One of nature's most splendid maste

One of nature's most splendid masterpieces is the rainbow. A rainbow is an excellent demonstration of the dispersion of light and one more piece of evidence that visible light is composed of a spectrum of wavelengths, each associated with a distinct color. To view a rainbow, your back must be to the sun as you look at an approximately 40 degree angle above the ground into a region of the atmosphere with suspended droplets of water or even a light mist. Each individual droplet of water acts as a tiny prism that both disperses the light and reflects it back to your eye. As you sight into the sky, wavelengths of light associated with a specific color arrive at your eye from the collection of droplets. The net effect of the vast array of droplets is that a circular arc of ROYGBIV,is an acronym for the sequence of hues commonly described as making up a rainbow is seen across the sky. But just exactly how do the droplets of water disperse and reflect the light? And why does the pattern always appear as ROYGBIV from top to bottom? To understand these questions, we will need to draw upon our understanding of refraction, internal reflection and dispersion.

Results (Thai) 1:

หนึ่งผลงานมาสเตอร์พีซทำสุดสวยงามของธรรมชาติคือรุ้ง รุ้งเป็นการสาธิตที่ดีของการกระจายตัวของแสงและเพิ่มเติมหลักฐานชิ้นหนึ่งว่า แสงที่มองเห็นประกอบด้วยสเปกตรัมความยาวคลื่น ละเกี่ยวข้องกับสีที่แตกต่างกัน ดูรุ้ง กลับต้องได้แดดเป็นคุณมองในมุมประมาณ 40 องศาเหนือพื้นดินในพื้นที่บรรยากาศกับระงับหยดของน้ำหรือแม้แต่หมอกแสง แต่ละหยดละน้ำทำหน้าที่เป็นปริซึมเล็ก ๆ ที่ disperses แสง และสะท้อนกลับไปที่ตาของคุณ ตามที่คุณเห็นในฟากฟ้า ความยาวคลื่นของแสงที่เกี่ยวข้องกับแต่ละสีมาที่ตาของคุณจากคอลเลกชันของหยด ผลสุทธิของการหยดมากมายที่เป็นส่วนโค้งวงกลมของ ROYGBIV เป็นคำย่อสำหรับลำดับของโทนที่อธิบายโดยทั่วไปเป็นค่ารุ้งจะเห็นได้ทั่วท้องฟ้า แต่เพียงว่าวิธีทำหยดน้ำกระจาย และสะท้อนแสงได้ และเหตุใดรูปแบบจะปรากฏเป็น ROYGBIV จากบนลงล่าง เข้าใจคำถามเหล่านี้ เราจะต้องวาดตามความเข้าใจของเราหักเห การสะท้อน และการกระจายตัว

Results (Thai) 2:

หนึ่งในผลงานชิ้นเอกที่สวยงามที่สุดของธรรมชาติเป็นสีรุ้ง รุ้งเป็นสาธิตที่ดีของการกระจายของแสงและชิ้นส่วนอื่น ๆ เป็นหนึ่งในหลักฐานที่แสดงว่าแสงท​​ี่มองเห็นประกอบด้วยความยาวคลื่นสเปกตรัมของแต่ละคนที่เกี่ยวข้องกับการที่แตกต่างกันสี ในการดูรุ้งกลับของคุณจะต้องไปยังดวงอาทิตย์ในขณะที่คุณดูที่ประมาณ 40 องศาเหนือพื้นดินเข้ามาในภูมิภาคของบรรยากาศที่มีหยดน้ำระงับหรือแม้กระทั่งหมอกแสง แต่ละหยดน้ำแต่ละคนทำหน้าที่เป็นปริซึมเล็ก ๆ ที่ทั้งกระจายแสงและสะท้อนให้เห็นถึงมันกลับไปที่ตาของคุณ ในขณะที่คุณสายตาสู่ท้องฟ้าความยาวคลื่นของแสงที่เกี่ยวข้องกับสีที่เฉพาะเจาะจงมาที่ตาของคุณจากการเก็บของละออง ผลกระทบสุทธิของ array กว้างใหญ่ของหยดเป็นที่ส่วนโค้งของวงกลม ROYGBIV เป็นตัวย่อสำหรับลำดับของเฉดสีที่อธิบายไว้โดยทั่วไปว่าทำขึ้นรุ้งที่ถูกมองข้ามท้องฟ้า แต่เพียงว่าวิธีการทำหยดกระจายน้ำและสะท้อนแสงหรือไม่ และทำไมรูปแบบไม่เสมอปรากฏเป็น ROYGBIV จากบนลงล่าง? เพื่อให้เข้าใจถึงคำถามเหล่านี้เราจะต้องวาดตามความเข้าใจของการหักเหของแสงสะท้อนภายในและการกระจาย

Results (Thai) 3:

หนึ่งในผลงานชิ้นเอกที่สวยงามที่สุดของธรรมชาติ คือ สายรุ้ง รุ้งเป็นสาธิตที่ดีของการกระจายของแสง และอีกหนึ่งหลักฐานที่แสงประกอบด้วยสเปกตรัมของแสงแต่ละที่เกี่ยวข้องกับสี ที่แตกต่างกัน ดูรุ้งกลับของคุณจะต้องกับแสงแดดเป็นคุณดูประมาณ 40 องศาเหนือพื้นดินในเขตของบรรยากาศกับระงับหยดน้ำ หรือแม้แต่หมอกแสง แต่ละหยดของน้ำแต่ละหน้าที่เป็นปริซึมขนาดเล็กที่กระจายแสง และสะท้อนให้เห็นถึงทั้งสองกลับไปที่ตาของคุณ ตามที่คุณเห็นในท้องฟ้าความยาวคลื่นของแสงที่เกี่ยวข้องกับสีที่ระบุถึงดวงตาของคุณจากคอลเลกชันของอนุภาค ผลสุทธิของอาร์เรย์ของหยดเป็นส่วนโค้งวงกลมของ roygbiv , ตัวย่อสำหรับลำดับของเฉดสีโดยทั่วไปอธิบายว่า การทำสีรุ้งเห็นข้ามท้องฟ้า แต่แค่ว่าทำหยดของน้ำกระจายและสะท้อนแสงและทำไมรูปแบบมักจะปรากฏเป็น roygbiv จากบนลงล่าง เข้าใจคำถามเหล่านี้ เราจะต้องวาดตามความเข้าใจของเราของการหักเหและการสะท้อนกลับหมด
, การแพร่กระจาย