Like a twist I didn’t see coming, t

Like a twist I didn’t see coming, the concluding chapter of this book blew me away: it presents tools for reframing “negative” emotions (see how I’m already putting “negative” in quotes?) and invites us to see feelings as useful or not-useful rather than positive and negative. We are It also encourages us to accept, and to some extent, embrace, the less pleasant (but natural and normal) sides of our personalities – to tap into the strengths we usually push aside as part of a darker set of emotions.As someone who has particularly struggled with negative emotions over the last five years (during a series of chronic live-changing events), I welcome the perspective offered by this book. I would go as far as to say it has revolutionised my thinking, leaving me feeling a whole lot more positive about feeling negative. (less)

Results (Thai) 1:

เช่นเดียวกับการบิดผมไม่ได้เห็นมาเป็นบทสรุปของหนังสือเล่มนี้ blew ฉันไป: นำเสนอเครื่องมือสำหรับ reframing“เชิงลบ” อารมณ์ (ดูวิธีการที่ฉันได้วาง“เชิงลบ” ในเครื่องหมายคำพูด?) และเชิญเราไปดูความรู้สึก เป็นประโยชน์หรือไม่เป็นประโยชน์มากกว่าบวกและลบ เรามีนอกจากนี้ยังกระตุ้นให้เรายอมรับและบางส่วนอ้อมกอดที่น่าพอใจน้อย ( แต่ธรรมชาติและปกติ) ด้านข้างของคนที่มีบุคลิกของเรา - ที่จะเข้าไปในจุดแข็งที่เรามักจะผลักดันกันเป็นส่วนหนึ่งของชุดสีเข้มของอารมณ์

เป็นคนที่มีความพยายามโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับอารมณ์เชิงลบในช่วงห้าปีที่ผ่านมา (ระหว่างชุดของเหตุการณ์สดเปลี่ยนแปลงเรื้อรัง) ผมยินดีต้อนรับมุมมองที่นำเสนอโดยหนังสือเล่มนี้ ฉันจะไปไกลเท่าที่จะบอกว่ามันมีการปฏิวัติความคิดของฉันทิ้งฉันรู้สึกมากทั้งเชิงบวกมากขึ้นเกี่ยวกับความรู้สึกเชิงลบ (น้อย)

Results (Thai) 2:

เช่นเดียวกับบิดผมไม่เห็นบทสรุปของหนังสือเล่มนี้พัดฉันออกไป: มันนำเสนอเครื่องมือสำหรับการละเว้นความรู้สึก "ลบ" อารมณ์ (ดูวิธีการที่ฉันวาง "ลบ" ในคำพูด?) และขอเชิญเราที่จะเห็นความรู้สึกที่เป็นประโยชน์หรือไม่มีประโยชน์มากกว่าบวกและ ลบ นอกจากนี้เรายังสนับสนุนให้เรายอมรับ, และในขอบเขต, กอด, ที่น่าพอใจน้อย (แต่ธรรมชาติและปกติ) ด้านของบุคลิกของเรา–เพื่อสัมผัสจุดแข็งที่เรามักจะผลักดันให้เป็นส่วนหนึ่งของชุดที่เข้มขึ้นของอารมณ์.

ในฐานะที่เป็นคนที่ต่อสู้โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับอารมณ์เชิงลบในช่วงห้าปีที่ผ่านมา (ในช่วงชุดของเหตุการณ์ที่เปลี่ยนแปลงสดเรื้อรัง), ผมยินดีต้อนรับมุมมองที่นำเสนอโดยหนังสือเล่มนี้. ผมจะไปเท่าที่จะบอกว่ามันได้ปฏิวัติความคิดของฉัน, ออกจากฉันรู้สึกมากขึ้นในเชิงบวกเพิ่มเติมเกี่ยวกับความรู้สึกเชิงลบ. น้อย

Results (Thai) 3:

เช่นเดียวกับการเปลี่ยนแปลงที่ผมไม่เคยคิดว่าจะเกิดขึ้นบทสุดท้ายของหนังสือเล่มนี้ทำให้ฉันประหลาดใจมันมีเครื่องมือในการกำหนดอารมณ์เชิงลบ กรุณาพิจารณาความรู้สึกที่เป็นประโยชน์หรือไร้ประโยชน์ไม่บวกหรือลบ เราก็เหมือนกันมันกระตุ้นให้เรายอมรับว่าในบางวิธีกอดด้านที่ไม่พึงประสงค์ของตัวละครของเราแต่ธรรมชาติและปกติใช้พลังที่เรามักจะผลักดันเป็นส่วนหนึ่งของอารมณ์ที่มืด
เป็นคนที่ต่อสู้กับอารมณ์เชิงลบในช่วงห้าปีที่ผ่านมาในชุดของเหตุการณ์ที่เปลี่ยนแปลงชีวิตเรื้อรังผมยินดีต้อนรับหนังสือเล่มนี้ ฉันสามารถพูดได้ว่ามันเปลี่ยนความคิดของฉันอย่างสมบูรณ์และทำให้ฉันรู้สึกดีขึ้นเกี่ยวกับความรู้สึกเชิงลบ น้อยมาก