and the results (Table. 1) revealed

and the results (Table. 1) revealed that EC concentration was significantly
different in the wines pre- and post-frying (t = 2.536,
p = 0.03), which demonstrated that wine frying process and product
sterilization had significantly influenced the EC formation.
The wine post-frying also showed significant difference
(t = 8.361, p < 0.01) with the wine that were on sale in 2011,
which suggested that EC concentration increased during the storage
while on sale. Earlier investigations demonstrated that EC formation
was primarily related to urea and ethanol reactions, which
reacted under specific conditions at suitable temperature and storage
time during the process of wine production (Stevens & Ough,
1993; Woo et al., 2001)

Results (Thai) 1:

และมีผลลัพธ์ (ตาราง 1) เปิดเผยว่า EC สมาธิเป็นอย่างมากในไวน์ก่อน และหลังทอด (t = 2.536p = 0.03), ซึ่งแสดงให้เห็นว่าไวน์ที่ทอดกระบวนการและผลิตภัณฑ์ฆ่าเชื้อได้อย่างมีนัยสำคัญมีอิทธิพลต่อการก่อตัวของ ECที่ไวน์หลังทอดยังแสดงให้เห็นความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญ(t = 8.361, p < 0.01) กับไวน์ที่มีการขายในปี 2554ซึ่งแนะนำว่า ความเข้มข้น EC เพิ่มขึ้นระหว่างการเก็บรักษาในขณะที่ขาย ตรวจสอบก่อนสาธิตก่อที่ ECมีหลักที่เกี่ยวข้องกับปฏิกิริยายูเรียและเอทานอล ที่ปฏิกิริยาที่เกิดขึ้นภายใต้เงื่อนไขเฉพาะที่อุณหภูมิเหมาะสมและเก็บเวลาในการผลิตไวน์ (Stevens & Ough1993 วูและ al., 2001)

Results (Thai) 2:

และผล (ตารางที่ 1). เปิดเผยว่าความเข้มข้นของ EC
อย่างมีนัยสำคัญที่แตกต่างกันในไวน์ก่อนและหลังการทอด(t = 2.536,
p = 0.03)
ซึ่งแสดงให้เห็นว่ากระบวนการทอดไวน์และผลิตภัณฑ์ฆ่าเชื้อที่มีอิทธิพลอย่างมีนัยสำคัญการก่อตัวEC
โพสต์ทอดไวน์ยังแสดงให้เห็นความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญ
(t = 8.361, p <0.01) กับไวน์ที่มีการขายในปี 2011
ซึ่งแสดงให้เห็นว่ามีความเข้มข้น EC
เพิ่มขึ้นในช่วงการจัดเก็บในขณะที่การขาย การตรวจสอบก่อนหน้านี้แสดงให้เห็นว่าการก่อตัว EC
เป็นหลักที่เกี่ยวข้องกับยูเรียและปฏิกิริยาเอทานอลซึ่งมีปฏิกิริยาตอบสนองภายใต้เงื่อนไขที่เฉพาะเจาะจงที่อุณหภูมิที่เหมาะสมและการจัดเก็บข้อมูลในช่วงเวลาขั้นตอนการผลิตไวน์(สตีเว่นและ Ough, 1993. วู, et al, 2001)

Results (Thai) 3:

และผลลัพธ์ ( ตาราง 1 ) พบว่า ความเข้มข้นของ EC อย่างมีนัยสำคัญ
แตกต่างกันในไวน์ก่อนและหลังทอด ( t = 2.536
, p = 0.03 ) ซึ่งแสดงให้เห็นว่าไวน์กระบวนการทอดและฆ่าเชื้อผลิตภัณฑ์
ได้มีอิทธิพลต่อการพัฒนา EC .
ไวน์โพสต์ทอดยังพบความแตกต่าง
( t =  8.361 , p < . 0.05 ) กับไวน์ที่ขายใน 2011 ,
ซึ่งชี้ให้เห็นว่าปริมาณ EC เพิ่มขึ้นในช่วงกระเป๋า
ในขณะที่ขาย ก่อนหน้านี้พบว่า การสอบสวน กกต. เป็นหลักที่เกี่ยวข้องกับ
ปฏิกิริยายูเรียและเอทานอลซึ่งทำปฏิกิริยาภายใต้เงื่อนไขที่เฉพาะเจาะจง
ที่อุณหภูมิที่เหมาะสมและเวลากระเป๋า
ในระหว่างกระบวนการผลิตไวน์ ( สตีเว่น&ย่ะ
, 1993 ; วู et al . , 2001 )