต่ละปี สิ่งที่ไดรฟ์พวกเขาเป็นต้นไปในความเรียบง่ายของพวกเขาแท้จริง ครั้งแรกเราจะนำมาใช้ในสถานการณ์ และให้ตัวละครที่ต้องเล่นสถานการณ์ที่ผ่านแล้วเราก็นั่งดู และถึงสองชั่วโมงต่อมา เรื่องราว ความสมเหตุสมผลข้อสรุปอย่างหลีกเลี่ยงไม่ภาพยนตร์เหล่านี้ไม่สามารถคาดเดาได้ ห่างไกลจากมัน พวกเขาจะบิดและเปิด แต่การบิด และจะใช้สถานที่ภายในสูตรที่เป็นได้ชัดเจนสะกดออกล่วงหน้า โดยผู้สร้างภาพยนตร์และที่เป็นที่เข้าใจอย่างชัดเจน โดยผู้ชม หาก 'ตายยาก' เอาแปลกประหลาดเปิดครึ่งหนึ่งผ่าน และผู้ก่อการร้ายได้ และไปช้อปปิ้งเทศกาลคริสต์มาสแทน เรา(ผู้เข้าชม) จะรู้สึกโกง หากนิโคลคิดแมน ใน 'ตายสงบ' ตกหลุมรักกับการโรคจิตและแคลิฟอร์เนียสำหรับ เราจะรู้สึกโกง ถ้าหล่อของ 'Jurassic Park'ละเว้นตัวไดโนเสาร์อาละวาด และนั่งลงเล่น charades เราจะรู้สึกโกงแต่ใจ 'โกง ' หมายถึงมีกฎที่เราคาดหวังว่าภาพยนตร์จะเล่น...ดังนั้นลองพิจารณา 'สฟอร์เรสท์ Gump' ไม่ 'สฟอร์เรสท์ Gump' ติดกฎของ...คุณลักษณะทั่วไปอย่างหนึ่ง 'ตายยาก', 'ตาย ' และ 'จูราสสิค' คือว่า -ในแง่ของกว้างของเล่าเรื่อง – ทั้งสามให้มากค่อนข้างน้อย พวกเขาอยู่ในเดียวคุณลักษณะเฉพาะกี่ตัว ครอบคลุมระยะเวลา...'สฟอร์เรสท์ Gump' มีความทะเยอทะยานมากขึ้น มันครอบคลุมโลก มีพัน และครอบคลุมทศวรรษที่ผ่านมาทั้งนี้ มันเป็นมหากาพย์ในกว้าง ในช่วงระยะเวลาสอง และครึ่งชั่วโมง เราจะเห็นสงคราม assassinations เรื่องอื้อฉาวทาง... เราจะเห็นเด็กของสฟอร์เรสท์ วันวิทยาลัยเขา ของเขาอาชีพเป็นทหาร วิ่ง shrimper เศรษฐี... และนอกเหนือจากเรื่องราวในชีวิตนี้ เรากำลังนำเสนอมีพรมแห่งประวัติศาสตร์อเมริกันที่ล่าสุด เป็นภาพยนตร์ที่แท้จริง bulges ที่ตะเข็บผู้กำกับของภาพยนตร์ โรเบิร์ตเซเม็กคิส ได้อธิบายฟิล์มเป็น ' นวนิยาย picaresque เป็นหลักสำหรับหน้าจอ ' คำว่า 'picaresque' หมายถึงประเภทของนวนิยายในศตวรรษที่ 18ปกติเหล่านี้ได้ทำงานยาวร้อยแก้วร้อยหลาย ๆ ต่อ rambling การการผจญภัยของบางตัวละครที่กล้าหาญ (หรือ unheroic) ผลงานเหล่านี้ได้หลุด พวกเขาไม่ได้สร้างต่อข้อสรุปที่แกรนด์ พวกเขาเพียงแค่ผนวกหนึ่งตนเองมีฉากหลังอื่น นิยายที่จบไม่ได้ เพราะเรื่องราวได้มากกว่า ผู้เขียนอยาก เรื่องราวอาจได้นอนเหยียดยาวขึ้นไปตลอดกาลวิธีการไม่ถูกต้อง 'picaresque' ที่ดูเหมือนเป็นคำอธิบายของโครงสร้างของ 'สฟอร์เรสท์ Gump'

Results (Thai) 2:

ส่วนที่ 1: 'Forrest Gump' และภาพยนตร์โครงสร้าง
' . . ผมไม่ทราบว่าถ้าเรามีโชคชะตาหรือถ้าเราเพียงแค่ลอยรอบตั้งใจในสายลม.
อาจจะเป็นทั้งสองอย่างในเวลาเดียวกัน '
(Forrest Gump)
พิจารณาแปลงภาพยนตร์สามยอดนิยมจากเวลาที่:
ใน' Die Hard 'กลุ่มผู้ก่อการร้ายค้างไว้เพื่อเรียกค่าไถ่สูงหอบล็อก แต่ไม่รู้จักกับ
พวกเขาเป็นตำรวจที่ยากลำบาก (บรูซวิลลิส) จะซ่อนตัวอยู่ในอาคาร เขาจะ 'จะออก' ผู้ก่อการร้ายและ
ช่วยเหลือตัวประกันทั้งหมดก่อนที่จะระเบิดขึ้นอาคาร ... ?
ใน 'ความสงบตายทั้งคู่ไปแล่นเรือในทะเลแคริบเบียน พวกเขาเจอเห็นได้ชัดว่า
เรือที่กำลังจมและใช้เรือชายคนหนึ่งที่อ้างว่าเป็นคนเดียวที่รอดชีวิต แต่ในขณะที่สามี
(แซมนีลล์) ทำให้การท่องเที่ยวของ 'ผี' เรือผู้รอดชีวิต - โรคจิต - จะใช้เวลามากกว่า
เรือยอชท์และลักพาตัวภรรยาสาว (นิโคลคิดแมน) เธอสามารถควบคุมเรือยอชท์และ
ได้รับกลับมากับสามีของเธอก่อนที่เขาจะฟันฟาง ... ?
ใน 'Jurassic Park' เป็น 'วิทยาศาสตร์' (ริชาร์ด Attenborough) เชิญกลุ่มเล็ก ๆ ของผู้เชี่ยวชาญในการ
เกาะส่วนตัวของเขาซึ่งเขาได้ประสบความสำเร็จทางวิทยาศาสตร์ มิราเคิลเขาได้นำความยาวสูญพันธุ์
ไดโนเสาร์กลับมามีชีวิต แต่ระบบรักษาความปลอดภัยบนเกาะทรุดและไดโนเสาร์วิ่ง
อาละวาด ฮีโร่ของเราสามารถชิงไหวชิงพริบไดโนเสาร์และหลบหนีได้รับบาดเจ็บ ... ?
ในแง่ของโครงสร้างและการเล่าเรื่องที่สามเหล่านี้เป็นปกติของส่วนใหญ่ของภาพยนตร์
ที่ผลิตในฮอลลีวู้ดในแต่ละปี สิ่งที่ผลักดันให้พวกเขาเป็นต้นไปในความเรียบง่ายที่แท้จริงของพวกเขา ครั้งแรกที่
เราจะแนะนำให้รู้จักกับสถานการณ์และตัวละครที่ต้องเล่นสถานการณ์ที่ผ่าน.
แล้วเราก็นั่งดูและเรื่องที่สองชั่วโมงต่อมาถึงสมเหตุสมผลของ
ข้อสรุปแน่นอน.
ภาพยนตร์เหล่านี้จะไม่สามารถคาดเดา ไกลจากมัน; พวกเขาจะเต็มบิดและเปลี่ยน แต่บิดและ
ผลัดกันใช้สถานที่ภายในสูตรที่ได้รับการสะกดอย่างชัดเจนล่วงหน้าโดยผู้สร้างภาพยนตร์ที่เป็น
และที่เป็นที่เข้าใจอย่างชัดเจนจากผู้ชม หาก 'Die Hard' เอาแปลกประหลาดหันครึ่งทาง
ผ่านและบรูซวิลลิสให้ขึ้นผู้ก่อการร้ายและไปช้อปปิ้งคริสต์มาสแทนเรา
(ผู้ชม) จะรู้สึกโกง ถ้านิโคลคิดแมนใน 'สงบ' ตกหลุมรักกับ
โรคจิตและการตั้งค่าเรือสำหรับจาเมกาเราจะรู้สึกโกง ถ้าโยนของ 'Jurassic Park' ได้
ละเว้นไดโนเสาร์อาละวาดและนั่งลงสำหรับเกมทายเราจะรู้สึกโกง.
แต่การที่จะรู้สึกโกง 'หมายถึงการมีกฎระเบียบโดยที่เราคาดหวังว่าการถ่ายทำภาพยนตร์ที่จะเล่น ...
ดังนั้น ขอพิจารณา 'Forrest Gump' หรือไม่ 'Forrest Gump' ติดกฎ ...
หนึ่งคุณลักษณะทั่วไปของ 'Die Hard', 'สงบ' และ 'Jurassic Park' คือ - ในแง่ของ
ความกว้างของการเล่าเรื่อง - ทั้งสามให้มากออกจากการเปรียบเทียบเล็ก ๆ น้อย ๆ ; พวกเขาอยู่ในสถานที่หนึ่ง
ที่พวกเขามีเพียงไม่กี่ตัวละครที่พวกเขาครอบคลุมระยะเวลาสั้น ๆ ...
'Forrest Gump' เป็นความทะเยอทะยานมากขึ้น มันครอบคลุมโลกมีการโยนของพันและครอบคลุม
ทั้งทศวรรษที่ผ่านมา มันเป็นมหากาพย์ในความกว้างของมัน ในช่วงระยะเวลาสองชั่วโมงและครึ่งของมันแสดงให้เราเห็น
สงครามลอบเรื่องอื้อฉาว ... เรากำลังแสดงให้เห็นว่าในวัยเด็ก Forrest ของวันที่วิทยาลัยของเขาเขา
อาชีพเป็นทหาร Shrimper วิ่งเศรษฐี ... และนอกเหนือจากเรื่องราวในชีวิตนี้เรา กำลังนำเสนอ
ด้วยพรมแผ่กิ่งก้านสาขาของประวัติศาสตร์อเมริกันที่ผ่านมา มันเป็นภาพยนตร์ที่แท้จริงนูนที่ตะเข็บได้.
ผู้กำกับภาพยนตร์ของโรเบิร์ตเซเมคิสได้อธิบายว่าฟิล์มเป็น 'หลักนวนิยายโจร
สำหรับหน้าจอ' คำว่า 'โจร' หมายถึงประเภทของนวนิยายเรื่องธรรมดาในศตวรรษที่ 18.
เหล่านี้มักจะมีผลงานออกมาเป็นร้อยแก้วยาวหลายร้อยหน้าต่อไปนี้การท่องเที่ยว
ผจญภัยของวีรบุรุษบาง (หรือ unheroic) ตัวละคร ผลงานเหล่านี้ได้เสมอหลักการ; พวกเขา
ไม่ได้สร้างไปสู่ข้อสรุปที่ยิ่งใหญ่พวกเขาก็ติดอยู่ที่เกิดเหตุอยู่ในตัวเองหนึ่งหลังจากที่
อื่น นิยายจบลงไม่ได้เพราะเป็นเรื่องที่มากกว่า; ได้ผู้เขียนอยากให้เรื่องที่
จะได้นอนเหยียดยาวเป็นต้นไปตลอดกาล.
วิธีที่ถูกต้องไม่ 'โจร' ดูเหมือนเป็นคำอธิบายของโครงสร้างของ 'Forrest Gump' หรือไม่?

Results (Thai) 3:

ส่วนที่ 1 : " " ภาพยนตร์ Forrest Gump และโครงสร้าง" . . . . . . . ข้าไม่รู้ว่าถ้าเรามีโชคชะตา หรือถ้าเรากำลังลอยอยู่รอบ ๆโดยบังเอิญบนสายลมบางทีมันอาจเป็นทั้งสองอย่างในเวลาเดียวกัน "( Forrest Gump )พิจารณาแปลงสามภาพยนตร์ยอดนิยมจากเวลาที่ :" ตาย " , กลุ่มผู้ก่อการร้ายจับไปเรียกค่าไถ่ตัวบล็อกหอคอยสูงระฟ้า แต่ที่ไม่รู้จักพวกเขาเป็นตำรวจยาก ( บรูซ วิลลิส ) อยู่ในอาคาร เขาจะ " ออกจาก " ผู้ก่อการร้ายและช่วยตัวประกันทั้งหมดก่อนที่พวกเขาจะพัง . . . . . . . ?ใน " ตายสงบ " คู่ไปล่องเรือในแคริบเบียน พวกเขามาข้ามเป็นเห็นได้ชัดเรือจม และนำขึ้นเรือคนที่อ้างว่าเป็นผู้รอดชีวิตเพียงคนเดียว แต่ในขณะที่สามี( แซม นีลล์ ) ทำให้ทัวร์ของ " ผี " เรือผู้รอดชีวิต ( โรคจิต ) จะผ่านเรือยอชท์และ kidnaps ภรรยาสาว ( นิโคล คิดแมน ) เธอสามารถกลับมาควบคุมเรือและกลับไปหาสามีของเธอ ก่อนที่เขาจะจม . . . . . . . ?ใน Jurassic Park " " , " " ( นักวิทยาศาสตร์บ้าริชาร์ด Attenborough เชิญกลุ่มเล็ก ๆของผู้เชี่ยวชาญเกาะส่วนตัวของเขา ที่เขาได้ทำปาฏิหาริย์ทางวิทยาศาสตร์ เขาได้นำยาวสูญพันธุ์ไดโนเสาร์กลับมามีชีวิต แต่ระบบรักษาความปลอดภัยบนเกาะถล่ม และไดโนเสาร์ วิ่งอาละวาด สามารถวีรบุรุษของเราชิงไหวชิงพริบไดโนเสาร์และหลบหนีจากอันตราย . . . . . . . ?ในแง่ของโครงสร้างการเล่าเรื่อง และ สามเหล่านี้เป็นปกติของคนส่วนใหญ่ที่ดีของภาพยนตร์ผลิตใน Hollywood ในแต่ละปี สิ่งที่ผลักดันให้พวกเขาไปในความเรียบง่ายเลี่ยงของพวกเขา ? ครั้งแรกเรารู้จักกับสถานการณ์และตัวละครที่ต้องเล่นในสถานการณ์ที่ผ่านแล้วเราก็นั่งดู และฟัง สองชั่วโมงต่อมา ถึงเหมาะสมข้อสรุปที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ภาพยนตร์เหล่านี้จะไม่ทาย ห่างไกลจากมัน พวกเขาจะเต็มบิดและเปลี่ยน แต่บิดและจะใช้สถานที่ภายในสูตรที่ถูกสะกดอย่างชัดเจนล่วงหน้าโดยผู้สร้างภาพยนตร์ ,และที่ชัดเจนเข้าใจโดยผู้ชม ถ้า " ตาย " มาแปลกเปลี่ยนทางครึ่งผ่าน และ บรูซ วิลลิส ให้กับผู้ก่อการร้าย และไปช้อปปิ้งคริสต์มาสแทนเรา( ผู้ชม ) จะรู้สึกว่าโกง ถ้านิโคลคิดแมนในตาย " สงบ " ตกหลุมรักโรคจิตและออกเรือสำหรับจาไมก้า เราจะรู้สึกว่าโกง ถ้าโยนของ " " Jurassic Park มีไม่สนใจเล่นไดโนเสาร์และนั่งสำหรับเล่นเกมส์ทายคำ เราก็รู้สึกว่าโกงแต่รู้สึกโกง " บางมีกฎระเบียบที่เราคาดหวังว่าภาพยนตร์ที่จะเล่น . . . . . . .ดังนั้น ลองพิจารณา " Forrest Gump " ไม่ " Forrest Gump " ยึดกฎ . . . . . . . ?หนึ่งคุณลักษณะทั่วไปของ " ตาย " ตาย " " และ " " Jurassic Park สงบก็คือ – ในแง่ของความกว้างของ–เรื่องเล่าทั้งสามให้มากออกไปกว่าเล็กน้อย พวกเขาอยู่ในสถานที่แห่งหนึ่งพวกเขามีเพียงไม่กี่ตัวอักษร ซึ่งจะครอบคลุมระยะเวลาที่สั้นของเวลา . . . . . . ." Forrest Gump " ทะเยอทะยานมากขึ้น มันครอบคลุมทั่วโลก มีการโยนของและขยายพันตลอดทศวรรษที่ผ่านมา มันเป็นมหากาพย์ในความกว้าง ในช่วงครึ่งชั่วโมง เวลาเราแสดงสงครามลอบสังหารอื้อฉาว . . . . . . . เราแสดง Forrest วัยเด็ก , วันที่วิทยาลัยของเขาอาชีพเป็นทหาร shrimper , วิ่ง , เศรษฐี . . . . . . . แล้วเรื่องราวชีวิตนี้เราจะนำเสนอกับพรมแผ่กิ่งก้านสาขาของประวัติศาสตร์อเมริกาล่าสุด มันเป็นภาพยนตร์ที่อย่างแท้จริง bulges ที่ตะเข็บของผู้กำกับ โรเบิร์ต เซเมคคิส ได้อธิบายภาพยนตร์เป็นหลักเกี่ยวกับการผจญภัยใหม่สำหรับหน้าจอของ คำว่า " เกี่ยวกับการผจญภัย " หมายถึงประเภทของนวนิยายทั่วไปในศตวรรษที่ 18โดยปกติเหล่านี้ยาวงานร้อยแก้วของหลายร้อยหน้า ตามไปเรื่อยเปื่อยการผจญภัยของวีรบุรุษ ( หรือ unheroic ) อักขระ ผลงานเหล่านี้ได้เสมอหลักการนั้นไม่ได้สร้างต่อ สรุป แกรนด์ พวกเขาเพียงแค่เพิ่มหนึ่งในฉากหลังอีก นวนิยายจบลงไม่ใช่เพราะเรื่องราวจบลง มีผู้เขียนต้องการ เรื่องราวจะนั่งอยู่ต่อไปตลอดกาลวิธีที่ถูกต้องไม่ " " ดูเหมือนจะเป็นเกี่ยวกับการผจญภัยรายละเอียดของโครงสร้างของ " Forrest Gump "