The top Chinese mainland ports hand

The top Chinese mainland ports handled 13.5 million

twenty-foot equivalent units (TEUs) in January 2011. This

translates to 17 percent year-on-year growth, which is rela-
tively consistent with increases at major coastal ports from

2001 to 2010. During this period, Shanghai became the

largest port in the world, with 29.06 million TEUs exported

in 2010.

In the bulk cargo markets, surplus capacity resulted in a

drop in freight rates, especially for oil tankers and dry bulk

cargo. The problem here is simply an imbalance of supply

and demand. On the one hand, numerous Chinese ships

have come on-line, thus increasing capacity. On the other

hand, debt crises in many
pressed global demand.

Results (Thai) 2:

ด้านบนพอร์ตจีนแผ่นดินใหญ่จัดการ 13,500,000 ยี่สิบฟุตหน่วยเทียบเท่า (TEUs) ในเดือนมกราคม 2011 นี้แปลว่าจะเติบโตร้อยละ 17 เมื่อเทียบกับปีซึ่งสัมพันธ์ลำดับสอดคล้องกับการเพิ่มขึ้นที่ท่าเรือชายฝั่งทะเลที่สำคัญจากปี 2001 ถึง 2010 ในช่วง เวลานี้เซี่ยงไฮ้กลายเป็นเมืองท่าที่ใหญ่ที่สุดในโลกด้วย 29,060,000 TEUs การส่งออกในปี 2010 ในตลาดสินค้ากลุ่มกำลังการผลิตส่วนเกินส่งผลให้การลดลงของอัตราค่าระวางเรือโดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับเรือบรรทุกน้ำมันและสินค้าแห้งเทกองสินค้า ปัญหานี่เป็นเพียงความไม่สมดุลของอุปทานและอุปสงค์ บนมือข้างหนึ่งเรือจีนจำนวนมากได้เข้ามาในสายซึ่งจะเป็นการเพิ่มกำลังการผลิต ในอื่น ๆมือวิกฤตหนี้ในหลายกดอุปสงค์ทั่วโลก

Results (Thai) 3:

ด้านบนจีนแผ่นดินใหญ่พอร์ตการจัดการ 13.5 ล้าน

20 เท้าเทียบเท่าหน่วย ( กันยายน 2007 ) ในเดือนมกราคม 2554 นี้

แปล 17 เปอร์เซ็นต์ ปีต่อปี การเจริญเติบโต ซึ่งจะจริง -
มีเพิ่มที่สอดคล้องกับพอร์ตชายฝั่งหลักจาก

ปี 2010 ในช่วงเวลานี้ , เซี่ยงไฮ้กลายเป็น

พอร์ตที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีปริมาณตู้สินค้าผ่านท่าเรือกรุงเทพ 29.06 ล้านบาทในปี 2553 การส่งออก



ในตลาดสินค้าจํานวนมาก ,เกินความจุ ส่งผลให้

ปล่อยในอัตราค่าขนส่ง โดยเฉพาะเรือบรรทุกน้ำมันและสินค้าจํานวนมาก

แห้ง ปัญหาก็คือความไม่สมดุลของอุปสงค์และอุปทาน

. ในมือข้างหนึ่ง , มากมายเกี่ยวกับเรือจีน

มาออนไลน์ ดังนั้น การเพิ่มความจุ บนมืออื่น ๆ

,
กดหลายวิกฤตหนี้ในความต้องการทั่วโลก