David Ricardo developed the classic

David Ricardo developed the classical theory of comparative advantage in 1817 to explain why countries engage in international trade even when one country's workers are more efficient at producing every single good than workers in other countries. He demonstrated that if two countries capable of producing two commodities engage in the free market, then each country will increase its overall consumption by exporting the good for which it has a comparative advantage while importing the other good, provided that there exist differences in labor productivity between both countries.[5][6] Widely regarded as one of the most powerful[7] yet counter-intuitive[8] insights in economics, Ricardo's theory implies that comparative advantage rather than absolute advantage is responsible for much of international trade.

Results (Thai) 1:

เดวิดริคาร์โดได้พัฒนาทฤษฎีคลาสสิกเปรียบโดยเปรียบเทียบใน 1817 อธิบายทำไมประเทศมีส่วนร่วมในการค้าระหว่างประเทศแม้ว่าประเทศหนึ่งผู้ปฏิบัติงานมีประสิทธิภาพมากขึ้นที่การผลิตทุกเดียวที่ดีกว่าแรงงานในประเทศอื่น ๆ เขาเห็นว่า หากทั้งสองประเทศสามารถผลิตสินค้าทั้งสองมีส่วนร่วมในตลาดเสรี แล้วแต่ละประเทศจะเพิ่มขึ้นของปริมาณการใช้โดยรวม โดยการส่งออกดีที่มีความได้เปรียบเปรียบเทียบในขณะนำเข้าอื่น ๆ ที่ดี ที่มีความแตกต่างในประสิทธิภาพแรงงานระหว่างประเทศทั้งสอง [5] [6] อย่างกว้างขวางถือเป็นหนึ่งในมีประสิทธิภาพมากที่สุด [7] ยังเคาน์เตอร์ [8] ข้อมูลเชิงลึกในสาขาเศรษฐศาสตร์ ทฤษฎีของริคาร์โดหมายถึงสิ่งที่เปรียบเทียบมากกว่าประโยชน์แน่นอนรับผิดชอบสำหรับการค้าระหว่างประเทศ

Results (Thai) 2:

เดวิดริคาร์โด้พัฒนาทฤษฎีคลาสสิกได้เปรียบเชิงเปรียบเทียบใน 1817 เพื่ออธิบายว่าทำไมประเทศที่มีส่วนร่วมในการค้าระหว่างประเทศแม้ในขณะที่คนงานคนหนึ่งของประเทศมีประสิทธิภาพมากขึ้นในการผลิตที่ดีทุกคนเดียวกว่าแรงงานในประเทศอื่น ๆ เขาแสดงให้เห็นว่าถ้าทั้งสองประเทศมีความสามารถในการผลิตสองสินค้าโภคภัณฑ์ที่มีส่วนร่วมในตลาดเสรีแล้วแต่ละประเทศจะเพิ่มการบริโภคโดยรวมโดยการส่งออกที่ดีที่จะมีความได้เปรียบในขณะที่นำเข้าอื่น ๆ ที่ดีให้ว่ามีอยู่ความแตกต่างในการผลิตแรงงาน ระหว่างทั้งสองประเทศ. [5] [6] ได้รับการยกย่องอย่างกว้างขวางว่าเป็นหนึ่งที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด [7] ยังเคาน์เตอร์ [8] ข้อมูลเชิงลึกในสาขาเศรษฐศาสตร์ทฤษฎีริคาร์โด้แสดงให้เห็นว่าได้เปรียบเชิงเปรียบเทียบมากกว่าประโยชน์แน่นอนเป็นผู้รับผิดชอบสำหรับมากของการค้าระหว่างประเทศ

Results (Thai) 3:

เดวิด ริคาร์โด พัฒนาทฤษฎีคลาสสิกของความได้เปรียบใน 1817 เพื่ออธิบายว่าทำไมประเทศมีส่วนร่วมในการค้าระหว่างประเทศ แม้ว่าคนหนึ่งของประเทศจะมีประสิทธิภาพในการผลิตทุกเดียวที่ดีกว่าแรงงานในประเทศอื่น ๆ เขาแสดงให้เห็นว่า หากทั้งสองประเทศสามารถผลิตสินค้าสองต่อสู้ในตลาดฟรี แล้วจะเพิ่มการบริโภคโดยรวมของแต่ละประเทศ โดยการส่งออกที่ดีซึ่งมีความได้เปรียบในขณะที่การนำเข้าดีอื่น ๆให้มีความแตกต่างด้านแรงงานระหว่างทั้งสองประเทศ . [ 5 ] [ 6 ] การยอมรับอย่างกว้างขวางว่าเป็นหนึ่ง ของที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด [ 7 ] ยังเคาน์เตอร์ที่ใช้งานง่าย [ 8 ] ข้อมูลเชิงลึกในทางเศรษฐศาสตร์ , ทฤษฎีริคาร์โด้ก็หมายความว่าความได้เปรียบมากกว่าความได้เปรียบสัมบูรณ์เป็นผู้รับผิดชอบสำหรับมากของการค้าระหว่างประเทศ