Financial incentive[edit]These excl

Financial incentive[edit]
These exclusive rights allow owners of intellectual property to benefit from the property they have created, providing a financial incentive for the creation of an investment in intellectual property, and, in case of patents, pay associated research and development costs.[22] Some commentators, such as David Levine and Michele Boldrin, dispute this justification.[23]

In 2013 the United States Patent & Trademark Office claimed that the worth of intellectual property to the U.S. economy is more than US$5 trillion and creates employment for an estimated 18 million American people. The value of intellectual property is considered similarly high in other developed nations, such as those in the European Union.[24] In the UK, IP has become a recognised asset class for use in pension-led funding and other types of business finance. However, in 2013, the UK Intellectual Property Office stated: “There are millions of intangible business assets whose value is either not being leveraged at all, or only being leveraged inadvertently”.

Results (Thai) 1:

การจูงใจทางการเงิน [แก้ไข]
สิทธิเหล่านี้อนุญาตให้เจ้าของทรัพย์สินทางปัญญาได้รับประโยชน์จากทรัพย์สินที่มีไว้ ให้จูงใจทางการเงินสำหรับการลงทุน ในทรัพย์สินทางปัญญา และ ใน กรณีของสิทธิ บัตร การสร้างค่าจ้างต้นทุนการวิจัยและพัฒนาที่เกี่ยวข้อง[22] แสดงบาง David Levine และ Michele Boldrin โต้แย้งเหตุผลนี้[23]

ในปี 2013 &สหรัฐอเมริกาสิทธิบัตรเครื่องหมายการค้าสำนักงานอ้างที่มูลค่าของทรัพย์สินทางปัญญาเศรษฐกิจสหรัฐฯ มากกว่าสหรัฐอเมริกา $5 ล้านล้าน และสร้างงานสำหรับการประมาณ 18 ล้านอเมริกันคน นั้น มูลค่าของทรัพย์สินทางปัญญากำลังสูงในทำนองเดียวกันในประเทศที่พัฒนาแล้วอื่น ๆ เช่นในสหภาพยุโรป[24] ใน UK IP ได้กลายเป็น คลาสินทรัพย์รับการยอมรับสำหรับใช้ในการนำเงินบำนาญเงินทุนและธุรกิจเงินชนิดอื่น ๆ อย่างไรก็ตาม ในปี 2013, UK ปัญญาแห่งสำนักงานระบุไว้: "มีธุรกิจมีสินทรัพย์ที่มีค่าเป็นไม่มี leveraged เลย หรือเฉพาะ กำลัง leveraged ตั้งใจล้าน"

Results (Thai) 2:

แรงจูงใจทางการเงิน [แก้ไข]
สิทธิพิเศษเหล่านี้ช่วยให้เจ้าของทรัพย์สินทางปัญญาที่จะได้รับประโยชน์จากทรัพย์สินของพวกเขาได้สร้างให้แรงจูงใจทางการเงินสำหรับการสร้างการลงทุนในทรัพย์สินทางปัญญาและในกรณีของสิทธิบัตรจ่ายที่เกี่ยวข้องการวิจัยและพัฒนาค่าใช้จ่าย [22] บางคนวิจารณ์เช่นเดวิดเลวีนและมิเคเล่ Boldrin, โต้แย้งเหตุผล. นี้ [23] ในปี 2013 สหรัฐอเมริกาสิทธิบัตรและเครื่องหมายการค้าสำนักงานอ้างว่ามูลค่าของทรัพย์สินทางปัญญาของเศรษฐกิจสหรัฐเป็นมากกว่า US $ 5000000000000 และสร้างการจ้างงาน สำหรับประมาณ 18 ล้านคนอเมริกัน มูลค่าของทรัพย์สินทางปัญญาถือเป็นเหมือนกันสูงในประเทศที่พัฒนาอื่น ๆ เช่นผู้ที่อยู่ในสหภาพยุโรป. [24] ในสหราชอาณาจักรไอพีได้กลายเป็นสินทรัพย์ได้รับการยอมรับสำหรับการใช้ในการระดมทุนนำเงินบำนาญและประเภทอื่น ๆ ของธุรกิจทางการเงิน แต่ในปี 2013 สำนักงานทรัพย์สินทางปัญญาของสหราชอาณาจักรกล่าวว่า: "มีนับล้านของสินทรัพย์ทางธุรกิจที่ไม่มีตัวตนที่มีค่าเป็นอย่างใดอย่างหนึ่งไม่ได้รับ leveraged ที่ทั้งหมดหรือเพียงการ leveraged โดยไม่ตั้งใจคือ"

Results (Thai) 3:

สิ่งจูงใจทางการเงิน [ แก้ไข ]
สิทธิพิเศษเหล่านี้ช่วยให้เจ้าของทรัพย์สินทางปัญญาได้ประโยชน์จากทรัพย์สินที่พวกเขาได้สร้างขึ้น ให้สิ่งจูงใจทางการเงินสำหรับการลงทุนในทรัพย์สินทางปัญญา และในกรณีของสิทธิบัตรที่จ่ายที่เกี่ยวข้องงานวิจัยและพัฒนาต้นทุน [ 22 ] แสดงความเห็นบางคน อาทิ เดวิด Levine และมิเชล boldrin ข้อพิพาทนี้ ความชอบธรรม [ 23 ]

ใน 2013 สหรัฐอเมริกาสิทธิบัตรเครื่องหมายการค้าสำนักงาน&อ้างว่ามูลค่าของทรัพย์สินทางปัญญาต่อเศรษฐกิจสหรัฐมากกว่าเรา $ 5 ล้านล้าน และสร้างการจ้างงานประมาณ 18 ล้านคนอเมริกา มูลค่าของทรัพย์สินทางปัญญาถือเป็นกันสูงในประเทศที่พัฒนาแล้วอื่น ๆเช่นในสหภาพยุโรป [ 24 ] ในสหราชอาณาจักรIP ได้กลายเป็นสินทรัพย์เพื่อใช้ในการระดมทุน และเงินบำนาญ LED ประเภทอื่น ๆของธุรกิจการเงิน . อย่างไรก็ตาม ในปี 2013 สำนักงานทรัพย์สินทางปัญญาของอังกฤษกล่าวว่า : " มีล้านของธุรกิจที่มีมูลค่าสินทรัพย์ไม่มีตัวตนเหมือนกัน ไม่ได้ใช้เลย หรือเพียงถูกใช้โดยไม่ได้ตั้งใจ "