or another year running, the issue

or another year running, the issue of inequality dominated economic discourse. In 2014, a French economist's epic treatise on the wealth divide — Thomas Piketty's “Capital in the 21st Century” — turned into a surprise bestseller, while the message of the 2012 “Occupy” movement appeared to resonate in the corridors of power: The head of the Federal Reserve, Janet Yellen, felt compelled to warn of the peril posed by the widening gap between the rich and the poor. Even the annual talkshop of the global 1 percent at the World Economic Forum (WEF) in Davos took notice, labeling inequality the top global economic cause for concern in the coming year.

Acknowledging the economic risk of inequality was an important step forward, but something was missing from the conversation. In their statements, neither Yellen nor the World Economic Forum mentions the factor of race. Piketty dedicated a handful of pages in his 696-page book to a discussion of the Atlantic slave trade. The discussion on inequality among policymakers and pundit remains largely colorblind.

Yet, the reality of inequality in the United States is anything but colorblind. White households have been, on average, significantly wealthier than African-American households ever since economists started measuring the racial wealth gap; most recently, the median white household was found to own 13 times as much wealth as the median black household, according to a Pew Research analysis of Federal Reserve data. Black unemployment is consistently stuck at double the white rate. And educational attainment doesn't do much to close the gap: According to the 2013 Survey of Consumer Finances, the average black college graduate still accumulates less wealth than the average white high school dropout.

In absolute terms, black people are not as poor as they were before the civil rights era, according William Darity Jr., a professor of public policy at Duke University. But judging black wealth compared with white wealth tells a different story. "I would argue, if you look at the relative economic position, we actually have not made substantial progress of any significance since 1964," he said.

By some measures, racially stratified economic inequality has gotten worse since the end of the Jim Crow era. In 1967 the median white non-Hispanic household's income was 43 percent higher than the median black household's income. In 2013, according to the most recent Census data available, white income was 68 percent higher.

Racial inequality persists in part because U.S. public policy has never really corrected for the racist laws and practices of the past, according to Valerie Wilson, director of the program on race, ethnicity and the economy at the Economic Policy Institute, a left-leaning think tank. Even though the government now mandates equal access to public accommodations and has banned segregationist practices such as redlining, the inequalities created by those practices still keep getting passed down from generation to generation.

“We can change discriminatory laws, but unless we then go back and make an effort to remedy the impact that those laws have over an extended period of time, inequality just continues to persist and gets worse,” said Wilson.

A 2013 Brandeis report on the racial wealth gap identified inheritance and homeownership as two main drivers of inequality between black and white households. Inheritance reinforces long-term inequalities because it moves wealth across generations; gaps in homeownership can partly be attributed to a history of residential segregation and "historic differences in access to credit,” according to the report.

And then there's the housing crisis. When a wave of foreclosures rippled across the United States beginning in 2007, people of color got hit the hardest, largely because they were disproportionately bound by predatory lending agreements. The financial crisis and recession may have been a disaster for white households, but they were something closer to an apocalypse for black families. According to the Brandeis report, “half the collective wealth of African-American families was stripped away during the Great Recession.”

There’s no way policymakers can adequately address inequality in the United States overall without recognizing the effects of the racial wealth gap, said Wilson.

“I think it’s insane to try to have these colorblind discussions about inequality when it’s clearly not a race-neutral issue,” she said. “And I understand how some may feel that there’s political expediency in doing that and that you can build a broader coalition. But I honestly don’t think you can remedy the problem without addressing race and disparate racial impacts.”

- See more at: http://www.occupy.com/article/year-inequality-racial-disparity-can-no-longer-be-ignored#sthash.CAOcbu7Q.dpuf

Results (Thai) 1:

หรือปีอื่นที่ทำงาน ปัญหาของความไม่เท่าเทียมกันครอบงำวาทกรรมเศรษฐกิจ ในปี 2014 ธรรมศาสตร์มหากาพย์ของนักเศรษฐศาสตร์ฝรั่งเศสแบ่งสมบัติ — Thomas Piketty "ทุนใน the 21st Century" — เปิดเป็น bestseller เป็นประหลาดใจ ในขณะที่ความเคลื่อนไหว "ครอบครอง" 2012 ปรากฏให้ ดังก้องในทางเดินของพลังงาน: หัวของธนาคารกลาง เจ Yellen รู้สึก compelled เตือนของมังกรโดย widening ช่องว่างระหว่างคนรวยและคนจน แม้ talkshop ปีสากล 1 เปอร์เซ็นต์ที่ในโลกเศรษฐกิจฟอรัม (WEF) ในดาโฟสเอาประกาศ ติดฉลากความไม่เท่าเทียมกันบนโลกเศรษฐกิจสาเหตุของความกังวลในปีหน้ายอมรับความเสี่ยงของความไม่เท่าเทียมกันทางเศรษฐกิจขั้นตอนสำคัญไปข้างหน้า แต่บางสิ่งบางอย่างหายไปจากการสนทนา ในคำสั่งของพวกเขา ไม่ Yellen หรือสภาเศรษฐกิจโลกกล่าวถึงปัจจัยของการแข่งขัน Piketty ทุ่มเทขยุ้มหน้าในหนังสือของเขาหน้า 696 การสนทนาของการค้าทาสแอตแลนติก การอภิปรายเกี่ยวกับความไม่เท่าเทียมกันระหว่างผู้กำหนดนโยบายและธุรกิจบัณฑิตย์ยังคงตาบอดสีส่วนใหญ่ยัง ความจริงของความไม่เท่าเทียมกันในสหรัฐอเมริกาคืออะไรแต่ตาบอดสี ครัวเรือนขาวได้ โดยเฉลี่ย wealthier อย่างมีนัยสำคัญกว่าครัวเรือน African-American ตั้งแต่นักเศรษฐศาสตร์เริ่มวัดช่องว่างความมั่งคั่งเชื้อชาติ ล่าสุด เรือนมัธยฐานขาวพบกับตัวเอง 13 ครั้งเท่าอีกมากมายให้เป็นครัวเรือนดำมัธยฐาน ตามการวิเคราะห์วิจัยพิวข้อมูลของธนาคารกลาง อย่างสม่ำเสมอมีติดงานดำคู่สีขาวราคา และสำเร็จการศึกษาไม่มากที่จะปิดช่องว่าง: ตาม 2013 สำรวจของผู้บริโภคเงิน บัณฑิตวิทยาลัยสีดำเฉลี่ยยังคงสะสมมั่งคั่งน้อยกว่าเป็นถอนมัธยมขาวเฉลี่ยในเงื่อนไขที่แน่นอน คนเป็นไม่เป็นจนเป็นพวกก่อนยุค rights แพ่ง ตาม William Darity จูเนียร์ อาจารย์ของนโยบายสาธารณะในมหาวิทยาลัยดุ๊ก แต่ตัดสินเปรียบเทียบกับสีขาวให้เลือกมากมายให้เลือกมากมายสีดำบอกเรื่องราวต่าง ๆ "ฉันจะโต้เถียง ถ้าคุณดูที่ตำแหน่งทางเศรษฐกิจ เราจริงไม่ได้ความคืบหน้าพบของสำคัญใด ๆ ตั้งแต่ 1964 เขากล่าวว่าโดยบางมาตรการ เหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ racially stratified ได้รับแย่ตั้งแต่สิ้นสุดยุค Jim Crow ในค.ศ. 1967 เดียนขาว Hispanic ไม่ใช่บ้านของรายได้ได้ 43 เปอร์เซ็นต์สูงกว่ารายได้ของบ้านสีดำมัธยฐาน ในปี 2013 ตามสำมะโนข้อมูลล่าสุดว่าง รายได้ขาวได้ 68 เปอร์เซ็นต์สูงเชื้อชาติความไม่เท่าเทียมกันยังคงมีอยู่บางส่วนเนื่องจากนโยบายสาธารณะของสหรัฐฯ ได้เคยแก้ไขกฎหมายเหยียดสีผิวและการปฏิบัติในอดีต ตาม Valerie Wilson โปรแกรมแข่งขัน เชื้อชาติ และเศรษฐกิจที่ สถาบันนโยบายเศรษฐกิจ ถังซ้ายลำคิดว่ากรรมการ แม้ว่ารัฐบาลตอนนี้จิบเข้าไปพักที่สาธารณะ และมีห้ามปฏิบัติ segregationist เช่นคร่อม ความเหลื่อมล้ำทางที่สร้างขึ้น โดยผู้ปฏิบัติยังคงไว้การทอดจากรุ่นสู่รุ่น"เราสามารถเปลี่ยนกฎหมายประมงทะเล แต่ถ้าเรากลับไป แล้วพยายามที่จะแก้ไขผลกระทบที่กฎหมายดังกล่าวมีระยะเวลา ความไม่เท่าเทียมกันเพียงยังคงฝืน และลม กล่าวว่า Wilsonช่องว่างความมั่งคั่งเชื้อชาติรายงาน Brandeis 2013 ระบุสืบทอดและ homeownership เป็นโปรแกรมควบคุมหลักที่สองของความไม่เท่าเทียมกันระหว่างครัวเรือนสีดำและสีขาว สืบทอด reinforces ความเหลื่อมล้ำทางระยะยาวเนื่องจากจะย้ายให้เลือกมากมายทั้งรุ่น ช่อง homeownership สามารถบางส่วนเกิดจากประวัติศาสตร์การแบ่งแยกที่อยู่อาศัยและ "ประวัติศาสตร์ความแตกต่างในการเข้าถึงให้เครดิต ตามรายงานแล้ว มีวิกฤติที่อยู่อาศัย เมื่อมีคลื่นของ rippled ในสหรัฐอเมริกาเริ่มต้นในปี 2007 คนสี foreclosures ตีที่ยากที่สุด ส่วนใหญ่เนื่องจากพวกเขาสลายถูกมัด ด้วยข้อตกลงยืมมหาศาล วิกฤตการณ์ทางการเงินและภาวะเศรษฐกิจถดถอยอาจมีภัยพิบัติสำหรับครัวเรือนขาว แต่พวกเขาบางสิ่งบางอย่างที่ใกล้ชิดกับการ apocalypse สำหรับครอบครัวดำ รายงาน Brandeis "ครึ่งรวมความมั่งคั่งของครอบครัว African-American ถูกปล้นไปในช่วงภาวะถดถอยที่ดี"มีมีทางผู้กำหนดนโยบายสามารถเพียงพออสมการที่อยู่ในสหรัฐอเมริกาโดยรวมโดยไม่ต้องจดจำลักษณะของช่องว่างความมั่งคั่งเชื้อชาติ กล่าว Wilson"ฉันคิดว่า มันบ้าพยายามที่จะมีการสนทนาเหล่านี้ตาบอดสีเกี่ยวกับอสมการไม่ชัดเจนปัญหาแข่งขันกลาง เธอกล่าว "และผมเข้าใจว่าบางทีอาจมีเมือง expediency ในการทำ และที่คุณสามารถสร้างรัฐบาลที่กว้างขึ้น แต่สุจริตอย่างไม่คิดว่า คุณสามารถแก้ไขปัญหาโดยไม่แก้ปัญหาการแข่งขันและผลกระทบต่อเชื้อชาติที่แตกต่างกัน"-ดูเพิ่มเติมได้ที่: http://www.occupy.com/article/year-inequality-racial-disparity-can-no-longer-be-ignored#sthash.CAOcbu7Q.dpuf

Results (Thai) 2:

หรือทำงานอีกปีหนึ่งปัญหาของความไม่เท่าเทียมกันครอบงำวาทกรรมทางเศรษฐกิจ ในปี 2014, ตำรามหากาพย์นักเศรษฐศาสตร์ของฝรั่งเศสในการแบ่งความมั่งคั่ง - โทมัส Piketty ของ "ทุนในศตวรรษที่ 21" - กลายเป็นหนังสือที่ขายดีแปลกใจในขณะที่ข้อความของปี 2012 "การครอบครอง" การเคลื่อนไหวที่ดูเหมือนจะสะท้อนในทางเดินของการใช้พลังงาน: หัว ของ Federal Reserve เจเน็ตแยลเลน, รู้สึกว่าจำเป็นต้องเตือนอันตรายที่เกิดจากช่องว่างระหว่างคนรวยและคนจน แม้ talkshop ประจำปีของร้อยละ 1 ระดับโลกในเวที World Economic Forum (WEF) ที่เมืองดาวอสังเกตเห็นความไม่เท่าเทียมกันการติดฉลากสาเหตุทางเศรษฐกิจชั้นนำระดับโลกสำหรับความกังวลในปีที่ผ่านมา. รับทราบความเสี่ยงทางเศรษฐกิจของความไม่เท่าเทียมกันได้ขั้นตอนที่สำคัญไปข้างหน้า แต่บางสิ่งบางอย่าง หายไปจากการสนทนา ในงบของพวกเขาไม่แยลเลนหรือฟอรั่มเศรษฐกิจโลกกล่าวถึงปัจจัยของการแข่งขัน Piketty ทุ่มเทกำมือของหน้าในหนังสือ 696 หน้าของเขาในการอภิปรายของการค้าทาสมหาสมุทรแอตแลนติก การอภิปรายเกี่ยวกับความไม่เท่าเทียมกันในหมู่ผู้กำหนดนโยบายและปัญญาชนส่วนใหญ่ยังคงตาบอดสี. แต่ความเป็นจริงของความไม่เท่าเทียมกันในประเทศสหรัฐอเมริกาคืออะไร แต่บอดสี ผู้ประกอบการสีขาวได้รับโดยเฉลี่ยอย่างมีนัยสำคัญที่ร่ำรวยกว่าผู้ประกอบการแอฟริกันอเมริกันนับตั้งแต่นักเศรษฐศาสตร์เริ่มวัดช่องว่างความมั่งคั่งทางเชื้อชาติ; มากที่สุดเมื่อเร็ว ๆ นี้สีขาวที่ใช้ในครัวเรือนเฉลี่ยพบว่าตัวเอง 13 ครั้งเป็นความมั่งคั่งมากที่สุดเท่าที่ใช้ในครัวเรือนเฉลี่ยดำตามการวิเคราะห์ของ Pew Research ข้อมูล Federal Reserve การว่างงานสีดำติดอยู่อย่างต่อเนื่องในอัตราสองสีขาว และสำเร็จการศึกษาไม่ได้ทำมากเพื่อปิดช่องว่าง: ตาม 2013 การสำรวจของการเงินของผู้บริโภคบัณฑิตวิทยาลัยสีดำยังคงเฉลี่ยสะสมความมั่งคั่งน้อยกว่าค่าเฉลี่ยสีขาวออกกลางคันโรงเรียนมัธยม. ในแง่แน่นอนคนผิวดำจะไม่เป็นที่น่าสงสาร พวกเขาก่อนยุคสิทธิมนุษยชนตามวิลเลียม Darity จูเนียร์ศาสตราจารย์ด้านนโยบายสาธารณะที่ Duke มหาวิทยาลัย แต่การตัดสินความมั่งคั่งสีดำเมื่อเทียบกับความมั่งคั่งสีขาวบอกว่าเป็นเรื่องที่แตกต่างกัน "ผมจะเถียงถ้าคุณมองไปที่ตำแหน่งทางเศรษฐกิจญาติเราจริงไม่ได้ทำให้ความคืบหน้าอย่างมีนัยสำคัญของความสำคัญใด ๆ ตั้งแต่ปี 1964" เขากล่าว. โดยมาตรการบางอย่างไม่เท่าเทียมกันทางเศรษฐกิจแซดเชื้อชาติมีอากาศที่เลวร้ายตั้งแต่ปลายยุคอีกาจิม . ในปี 1967 เฉลี่ยรายได้ของครัวเรือนสีขาวไม่ใช่ฮิสแปเป็นร้อยละ 43 สูงกว่ารายได้เฉลี่ยต่อครัวเรือนสีดำของ ในปี 2013 ตามข้อมูลการสำรวจสำมะโนประชากรล่าสุดที่มีอยู่รายได้สีขาวเป็นร้อยละ 68 สูงกว่า. ความไม่เท่าเทียมกันทางเชื้อชาติยังคงมีอยู่ส่วนหนึ่งเป็นเพราะนโยบายสาธารณะของสหรัฐไม่เคยได้รับการแก้ไขจริงๆสำหรับกฎหมายชนชั้นและการปฏิบัติที่ผ่านมาตามที่วาเลอรีวิลสันผู้อำนวยการ โปรแกรมการแข่งขันเชื้อชาติและเศรษฐกิจที่สถาบันนโยบายเศรษฐกิจ, ซ้ายพิงว่ารถถัง แม้ว่ารัฐบาลในขณะนี้เอกสารที่เข้าถึงเท่ากันในห้องพักของประชาชนและได้สั่งห้ามการปฏิบัติเนเช่น redlining, ความไม่เท่าเทียมกันที่สร้างขึ้นโดยการปฏิบัติเหล่านั้นยังคงให้ได้รับการผ่านลงมาจากรุ่นสู่รุ่น. "เราสามารถเปลี่ยนแปลงกฎหมายที่เลือกปฏิบัติ แต่ถ้าเราแล้วกลับไป ทำให้ความพยายามในการแก้ไขผลกระทบที่กฎหมายเหล่านั้นมีมากกว่าการขยายระยะเวลาความไม่เท่าเทียมกันเพียงแค่ยังคงยังคงมีอยู่และได้รับที่เลวร้ายยิ่งว่า "วิลสันกล่าวว่า. รายงานแบรน 2013 เมื่อช่องว่างความมั่งคั่งทางเชื้อชาติระบุมรดกและเจ้าของบ้านเป็นสองปัจจัยหลักของความไม่เท่าเทียมกัน ระหว่างผู้ประกอบการดำและสีขาว มรดกตอกย้ำความไม่เท่าเทียมกันในระยะยาวเพราะมันย้ายความมั่งคั่งข้ามรุ่น; ช่องว่างในเจ้าของบ้านส่วนหนึ่งที่สามารถนำมาประกอบกับประวัติศาสตร์ของการคัดแยกที่อยู่อาศัยและ "ความแตกต่างที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ในการเข้าถึงสินเชื่อ" ตามรายงาน. แล้วมีวิกฤติที่อยู่อาศัย. เมื่อคลื่นของการยึดคลื่นข้ามจุดเริ่มต้นที่ประเทศสหรัฐอเมริกาในปี 2007 คน สีได้ตียากมากเพราะพวกเขาถูกผูกไว้เป็นสัดส่วนโดยข้อตกลงการให้กู้ยืมล่า. วิกฤตการณ์ทางการเงินและภาวะเศรษฐกิจถดถอยที่อาจจะเป็นภัยพิบัติสำหรับผู้ประกอบการสีขาว แต่พวกเขาก็มีอะไรบางอย่างที่ใกล้ชิดกับคัมภีร์ของศาสนาคริสต์สำหรับครอบครัวสีดำ. ตามรายงานแบรน, "ครึ่งหนึ่งของความมั่งคั่งร่วมกันของครอบครัวแอฟริกันอเมริกันที่ถูกปล้นไปในช่วงภาวะถดถอยครั้งใหญ่." ไม่มีทางที่ผู้กำหนดนโยบายไม่เพียงพอสามารถอยู่ความไม่เท่าเทียมกันในประเทศสหรัฐอเมริกาโดยรวมโดยไม่ได้ตระหนักถึงเรื่องผลกระทบของการลดช่องว่างความมั่งคั่งทางเชื้อชาติกล่าวว่าวิลสัน. "ผมคิดว่ามันเป็นคนบ้า เพื่อพยายามที่จะมีการอภิปรายเหล่านี้เกี่ยวกับความไม่เท่าเทียมกันบอดสีเมื่อมันเห็นได้ชัดว่าไม่เป็นปัญหาการแข่งขันที่เป็นกลาง "เธอกล่าว." และผมเข้าใจว่าบางคนอาจจะรู้สึกว่ามีความได้เปรียบทางการเมืองในการทำเช่นนั้นและที่คุณสามารถสร้างพันธมิตรที่กว้างขึ้น แต่ผมไม่คิดว่าคุณสามารถแก้ไขปัญหาได้โดยไม่ต้องอยู่การแข่งขันและผลกระทบที่แตกต่างกันทางเชื้อชาติ ". - ดูเพิ่มเติมได้ที่:

Results (Thai) 3:

หรืออีก 1 ปี วิ่ง ปัญหาของความไม่เท่าเทียมกันครอบงำวาทกรรมทางเศรษฐกิจ ในปี 2014 , ฝรั่งเศส นักเศรษฐศาสตร์ของมหากาพย์เกี่ยวกับความมั่งคั่งแบ่ง - โทมัส piketty " ทุนในศตวรรษที่ 21 " - กลายเป็นแปลกหน้า ในขณะที่ข้อความของ 2012 " ครอบครอง " เคลื่อนไหวที่ดูเหมือนจะดังก้องในหัวของทางเดินของพลัง : Federal Reserve , Janet Yellen ,รู้สึกว่าจะเตือนอันตรายถูกวางโดยการขยับขยายช่องว่างระหว่างคนจนและคนรวย แม้ talkshop ประจำปีของโลก 1 เปอร์เซ็นต์ที่ World Economic Forum ( WEF ) ที่ดาวอสก็สังเกตเห็นความไม่เท่าเทียมกันทางเศรษฐกิจโลกฉลากด้านบนสาเหตุของปัญหาในปีนี้

ยอมรับความเสี่ยงทางเศรษฐกิจของความไม่เท่าเทียมกันเป็นขั้นตอนสำคัญไปข้างหน้าแต่มันมีบางอย่างที่ขาดหายไปจากการสนทนา ในงบ , หรือ Yellen หรือ World Economic Forum ได้กล่าวถึงปัจจัยของการแข่งขัน piketty ทุ่มเทไม่กี่หน้าในหนังสือของเขาในหน้าอภิปรายของการค้าทาสแอตแลนติก การอภิปรายเกี่ยวกับปัญหาความไม่เสมอภาคระหว่างบัณฑิตส่วนใหญ่ยังคงบอดสี .

ยังความเป็นจริงของความไม่เท่าเทียมกันในสหรัฐอเมริกาคืออะไร แต่ผู้ที่ตาบอดสีด้วย ครอบครัวสีขาวได้รับ เฉลี่ยอย่างมั่งคั่งกว่าชาวอเมริกันครัวเรือนตั้งแต่นักเศรษฐศาสตร์เริ่มวัดช่องว่างความมั่งคั่งทางเชื้อชาติ ส่วนใหญ่เมื่อเร็ว ๆนี้พบว่ามัธยฐานคือความมั่งคั่งครัวเรือนสีขาวเอง 13 เท่าของครัวเรือนดำมัธยฐานตามการสำรวจวิจัยการวิเคราะห์ข้อมูลสำรองของรัฐบาลกลาง การว่างงานสีดำเป็นอย่างคู่สีขาวติดอยู่ที่อัตรา ไม่ทำอะไรเลยและการศึกษาเพื่อปิดช่องว่าง : ตาม 2013 การเงินของผู้บริโภคโดยเฉลี่ย บัณฑิตวิทยาลัย สีดำยังสะสมความมั่งคั่งน้อยกว่าค่าเฉลี่ย เรียนไม่จบมัธยมขาว

ในแง่ที่สัมบูรณ์คนดำไม่ยากจนเป็นพวกเขาก่อนยุคสิทธิพลเมืองตามวิลเลียม darity จูเนียร์ , ศาสตราจารย์ของนโยบายสาธารณะที่มหาวิทยาลัยดุ๊ก แต่ถ้าดูเทียบกับความมั่งคั่งความมั่งคั่งสีดำสีขาวบอกเรื่องราวที่แตกต่างกัน ผมจะเถียง ถ้าคุณดูที่ตำแหน่งเศรษฐกิจสัมพัทธ์ ที่จริงเรายังไม่ได้ทำให้ความคืบหน้ามากของความสำคัญตั้งแต่ 1964 , " เขากล่าว .

โดยมาตรการบางอย่างracially และความไม่เท่าเทียมกันทางเศรษฐกิจได้แย่ลงตั้งแต่ปลายยุค Jim Crow . ในปี 1967 รายได้เฉลี่ยครัวเรือนไม่ขาวสเปนเป็น 43 เปอร์เซ็นต์สูงกว่ารายได้เฉลี่ยของครัวเรือน สีดำ . ในปี 2013 ตามที่ล่าสุด การสำรวจสำมะโนประชากรข้อมูล รายได้ สีขาวเป็น 68 เปอร์เซ็นต์สูงกว่า

เชื้อชาติความไม่เสมอภาคยังคงอยู่ในส่วนหนึ่งเพราะสหรัฐ .นโยบายสาธารณะมีไม่เคยแก้ไขสำหรับชนชั้นกฎหมายและการปฏิบัติของอดีตตามวาเลรี่ วิลสัน ผู้อำนวยการโครงการ เชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ และเศรษฐกิจที่นโยบายเศรษฐกิจสถาบัน ซ้ายเอียง คิดว่าถัง แม้ว่ารัฐบาลขณะนี้เอกสารการเข้าถึงเท่ากับที่พักสาธารณะ และมีการห้ามปฏิบัติ เช่น redlining ตกดิน ,ที่อสมการที่สร้างโดยการปฏิบัตินั้นยังได้รับสืบทอดจากรุ่นสู่รุ่น

" เราสามารถเปลี่ยนกฎหมายเลือกปฏิบัติ แต่ถ้าเรากลับไป และทำให้ความพยายามที่จะแก้ไขผลกระทบของกฎหมายเหล่านั้นได้ผ่านระยะเวลาของเวลา , ความไม่เท่าเทียมกันก็ยังคงคงอยู่ และแย่ลง " กล่าวว่า วิลสัน

เป็น 2013 แบรนรายงานช่องว่างความมั่งคั่งทางเชื้อชาติระบุมรดกและเจ้าของบ้านเป็นสองไดรเวอร์หลักของความไม่เท่าเทียมกันระหว่างครัวเรือน สีดำและสีขาว มรดก reinforces อสมการระยะยาวเพราะมันเคลื่อนทรัพย์สมบัติข้ามชั่วคน ช่องว่างใน homeownership สามารถบางส่วนจากประวัติศาสตร์ของการพักอาศัย และความแตกต่างทางประวัติศาสตร์ในการเข้าถึงสินเชื่อ" ตามรายงาน .

แล้วยังมีวิกฤตที่อยู่อาศัย เมื่อคลื่นของ foreclosures ระลอกคลื่นทั่วสหรัฐอเมริกา เริ่มต้นใน 2007 , คนผิวสี ถูกตีที่ยากที่สุด , ส่วนใหญ่เพราะพวกเขาสลายผูกพันตามข้อตกลงการให้กู้ยืมเงินขูดรีด วิกฤตการณ์ทางการเงินถดถอยและอาจได้รับภัยพิบัติสำหรับครัวเรือนสีขาวแต่พวกเขาเป็นสิ่งที่ใกล้ชิดกับวันสิ้นโลกที่ครอบครัวสีดำ ตามรายงานของแบรน " ครึ่งหนึ่งของความมั่งคั่งของครอบครัวชาวอเมริกันแอฟริกัน โดยถูกขโมยไป ในระหว่างที่ Great Recession "

ไม่มีทางเพียงพอสามารถที่อยู่ปัญหาความไม่เสมอภาคในสหรัฐอเมริกา โดยรวม โดยไม่ตระหนักถึงผลของช่องว่างความมั่งคั่งเชื้อชาติ

ว่า วิลสัน" ฉันคิดว่ามันบ้าพยายามที่จะมีการสนทนาเกี่ยวกับความบอดสีเหล่านี้เมื่อมันชัดเจน ไม่ใช่การแข่งขันที่เป็นกลางออก " เธอกล่าว " และฉันก็เข้าใจว่าบางคนอาจรู้สึกว่ามีความได้เปรียบทางการเมือง ในการทำและที่คุณสามารถสร้างรัฐบาลที่กว้างขึ้น แต่ผมไม่คิดว่าคุณสามารถแก้ไขปัญหา โดยไม่มีการจัดการกับการแข่งขัน และผลกระทบทางเชื้อชาติที่แตกต่างกัน . "

- ดูเพิ่มเติมที่ :http : / / www.occupy . com / บทความ / ปีความไม่เสมอภาคเชื้อชาติอย่างไม่ละเว้น # sthash.caocbu7q.dpuf