In the 19th century, Manifest Desti

In the 19th century, Manifest Destiny was a widely held belief in the United States that American settlers were destined to expand throughout the continent. Historians have for the most part agreed that there are three basic themes to Manifest Destiny:

The special virtues of the American people and their institutions;
America's mission to redeem and remake the west in the image of agrarian America;
An irresistible destiny to accomplish this essential duty.[2]
Historian Frederick Merk says this concept was born out of "A sense of mission to redeem the Old World by high example...generated by the potentialities of a new earth for building a new heaven".[3]

Historians have emphasized that "Manifest Destiny" was a contested concept—Democrats endorsed the idea but many prominent Americans (such as Abraham Lincoln, Ulysses S. Grant, and most Whigs) rejected it. Historian Daniel Walker Howe writes, "American imperialism did not represent an American consensus; it provoked bitter dissent within the national polity.... Whigs saw America's moral mission as one of democratic example rather than one of conquest."[4]

Newspaper editor John O'Sullivan coined the term Manifest Destiny in 1845 to describe the essence of this mindset which was a rhetorical tone.[5] It was used by Democrats in the 1840s to justify the war with Mexico and it was also used to divide half of Oregon with the United Kingdom. But Manifest Destiny always limped along because of its internal limitations and the issue of slavery, says Merk. It never became a national priority. By 1843 John Quincy Adams, originally a major supporter, had changed his mind and repudiated Manifest Destiny because it meant the expansion of slavery in Texas.[6]

Results (Thai) 1:

ในศตวรรษที่ 19 ลิขิตถูกความเชื่ออย่างกว้างขวางจัดขึ้นในสหรัฐอเมริกาตั้งถิ่นฐานที่สหรัฐอเมริกาได้กำหนดขยายทั่วทั้งทวีป นักประวัติศาสตร์ส่วนใหญ่ตกลงว่า มีรูปแบบพื้นฐาน 3 การลิขิต:คุณค่าพิเศษของคนอเมริกันและสถาบันของพวกเขาภารกิจของอเมริกาแลก และ remake ตะวันตกในรูปของแผนอเมริกาชะตากรรมต้านทานเพื่อทำหน้าที่สำคัญนี้[2]Merk เฟรเดอริกนักประวัติศาสตร์กล่าวว่า แนวคิดนี้เกิดจาก "ความรู้สึกของภารกิจแลกโลกเก่า โดยเฉพาะตัวอย่างสูง...สร้าง โดย potentialities ของโลกใหม่สำหรับการสร้างสวรรค์ใหม่"[3]นักประวัติศาสตร์ได้เน้นย้ำว่า "ลิขิต" คือ แนวคิดระหว่าง — ประชาธิปัตย์รับรองความคิด แต่คนอเมริกันที่โดดเด่นจำนวนมาก (เช่นอับราฮัมลินคอล์น เงินช่วย เหลือเอสยูไลซ์เซส และส่วนใหญ่ Whigs) ปฏิเสธมัน นักประวัติศาสตร์ Daniel Walker ฮาวเขียน "ลัทธิจักรวรรดินิยมของอเมริกันไม่ได้แสดงถึงมติการอเมริกัน ก็ท่าน dissent ขมภายใน polity แห่งชาติ... Whigs เห็นภารกิจคุณธรรมของอเมริกาเป็นประชาธิปไตยอย่างหนึ่งแทนที่ชนะอย่างใดอย่างหนึ่ง"[4]บรรณาธิการหนังสือพิมพ์จอห์นโรงงจังหวะคำลิขิตใน 1845 อธิบายสาระสำคัญของ mindset นี้ซึ่งเสียง rhetorical[5] มันถูกใช้ โดยประชาธิปัตย์ใน 1840s ในการสงครามกับเม็กซิโก และมันยังถูกใช้เพื่อแบ่งครึ่งของออริกอนกับสหราชอาณาจักร แต่ลิขิตเสมอ limped ตามเรื่องทาส และข้อจำกัดของภายในว่า Merk ไม่กลายเป็นความสำคัญระดับชาติ โดย 1843 จอห์นควินซี Adams เดิมเป็นสำคัญผู้สนับสนุน มีการเปลี่ยนแปลง repudiated ลิขิตและจิตใจของเขา เพราะมันหมายถึง การขยายตัวของทาสในเท็กซัส[6]

Results (Thai) 2:

ในศตวรรษที่ 19, เห็นชะตากรรมเป็นความเชื่อที่ถือกันอย่างแพร่หลายในประเทศสหรัฐอเมริกาที่เข้ามาตั้งถิ่นฐานชาวอเมริกันที่ถูกกำหนดที่จะขยายทั่วทั้งทวีป ประวัติศาสตร์ได้ส่วนใหญ่เห็นว่ามีสามรูปแบบพื้นฐานในการเห็นชะตากรรม: คุณธรรมพิเศษของคนอเมริกันและสถาบันการศึกษาของพวกเขา; ภารกิจของอเมริกาเพื่อแลกและ remake ตะวันตกในรูปของกรอเมริกา; ชะตาต่อต้านไม่ให้ประสบความสำเร็จที่สำคัญนี้ หน้าที่. [2] ประวัติศาสตร์เฟรเดอริ Merk กล่าวว่าแนวคิดนี้เกิดจาก "ความรู้สึกของการปฏิบัติภารกิจเพื่อแลกโลกเก่าจากตัวอย่างสูง ... ที่เกิดจากศักยภาพของแผ่นดินโลกใหม่สำหรับการสร้างชั้นฟ้าใหม่". [3] ประวัติศาสตร์ ได้เน้นย้ำว่า "เห็นชะตากรรม" เป็นแนวคิดของพรรคประชาธิปัตย์เข้าร่วมประกวดได้รับการรับรองความคิด แต่ชาวอเมริกันจำนวนมากที่ประสบความสำเร็จ (เช่นอับราฮัมลิงคอล์น, แกรนท์และส่วนใหญ่วิกส์) ปฏิเสธมัน ประวัติศาสตร์แดเนียลวอล์คเกอร์ฮาวเขียน "จักรวรรดินิยมอเมริกันไม่ได้เป็นตัวแทนฉันทามติอเมริกันมันเจ็บใจความขัดแย้งภายในขมรัฐธรรมนูญแห่งชาติ .... วิกส์เห็นภารกิจทางศีลธรรมของอเมริกาเป็นหนึ่งในตัวอย่างที่เป็นประชาธิปไตยมากกว่าหนึ่งในชัยชนะ." [4] บรรณาธิการหนังสือพิมพ์ จอห์นซัลลิแวนเป็นคนบัญญัติศัพท์เห็นชะตากรรมในปี 1845 ที่จะอธิบายสาระสำคัญของความคิดซึ่งเป็นโทนสีวาทศิลป์นี้. [5] มันถูกใช้โดยพรรคประชาธิปัตย์ในยุค 1840 แสดงให้เห็นถึงสงครามกับเม็กซิโกและมันยังถูกใช้ในการแบ่งครึ่งหนึ่งของ โอเรกอนกับสหราชอาณาจักร แต่เห็นชะตากรรมเดินกะโผลกกะเผลกพร้อมเสมอเนื่องจากข้อ จำกัด ภายในและปัญหาของการเป็นทาส, Merk กล่าวว่า มันไม่เคยเป็นความสำคัญระดับชาติ โดย 1843 จอห์นควินซีอดัมส์ แต่เดิมเป็นผู้สนับสนุนรายใหญ่มีการเปลี่ยนแปลงความคิดของเขาและปฏิเสธเห็นชะตากรรมเพราะมันหมายถึงการขยายตัวของการเป็นทาสในเท็กซัส. [6]

Results (Thai) 3:

ในศตวรรษที่ 19 , โองการของพระเจ้าเป็นอย่างกว้างขวางในความเชื่อในสหรัฐอเมริกาว่า ผู้ตั้งถิ่นฐานชาวอเมริกันถูกกำหนดให้ขยายไปทั่วทวีป มีนักประวัติศาสตร์ส่วนใหญ่เห็นพ้องกันว่ามีอยู่สามรูปแบบพื้นฐานเทพลิขิต :

คุณธรรมพิเศษของคนอเมริกันและสถาบันของตน ;
ของอเมริกาภารกิจไถ่และ remake ตะวันตกในภาพของสังคมอเมริกา ;
โชคชะตาที่ต่อต้านเพื่อให้บรรลุหน้าที่ที่สำคัญนี้ . [ 2 ]
นักประวัติศาสตร์เฟรดเดอริกหมายเหตุบอกว่า แนวคิดนี้เกิดจาก " ความรู้สึกของภารกิจกอบกู้โลกเก่าอย่าง . . . . . . . สูงที่สร้างขึ้นโดยศักยภาพของโลกใหม่สำหรับอาคาร สวรรค์ใหม่ " [ 3 ]

นักประวัติศาสตร์ได้เน้นว่า " เทพลิขิต " โต้แย้งแนวคิดประชาธิปไตยฯ คิดแต่หลายคนอเมริกันที่โดดเด่น เช่น อับราฮัม ลินคอล์น ยูลิสซิส เอส. แกรนท์และพรรควิกที่สุด ) ปฏิเสธ นักประวัติศาสตร์แดเนียล วอล์คเกอร์ ฮาว เขียน " จักรวรรดินิยมอเมริกันไม่ได้แสดงฉันทามติอเมริกัน ; มันทำให้ความขัดแย้งภายในรัฐชาติขม . . . . . . .พรรควิกเห็นภารกิจทางศีลธรรมของอเมริกาเป็นหนึ่งในตัวอย่างที่เป็นประชาธิปไตยมากกว่าหนึ่งแห่งชัยชนะ " [ 4 ]

บรรณาธิการหนังสือพิมพ์จอห์น o'sullivan coined ระยะเทพลิขิตใน 1845 อธิบายสาระของความคิดซึ่งมีวาทศิลป์โทน [ 5 ] มันถูกใช้โดยสหรัฐในยุค 1840 ว่าสงครามกับเม็กซิโก และมันก็ยังใช้ในการแบ่งครึ่งของโอเรกอนกับสหราชอาณาจักรแต่เทพลิขิต limped พร้อมเสมอเนื่องจากข้อจำกัดภายในและปัญหาของการเป็นทาสบอกว่า Merk . มันไม่เคยเป็นสำคัญของชาติ โดยจอห์นควินซีอดัมส์ 1843 เดิมทีเป็นผู้สนับสนุนหลัก ได้เปลี่ยนความคิดของเขาและได้รับการปฏิเสธอย่างชัดแจ้งเนื้อคู่เพราะมันหมายถึงการขยายตัวของความเป็นทาส [ 6 ] ในเท็กซัส