Nowadays more and more students bri

Nowadays more and more students bring their mobile phones to school. While I believe that students should carry mobile phones in case of an emergency, I am strongly opposed to phones being used at school, particularly in the classroom.

Firstly, many students travel to and from school without their parents. Therefore, it is important for them to have a mobile phone in case they need help or have an accident on the way to school or home.

Furthermore, parents who work may need to contact their children. For example, if a parent has to work late, the student has to be told if arrangements have been made for a relative or neighbour to look after them.

On the other hand, nothing is more disruptive during a lesson than the sound of a mobile phone ringing or playing an annoying tune. Moreover, students who send and receive text messages in class are not paying attention to the lesson.

In conclusion, I feel that students should be allowed to take mobile phones to school for use in an emergency. However, all phones should certainly be turned off during lessons.

Results (Thai) 1:

ปัจจุบัน มากนักเรียนนำโทรศัพท์มือถือของพวกเขาไปโรงเรียน ในขณะที่ผมเชื่อว่า นักเรียนควรนำโทรศัพท์มือถือกรณีฉุกเฉิน ฉันเป็น opposed อย่างยิ่งเพื่อใช้ในโรงเรียน ในห้องเรียนโดยเฉพาะอย่างยิ่งโทรศัพท์มือถือประการแรก นักเรียนจำนวนมากเดินทางไป และกลับ จากโรงเรียนโดยไม่มีพ่อ ดังนั้น จึงเป็นสิ่งสำคัญสำหรับพวกเขามีโทรศัพท์มือถือในกรณีที่จะต้องช่วย หรือมีอุบัติเหตุทางโรงเรียน หรือบ้านนอกจากนี้ ผู้ปกครองที่ทำงานอาจต้องติดต่อผู้บุตร ตัวอย่าง ถ้ามีหลักการทำงานสาย นักเรียนมีการบอกว่า ถ้า จัดทำสำหรับญาติ หรือเพื่อนบ้านเพื่อดูแลพวกเขาบนมืออื่น ๆ ไม่ได้ขวัญเพิ่มเติมระหว่างบทเรียนกว่าเสียงโทรศัพท์ ringing หรือเล่นเพลงน่ารำคาญ นอกจากนี้ ผู้ส่ง และรับข้อความในชั้นจะไม่จ่ายความสนใจในบทเรียนเบียดเบียน ฉันรู้สึกว่า นักเรียนควรได้รับอนุญาตให้นำโทรศัพท์มือถือไปโรงเรียนเพื่อใช้ในกรณีฉุกเฉิน อย่างไรก็ตาม โทรศัพท์มือถือทั้งหมดควรแน่นอนจะถูกปิดในระหว่างเรียน

Results (Thai) 2:

ปัจจุบันนักเรียนมากขึ้นและนำโทรศัพท์มือถือของพวกเขาไปโรงเรียน ในขณะที่ผมเชื่อว่านักเรียนควรพกโทรศัพท์มือถือในกรณีฉุกเฉินผมเห็นด้วยอย่างยิ่งกับโทรศัพท์ถูกนำมาใช้ในโรงเรียนโดยเฉพาะอย่างยิ่งในห้องเรียน. ประการแรกนักเรียนหลายคนเดินทางไปและกลับจากโรงเรียนโดยไม่มีพ่อแม่ของพวกเขา ดังนั้นจึงเป็นสิ่งสำคัญสำหรับพวกเขาที่จะมีโทรศัพท์มือถือในกรณีที่พวกเขาต้องการความช่วยเหลือหรือมีอุบัติเหตุทางไปโรงเรียนหรือที่บ้าน. นอกจากนี้พ่อแม่ผู้ปกครองที่ทำงานอาจต้องติดต่อเด็กของพวกเขา ตัวอย่างเช่นถ้าพ่อแม่มีการทำงานในช่วงปลายนักศึกษาจะต้องมีการเตรียมการที่บอกว่าถ้าได้รับการสร้างขึ้นมาเพื่อเป็นญาติหรือเพื่อนบ้านที่จะดูแลพวกเขา. บนมืออื่น ๆ ไม่มีอะไรยุ่งยากมากขึ้นในช่วงบทเรียนกว่าเสียงของโทรศัพท์มือถือ เสียงเรียกเข้าโทรศัพท์หรือเล่นการปรับแต่งที่น่ารำคาญ นอกจากนี้นักเรียนที่ส่งและรับข้อความในชั้นเรียนไม่ได้ให้ความสนใจกับบทเรียน. โดยสรุปผมรู้สึกว่านักเรียนควรได้รับอนุญาตให้ใช้โทรศัพท์มือถือไปโรงเรียนสำหรับการใช้งานในกรณีฉุกเฉิน แต่โทรศัพท์ทั้งหมดแน่นอนควรถูกปิดในระหว่างการเรียน

Results (Thai) 3:

นักศึกษาปัจจุบันมากขึ้นและนำโทรศัพท์มือถือมาโรงเรียน ในขณะที่ผมเชื่อว่านักเรียนควรพกโทรศัพท์มือถือในกรณีฉุกเฉิน ผมขอเทียบกับโทรศัพท์ที่ใช้ในโรงเรียน โดยเฉพาะในห้องเรียน

ก่อนอื่น นักเรียนหลายคนเดินทางไปและกลับจากโรงเรียน โดยปราศจากพ่อแม่ ดังนั้นมันเป็นสิ่งสำคัญสำหรับพวกเขาที่จะมีโทรศัพท์มือถือในกรณีที่พวกเขาต้องการความช่วยเหลือ หรือมีอุบัติเหตุระหว่างทางไปโรงเรียนหรือกลับบ้าน

นอกจากนี้ ผู้ปกครองที่ทำงานอาจต้องติดต่อกับบุตรของตน ตัวอย่างเช่น ถ้าพ่อแม่ต้องไปทำงานสาย นักเรียนต้องบอก ถ้าจัดไว้ให้ญาติหรือเพื่อนบ้าน เพื่อดูแลพวกเขา .

บนมืออื่น ๆไม่มีอะไรยุ่งยากมากขึ้นในระหว่างการเรียนมากกว่า เสียงโทรศัพท์มือถือดัง หรือเล่นเพลงน่ารำคาญ นอกจากนี้ นักเรียนที่ส่งและรับข้อความในชั้นเรียนจะไม่ได้สนใจกับบทเรียน

สรุป ผมรู้สึกว่านักเรียนควรได้รับอนุญาตให้ใช้โทรศัพท์มือถือไปยังโรงเรียนเพื่อใช้ในเหตุฉุกเฉิน อย่างไรก็ตาม โทรศัพท์ทั้งหมดควรแน่นอนจะปิดในระหว่างเรียน