Judy listened nervously as her seve

Judy listened nervously as her seven-year-old son and five-year-old niece began what she was sure would turn into an argument ending in tears. “I want to play spaceship,” said Peter. “I wanna play house!” said Carrie. “Spaceship!” “House!” “Spaceship!” “House!” Judy finally rose from her chair to referee the escalating conflict then heard Peter say, “Hey, we could have a kitchen on the spaceship!” “Okay,” Carrie responded, and the children played happily together the rest of the afternoon.

Without adult intervention, Peter and Carrie came up with a creative solution to a difficult challenge by inventing a new way of playing together. It would be every parent’s dream if children consistently used creativity and innovation to resolve conflict like this. However, the reality is that most children need to learn how to reason creatively and envision multiple solutions to dilemmas. They also need sustained practice with these skills in different kinds of situations. But how, when so much of children’s attention in school is directed toward finding “right” answers and avoiding “wrong” ones, can a child learn and practice these important habits of mind? Where is there room in a child’s life for the messiness and risk-taking involved with creative thinking?

Engagement in the arts offers a wonderful starting point for parents who want to develop and exercise their children’s creative problem-solving skills. It might seem counterintuitive to think of the arts as a place for critical thinking and problem solving, as we typically associate softer qualities such as appreciation of beauty, encouragement of personal expression, and nurturing talent with artistic pursuits. Elliot Eisner, a professor of education at Stanford University, offers a deeper understanding of the role of the arts in a child’s life: “The arts teach children that problems can have more than one solution and that questions can have more than one answer. The arts celebrate multiple perspectives. One of the large lessons kids can learn from practicing the arts is that there are many ways to see and interpret the world.” Dr. Eisner’s view that the arts can be about problem solving leads us away from the idea that children’s art is only about making aesthetically pleasing objects or providing entertainment, and gives a parents a way to help children be more innovative in very simple, yet powerful ways.

For example, Nancy, a parent of three elementary-aged children, pulls out the “scrapbox” when her kids say, “I’m bored. There’s nothing to do!” or if she feels they have had enough screen time. The scrapbox is a container filled with simple and inexpensive materials like paper towel tubes, rubber bands, scraps of paper, paper clips, cotton balls, etc. Nancy challenges her children to create “junk sculptures” that solve a problem in an original way: “Using only the materials in the box, build the tallest, most interesting or most beautiful structure that is also able to stand securely on its own.” Nancy says, “My children love these kinds of challenges, and each of them creates a very different solution to the same problem. It’s fun to point out to them that everyone is ‘right’ in their own way. And they are never bored with this creative activity!”

Jordan, a day care provider, does something similar. She says, “I give each child the exact same quantity of various materials like pipe cleaners, pieces of cardboard, etc. Then I ask them to create something original from what they have to work with—anything they want. It’s amazing to witness the range of creations that children construct from the same materials.” Jordan also encourages collaboration between children as a way of sparking creativity; often a new idea will emerge when two children are sharing their thinking and supporting each other’s work. She also helps them understand that feeling frustrated is okay. “The right amount of frustration can force someone to think more creatively and reach for a new way of solving a problem. It’s fun to see a child move from being stuck and wanting to give up to feeling excited about trying out a new idea.”

Creative thinking and reasoning have been identified and highlighted as an essential twenty-first-century skill by many business, education, community and government leaders. As our children grow and develop, introducing them to the idea that the arts involve creative problem solving will teach them how to manage frustration, uncertainty and ambiguity with innovative ideas and solutions. Through the arts, our children can learn how to express their unique identities, while simultaneously developing habits of mind that will help them succeed anywhere, from the playground to the workplace.

More you might like:

Results (Thai) 1:

Judy ฟังคนเป็นชายอายุ 7 ปี และหลานสาวอายุ 5 ปีเริ่มต้นสิ่งที่เธอไม่แน่ใจว่าจะเปลี่ยนเป็นอาร์กิวเมนต์ในน้ำตาที่สิ้นสุด "อยากเล่นยานอวกาศ กล่าวว่า ปีเตอร์ "อยากเล่นบ้าน! " กล่าวว่า Carrie "ยานอวกาศ" "บ้าน" "ยานอวกาศ" "บ้าน" Judy จากเธอให้เก้าอี้ referee แย้ง escalating แล้วได้ยินว่า "Hey ปีเตอร์ในที่สุด เราได้ห้องครัวบนยานอวกาศ" "เอาล่ะ ตอบสนอง Carrie และเด็ก ๆ เล่นกันอย่างมีความสุขเหลือของตอนบ่าย

โดยผู้ใหญ่ ปีเตอร์และ Carrie มากับโซลูชันที่สร้างสรรค์ความท้าทายที่ยาก โดยการประดิษฐ์คิดค้นเพื่อแนวทางใหม่ของการเล่นร่วมกัน มันจะเป็นความฝันของพ่อแม่ทุกคนถ้าเด็กอย่างใช้ความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรมในการแก้ไขความขัดแย้งเช่นนี้ อย่างไรก็ตาม ความเป็นจริงคือ ว่า เด็กส่วนใหญ่ต้องเรียนรู้วิธีการเหตุผลสร้างสรรค์ และวาดภาพหลายแก้ไข dilemmas นอกจากนี้พวกเขายังต้องฝึก sustained ด้วยทักษะเหล่านี้ในสถานการณ์ต่าง ๆ แต่ว่า เมื่อมากของความสนใจของเด็กในโรงเรียนจะตรงไปทางหาคำตอบที่ "ถูก" และหลีกเลี่ยงคน "ผิด" สามารถลูกเรียนรู้ และฝึกนิสัยเหล่านี้ความสำคัญของจิตใจ ที่มีห้องพักในชีวิตเด็ก messiness และเสี่ยงเกี่ยวข้องกับความคิดสร้างสรรค์?

ในศิลปะมีจุดเริ่มต้นที่ยอดเยี่ยมสำหรับผู้ปกครองที่ต้อง การพัฒนาทักษะการแก้ปัญหาความคิดสร้างสรรค์ของเด็กที่ออกกำลังกาย มันอาจดูเหมือน counterintuitive คิดว่า ศิลปะเป็นวิจารณญาณและการแก้ปัญหา เราจะเชื่อมโยงคุณภาพนุ่มเช่นชื่นชมความสวยงาม ให้กำลังใจของนิพจน์ส่วนบุคคล และ nurturing พรสวรรค์กับศิลปะชั้น เอลเลียต Eisner ศาสตราจารย์ทางการศึกษาที่มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด มีความเข้าใจลึกของบทบาทของศิลปะในชีวิตเด็ก: "ศิลปะสอนเด็กว่า ปัญหาสามารถมีมากกว่าหนึ่งโซลูชั่น และให้ คำถามได้มากกว่าหนึ่งคำตอบ ศิลปะฉลองหลายมุมมอง บทเรียนขนาดใหญ่ที่เด็กสามารถเรียนรู้จากการฝึกศิลปะอย่างใดอย่างหนึ่งได้ว่า มีหลายวิธีที่จะดู และตีความโลก" ดร. Eisner ดูมีศิลปะเกี่ยวกับการแก้ปัญหานำเราออกจากความคิดที่ว่า ศิลปะเด็กเกี่ยวกับสวยงามตระการวัตถุทำ หรือให้ความบันเทิง และให้ผู้ปกครองเป็นวิธีที่จะช่วยเด็กได้มากขึ้นเป็นนวัตกรรมใหม่ในง่ายมาก ยังมีวิธีการ

ตัวอย่าง แนนซี่ แม่สามเด็กประถม aged ดึงออก "scrapbox" เมื่อเด็กของเธอว่า "ฉันเบื่อ ไม่ มีอะไรทำ " หรือถ้าเธอ จะมีเวลาพอหน้าจอ Scrapbox เป็นคอนเทนเนอร์ที่เต็มไป ด้วยวัสดุที่ง่าย และราคาไม่แพงเช่นกระดาษผ้าท่อ ยาง เศษกระดาษ คลิปหนีบกระดาษ สำลี ฯลฯ Nancy ท้าทายลูกเพื่อสร้าง "อีเมลขยะประติมากรรม" ที่แก้ไขปัญหาเดิม: "ใช้เฉพาะวัสดุในกล่อง สร้างสูงที่สุด น่าสนใจที่สุด หรือโครงสร้างที่สวยที่สุดที่จะสามารถยืนอยู่อย่างปลอดภัยในตัวเอง" แนนซี่กล่าวว่า "ลูก ๆ ชอบความท้าทาย และแต่ละของพวกเขาสร้างการแก้ไขปัญหาเดียวกันแตกต่างกันมาก ผู้จัดการสาขาจะชี้ไปที่คน 'อยู่' ในแบบของตนเอง และพวกเขาจะไม่เคยเบื่อกับกิจกรรมสร้างสรรค์นี้"

Jordan ผู้ดูแลวัน ไม่คล้ายกัน เธอกล่าวว่า "ฉันให้เด็กแต่ละคนปริมาณเดียวกันทุกประการของวัสดุต่าง ๆ เช่นทำความสะอาดท่อ ชิ้นส่วนของกระดาษแข็ง ฯลฯ แล้วขอให้พวกเขาสร้างอะไรจากสิ่งที่พวกเขาต้องทำงานกับ — สิ่งที่พวกเขาต้องการ ได้ตื่นตาตื่นใจให้ชมหลากหลายสร้างสรรค์ที่เด็กสร้างจากวัสดุเดียวกัน" Jordan ยังสนับสนุนให้ทำงานร่วมกันระหว่างเด็กที่เป็นแบบของความคิดสร้างสรรค์โพลน บ่อยครั้งความคิดใหม่จะเกิดเมื่อเด็กสองคนอยู่ร่วมกันความคิดของพวกเขา และสนับสนุนงานของผู้อื่น เธอยังช่วยให้พวกเขาเข้าใจว่า ความรู้สึกผิดหวังเป็นไร "รายการไม่พอสามารถบังคับให้คนคิดสร้างสรรค์มากขึ้น และสำหรับวิธีการใหม่แก้ปัญหา ผู้จัดการสาขาดูเด็กย้ายจากการติดและอยากให้ขึ้นที่รู้สึกตื่นเต้นที่ได้ลองคิดใหม่"

ความคิดสร้างสรรค์และการใช้เหตุผลมีการระบุ และเน้นเป็นทักษะยี่สิบศตวรรษแรกจำเป็นในผู้นำธุรกิจ การศึกษา ชุมชน และรัฐ เป็นเด็กของเราเติบโต และ พัฒนา การแนะนำให้ความคิดที่เกี่ยวข้องกับศิลปะ การแก้ปัญหาความคิดสร้างสรรค์จะสอนให้จัดการแห้ว ความไม่แน่นอน และความคลุมเครือ มีความคิดสร้างสรรค์และการแก้ปัญหา ผ่านศิลปะ เด็ก ๆ สามารถเรียนรู้วิธีการแสดงข้อมูลเฉพาะของพวกเขา พัฒนานิสัยของจิตที่จะช่วยให้พวกเขาประสบความสำเร็จทุก จากสนามเด็กเล่นการทำงาน พร้อมกัน

มากคุณอาจชอบ:

Results (Thai) 2:

จูดี้ฟังประหม่าเป็นลูกชายเจ็ดปีของเธอและหลานสาวห้าปีเริ่มต้นในสิ่งที่เธอแน่ใจว่าจะกลายเป็นข้อโต้แย้งที่ลงท้ายด้วยน้ำตา "ผมต้องการที่จะเล่นยานอวกาศ" ปีเตอร์กล่าวว่า "ผมอยากจะเล่นบ้าน!" แครีกล่าวว่า "ยานอวกาศ" "บ้าน" "ยานอวกาศ" "บ้าน" จูดี้ก็ลุกขึ้นจากเก้าอี้ของเธอที่จะตัดสินความขัดแย้งทวีความรุนแรงแล้วได้ยินปีเตอร์พูดว่า "Hey, เราจะได้มีห้องครัวบนยานอวกาศ!" "เอาล่ะ" แค การตอบสนองและเด็กที่เล่นอย่างมีความสุขด้วยกันส่วนที่เหลือของช่วงบ่ายโดยไม่มีการแทรกแซงผู้ใหญ่ปีเตอร์และแครีขึ้นมาด้วยวิธีการแก้ปัญหาที่สร้างสรรค์เพื่อความท้าทายที่ยากโดยคิดค้นวิธีการใหม่ในการเล่นด้วยกัน มันจะเป็นความฝันของผู้ปกครองทุกคนอย่างต่อเนื่องหากใช้ความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรมเพื่อแก้ไขปัญหาความขัดแย้งเช่นนี้ แต่ความเป็นจริงที่เด็กส่วนใหญ่ต้องเรียนรู้วิธีที่จะให้เหตุผลอย่างสร้างสรรค์และวาดภาพการแก้ปัญหาหลายวิกฤติ พวกเขายังต้องปฏิบัติอย่างยั่งยืนที่มีทักษะเหล่านี้ในรูปแบบที่แตกต่างกันของสถานการณ์ แต่วิธีการที่เมื่อมากของความสนใจของเด็ก ๆ ในโรงเรียนเป็นผู้กำกับที่มีต่อการหา "สิทธิ" คำตอบและหลีกเลี่ยงการ "ผิด" คนที่เด็กสามารถเรียนรู้และฝึกนิสัยที่สำคัญเหล่านี้ของใจ? จะมีที่ห้องพักในชีวิตของเด็กสำหรับ messiness และความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับความคิดสร้างสรรค์? หมั้นในศิลปะมีจุดเริ่มต้นที่ยอดเยี่ยมสำหรับผู้ปกครองที่ต้องการที่จะพัฒนาและใช้ทักษะการแก้ปัญหาความคิดสร้างสรรค์ของเด็ก มันอาจดูเหมือน counterintuitive จะคิดว่าศิลปะเป็นสถานที่สำหรับการคิดเชิงวิเคราะห์และการแก้ปัญหาที่เรามักจะเชื่อมโยงคุณภาพนุ่มเช่นการแข็งค่าของความงามให้กำลังใจในการแสดงออกส่วนบุคคลและความสามารถในการแสวงหาความรู้ด้วยการบำรุงศิลปะ เอลเลียต Eisner ศาสตราจารย์ของการศึกษาที่ Stanford University, มีความรู้ความเข้าใจในบทบาทของศิลปะในชีวิตของเด็ก: "ศิลปะการสอนเด็กที่มีปัญหาสามารถมีทางออกมากกว่าหนึ่งและคำถามที่สามารถมีมากกว่าหนึ่งคำตอบ ศิลปะการเฉลิมฉลองหลายมุมมอง หนึ่งในบทเรียนมากเด็ก ๆ สามารถเรียนรู้จากการฝึกศิลปะคือว่ามีหลายวิธีที่จะเห็นและตีความโลก ". มุมมองดร Eisner ว่าศิลปะสามารถเกี่ยวกับการแก้ปัญหาทำให้เราออกไปจากความคิดที่ว่าศิลปะของเด็กเป็นเพียงประมาณ ทำให้วัตถุที่ชื่นชอบความสุนทรีย์หรือการให้ความบันเทิงและให้พ่อแม่ของวิธีการที่จะช่วยให้เด็กมีนวัตกรรมมากขึ้นในการที่ง่ายมากวิธีการที่มีประสิทธิภาพยังยกตัวอย่างเช่นแนนซี่, ผู้ปกครองของเด็กประถมวัยสามดึงออก "scrapbox" เมื่อเธอ เด็กพูดว่า "ฉันเบื่อ ไม่มีอะไรที่จะทำได้! "หรือถ้าเธอรู้สึกว่าพวกเขาได้มีเวลามากพอที่หน้าจอ scrapbox เป็นภาชนะที่เต็มไปด้วยวัสดุที่เรียบง่ายและราคาไม่แพงเช่นท่อผ้ากระดาษ, ยาง, เศษกระดาษคลิปหนีบกระดาษลูกฝ้าย, ฯลฯ แนนซี่ท้าทายลูก ๆ ของเธอที่จะสร้าง "ประติมากรรมขยะ" ที่แก้ปัญหาในลักษณะเดิม: "การใช้เพียงวัสดุในกล่องสร้างที่สูงที่สุดในโครงสร้างที่น่าสนใจมากที่สุดหรือสวยที่สุดที่ยังสามารถที่จะยืนอยู่อย่างปลอดภัยบนของตัวเอง". แนนซี่กล่าวว่า "เด็กของฉันรักเหล่านี้ชนิดของความท้าทายและแต่ละของพวกเขาสร้างมาก การแก้ปัญหาที่แตกต่างกันจะมีปัญหาเดียวกัน มันสนุกที่จะชี้ให้พวกเขาว่าทุกคนมีสิทธิในทางของตัวเอง และพวกเขาจะไม่เคยเบื่อกับกิจกรรมสร้างสรรค์นี้! " จอร์แดนเป็นผู้ให้บริการดูแลเด็กไม่สิ่งที่คล้ายกัน เธอกล่าวว่า "ฉันให้เด็กแต่ละคนในปริมาณเดียวกันแน่นอนของวัสดุต่างๆเช่นทำความสะอาดท่อชิ้นส่วนของกระดาษแข็งเป็นต้นจากนั้นผมขอให้พวกเขาที่จะสร้างสิ่งที่เป็นต้นฉบับจากสิ่งที่พวกเขาต้องทำงานกับสิ่งที่พวกเขาต้องการ มันน่าที่จะเป็นพยานในช่วงของการสร้างให้เด็กสร้างจากวัสดุเดียวกัน "จอร์แดนยังสนับสนุนการทำงานร่วมกันระหว่างเด็กเป็นวิธีการจุดประกายความคิดสร้างสรรค์. มักจะเป็นความคิดที่ใหม่จะเกิดขึ้นเมื่อเด็กสองคนจะร่วมกันคิดของพวกเขาและสนับสนุนการทำงานของกันและกัน เธอยังช่วยให้พวกเขาเข้าใจความรู้สึกว่าผิดหวังไม่เป็นไร "ปริมาณที่เหมาะสมของความยุ่งยากสามารถบังคับให้คนที่จะคิดสร้างสรรค์มากขึ้นและการเข้าถึงสำหรับวิธีการใหม่ในการแก้ปัญหา มันสนุกที่จะเห็นการย้ายเด็กจากการถูกติดอยู่และต้องการที่จะให้ขึ้นอยู่กับความรู้สึกตื่นเต้นเกี่ยวกับการพยายามออกความคิดใหม่ ". ความคิดและเหตุผลของความคิดสร้างสรรค์ที่ได้รับการระบุและเน้นเป็นสำคัญทักษะยี่สิบศตวรรษแรกโดยธุรกิจจำนวนมาก, การศึกษา, ชุมชนและผู้นำรัฐบาล ในฐานะที่เป็นลูกหลานของเราเจริญเติบโตและพัฒนาแนะนำให้ความคิดที่ว่าศิลปะที่เกี่ยวข้องกับการแก้ปัญหาจะสอนพวกเขาว่าจะจัดการกับความยุ่งยากความไม่แน่นอนและความคลุมเครือกับความคิดสร้างสรรค์และการแก้ปัญหาปัญหาอย่างสร้างสรรค์ ผ่านศิลปะเด็กของเราสามารถเรียนรู้วิธีที่จะแสดงตัวตนที่เป็นเอกลักษณ์ของพวกเขาในขณะเดียวกันการพัฒนานิสัยของจิตใจที่จะช่วยให้พวกเขาประสบความสำเร็จทุกที่จากสนามเด็กเล่นที่ทำงานอื่น ๆ ที่คุณอาจต้องการ:

Results (Thai) 3:

จูดี้ ฟังนี่เป็นลูกชายอายุ 7 ปี และศพหลานสาวเริ่มอะไร เธอแน่ใจว่า จะเปลี่ยนเป็นอาร์กิวเมนต์ที่สิ้นสุดในน้ำตา " ผมต้องการเล่นยานอวกาศกล่าวว่า " ปีเตอร์ " อยากเล่น ! " บอกว่า แครี่ " ยานอวกาศ ! " บ้าน " ! " ยานอวกาศ " ! " บ้าน " ! " จูดี้ก็ลุกขึ้นจากเก้าอี้ เธอตัดสินความขัดแย้งเพิ่มขึ้นแล้วได้ยินปีเตอร์พูดว่า " เฮ้เราสามารถมีห้องครัวบนยานอวกาศ " โอเค แคร์รี่ ตอบสนอง และเด็กๆ เล่นด้วยกันอย่างมีความสุข ส่วนที่เหลือของช่วงบ่าย

โดยปราศจากการแทรกแซงของผู้ใหญ่ , ปีเตอร์ และ แคร์รี่มากับสร้างสรรค์โซลูชั่นเพื่อความท้าทายยากโดยคิดค้นวิธีใหม่ในการเล่นร่วมกันมันคงจะเป็นผู้ปกครองทุกความฝัน ถ้าเด็กอย่างต่อเนื่องใช้ ความคิดสร้างสรรค์ และนวัตกรรมเพื่อแก้ปัญหาความขัดแย้งแบบนี้ แต่ความเป็นจริงคือ เด็กส่วนใหญ่ต้องเรียนรู้วิธีการที่สร้างสรรค์และจินตนาการหลายโซลูชั่นเพื่อ . . . หนีเสือปะจรเข้ พวกเขายังต้องการได้รับการปฏิบัติที่มีทักษะเหล่านี้แตกต่างกันในชนิดของสถานการณ์ แต่อย่างไรเมื่อมากของความสนใจของเด็กในโรงเรียนมุ่งไปที่การหาคำตอบ " ใช่ " และหลีกเลี่ยง " คนผิด " สามารถเด็กได้เรียนรู้ และฝึกนิสัยที่สำคัญเหล่านี้ในใจ ที่ไหนมีห้องในชีวิตของเด็กในความไม่เป็นระเบียบและความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับความคิดสร้างสรรค์ ?

หมั้นในศิลปะมีจุดเริ่มต้นที่ยอดเยี่ยมสำหรับผู้ปกครองที่ต้องการพัฒนาและการออกกำลังกายของเด็กสร้างสรรค์ ทักษะการแก้ปัญหา มันอาจดูเหมือน counterintuitive คิดว่าศิลปะเป็นสถานที่สำหรับการคิดเชิงวิพากษ์และการแก้ปัญหา ในขณะที่เรามักจะเชื่อมโยงคุณภาพนุ่ม เช่น ชื่นชมความงาม ให้กําลังใจในการแสดงออกส่วนบุคคลและฝึกฝนความสามารถพิเศษกับงานอดิเรกศิลปะ เอลเลียต ไอส์เนอร์ ศาสตราจารย์ด้านการศึกษาที่ Stanford University , มีความเข้าใจที่ลึกของบทบาทของศิลปะในชีวิตของเด็ก : " ศิลปะสอนเด็กว่า ปัญหามีได้มากกว่าหนึ่งทางออก และคำถามที่สามารถมีได้มากกว่า 1 คำตอบ ศิลปะร่วมแบบทวีคูณหนึ่งในบทเรียนที่สามารถเรียนรู้จากการฝึกเด็กที่มีศิลปะ คือ มีหลายวิธีที่จะเห็นและตีความโลก " ดร. Eisner มุมมองว่า ศิลปะสามารถเกี่ยวกับการแก้ปัญหาจะทำให้เราออกจากความคิดที่ว่าเด็กศิลปะเป็นเพียงเกี่ยวกับการทำวัตถุ aesthetically ที่ชื่นชอบหรือให้ความบันเทิง และให้พ่อแม่วิธีที่จะช่วยให้เด็กเป็นนวัตกรรมมากขึ้นในง่ายมากวิธีที่มีประสิทธิภาพยัง .

เช่น แนนซี่ พ่อแม่ของทั้งสามระดับอายุเด็ก ดึงออก " scrapbox " เมื่อลูกพูด " ฉันเบื่อ ไม่มีอะไรจะทำ " หรือถ้าเธอรู้สึกว่าพวกเขามีเวลาพอหน้าจอ การ scrapbox เป็นภาชนะที่เต็มไป ด้วยง่าย และไม่แพง วัสดุเช่นกระดาษเช็ดหลอด แถบยาง เศษกระดาษ , คลิปหนีบกระดาษ , ลูกฝ้าย ฯลฯแนนซี่ ท้าทายเด็กของเธอเพื่อสร้าง " ประติมากรรม " ขยะที่แก้ปัญหาในวิธีเดิม : " ใช้เฉพาะวัสดุในกล่องสร้างที่สูงที่สุด , น่าสนใจที่สุดหรือโครงสร้างที่สวยที่สุดยังสามารถยืนอย่างมั่นคงบนของตัวเอง " แนนซี่ กล่าวว่า " เด็กๆ ชอบเหล่านี้ชนิดของความท้าทาย , และแต่ละ ของพวกเขาสร้างโซลูชั่นที่แตกต่างกันมากกับปัญหาเดียวกันมันสนุกที่จะชี้ให้พวกเขาทุกคนเป็น ' สิทธิ ' ในแบบของตัวเอง และพวกเขาจะไม่เบื่อกับกิจกรรมที่สร้างสรรค์นี้ "

จอร์แดน วันการดูแลผู้ให้บริการ มีบางอย่างที่คล้ายกัน เธอกล่าวว่า " ผมให้เด็กแต่ละปริมาณเดียวกันของหลากหลายวัสดุ เช่น ทำความสะอาดท่อ ชิ้นส่วนของกระดาษ ฯลฯฉันถามพวกเขาเพื่อสร้างสิ่งที่ต้นฉบับจากสิ่งที่พวกเขาได้ทำงานกับสิ่งที่พวกเขาต้องการ มันน่าพิศวงที่จะเป็นพยานในช่วงของการสร้างสรรค์ที่เด็กสร้างจากวัสดุเดียวกัน " จอร์แดนยังกระตุ้นความร่วมมือระหว่างเด็กเป็นวิธีที่จุดประกายความคิดสร้างสรรค์ มักจะมีความคิดใหม่จะโผล่ออกมาตอนที่เด็กสองคนร่วมกันคิดของพวกเขาและสนับสนุนผลงานของกันและกันเธอยังช่วยให้พวกเขาเข้าใจความรู้สึกที่ท้อแท้ครับ " ปริมาณที่เหมาะสมของแห้วสามารถบังคับใครให้คิดอย่างสร้างสรรค์และการเข้าถึงสำหรับวิธีใหม่ในการแก้ไขปัญหา มันสนุกที่จะเห็นเด็กย้ายจากติดอยู่ และอยากให้ถึงรู้สึกตื่นเต้นเกี่ยวกับการพยายามออกความคิดใหม่ "

คิดสร้างสรรค์และเหตุผลที่ได้รับการระบุและเน้นทักษะที่จำเป็นโดยศตวรรษยี่สิบแรก ธุรกิจ การศึกษา หลายชุมชนและรัฐบาล ในฐานะที่เป็นเด็กของเราเติบโต และพัฒนา การแนะนำพวกเขาให้ความคิดที่ว่า ศิลปะเกี่ยวข้องกับจะแก้ไขปัญหาอย่างสร้างสรรค์ สอนวิธีการจัดการความทุกข์ ความไม่แน่นอนและความกำกวมกับความคิดนวัตกรรมและโซลูชั่นผ่านศิลปะ เด็กๆ สามารถเรียนรู้วิธีการแสดงเอกลักษณ์เฉพาะของพวกเขาในขณะที่พร้อมพัฒนานิสัยของจิตใจที่จะช่วยให้พวกเขาประสบความสำเร็จได้ทุกที่จากสนามเด็กเล่น กับที่ทำงาน

เพิ่มเติมที่คุณอาจชอบ :