6.2 Future researchThe current rese

6.2 Future research
The current research project has combined the literature on health literacy and skin infections to identify barriers to parents and caregivers preventing and managing children’s skin infections, alongside opportunities for health literacy driven interventions to improve prevention and management. The parent and caregiver oriented resources developed were acceptable to parents and caregivers and the feedback from health practitioners on their use of the resources with parents and caregivers enabled the resources to be revised by the project clinical Reference Group. Acceptability and face validity are the first step in the testing of new resources. The question now is if they are acceptable and useful for parents and caregivers, will they help facilitate health literacy and lead to better prevention and management of skin infections?
6.3 Other interventions to prevent and manage skin infections
In addition to resources, parents and caregivers need regular, easy access to health guidance and expertise in order to build the health literacy knowledge and the skills needed to prevent and manage skin infections. Furthermore, health practitioners need to communicate effectively with parents and caregivers in ways which build understanding and discussion. In the course of this project parents and caregivers, health practitioners, and the Reference Group identified possible interventions relevant to the successful reduction of serious skin infections but outside the health literacy focus of the project. These were as follows:
 The promotion or development of national clinical guidelines for skin conditions and protocols to support the use of clinical guidelines in primary health care settings.
 The promotion of standing orders, as a mechanism for registered nurses operating in school and community settings, to supply medicines for skin infections in order to improve timely access to treatment.
45
 The provision of more accessible, affordable primary care services including after-hours care, such as the increased availability of nurses in the community (nurse led clinics, nurse practitioners) and free primary health care for children up to 18 years of age.
 The promotion of the range of primary care services available in each DHB region for parents, caregivers and children (distributed via schools and primary health care practices).
 Improved cultural responsiveness of the health workforce.
 Better recognition of the long-term nature of skin infections or skin conditions and the associated (primary care) planning and support needed for parents and caregivers to effectively manage skin health.
 The establishment of national targets for lowering rates of serious skin infections, such as halving serious skin infections for children under 18 by 2020.
 Regular monitoring and reporting on these targets at the PHO and DHB level (including better involvement of the primary care sector in taking responsibility for decreasing hospitalisations for skin infections).
 Encouraging greater regional public health involvement in skin health, such as activities of the Healthy Skin Greater Wellington group

Results (Thai) 1:

6.2 งานวิจัยในอนาคตโครงการวิจัยปัจจุบันได้รวมวรรณคดีบนสุขภาพผิวและสามารถติดเชื้อเพื่อระบุอุปสรรคผู้ปกครองและเรื้อรังป้องกัน และการจัดการเด็กเชื้อ ควบคู่ไปกับโอกาสในสุขภาพสามารถขับเคลื่อนงานวิจัยเพื่อปรับปรุงการป้องกันและการจัดการ หลักการภูมิปัญญามุ่งเน้นพัฒนาทรัพยากรถูกยอมรับพ่อแม่และเรื้อรัง และผลป้อนกลับจากผู้สุขภาพในการใช้ทรัพยากรกับผู้ปกครองและเรื้อรังใช้ทรัพยากรต้องแก้ไข โดยโครงการ กลุ่มอ้างอิงทางคลินิก Acceptability และตั้งแต่ใบหน้าเป็นขั้นตอนแรกในการทดสอบของทรัพยากรใหม่ คำถามตอนนี้คือ ถ้าจะยอมรับได้ และมีประโยชน์สำหรับผู้ปกครองและเรื้อรัง จะช่วยอำนวยความสะดวกสามารถสุขภาพ และนำไปสู่การป้องกันและการจัดการเชื้อดี6.3 อื่น ๆ มาตรการการป้องกัน และจัดการผิวหนังติดเชื้อทรัพยากร ผู้ปกครอง และเรื้อรังจำเป็นปกติ ง่ายต่อการเข้าถึงสุขภาพคำแนะนำและความเชี่ยวชาญเพื่อสร้างสุขภาพวัดความรู้และทักษะจำเป็นในการป้องกัน และจัดการเชื้อ นอกจากนี้ สุขภาพผู้ต้องการสื่อสารกับผู้ปกครองและเรื้อรังในวิธีที่สร้างความเข้าใจและสนทนาได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในหลักสูตรของโครงการนี้ ผู้ปกครอง และเรื้อรัง สุขภาพผู้ และ กลุ่มอ้างอิงที่ระบุซึ่งมีมาตราที่เกี่ยวข้องกับการลดสำเร็จ ของเชื้อร้ายแรง แต่อยู่ นอกความสามารถสุขภาพของโครงการได้ เหล่านี้มีดังนี้:คล้ายส่งเสริมหรือพัฒนาทางคลินิกแห่งชาติสำหรับผิวเงื่อนไข และให้สนับสนุนการใช้แนวทางทางคลินิกในการตั้งค่าการดูแลสุขภาพหลักการโปรโมชั่นสั่งยืน เป็นกลไกสำหรับลงทะเบียนพยาบาลปฏิบัติงานในโรงเรียนและชุมชนการตั้งค่า การจัดหายาสำหรับเชื้อเพื่อปรับปรุงเวลาเข้ารักษาคล้ายกัน45คล้ายสำรองบริการเข้าถึงได้ ราคาไม่แพงดูแลรวมถึงการดูแล after-hours เช่นเพิ่มความพร้อมของพยาบาลในชุมชน (นำพยาบาลคลินิก ผู้พยาบาล) และการดูแลสุขภาพหลักสำหรับเด็กฟรีขึ้นไปอายุ 18 ปีคล้ายโปรโมชั่นของช่วงของบริการหลักที่ใช้ในแต่ละภูมิภาค DHB สำหรับพ่อแม่ เรื้อรัง และเด็ก (กระจายผ่านโรงเรียนและแนวทางปฏิบัติในการดูแลสุขภาพหลัก)คล้ายปรับปรุงวัฒนธรรมการตอบสนองของบุคลากรสุขภาพรู้ดีคล้ายธรรมชาติระยะยาวของเชื้อ หรือสภาพผิวหนัง และเกี่ยวข้อง (ดูแล) วางแผน และสนับสนุนที่จำเป็นสำหรับผู้ปกครองและเรื้อรังการจัดการสุขภาพผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพคล้ายก่อตั้งเป้าหมายแห่งชาติในการลดอัตราการติดเชื้อผิวหนังร้ายแรง เช่น halving เชื้อร้ายแรงสำหรับเด็กอายุต่ำกว่า 18 2563คล้ายปกติการตรวจสอบและรายงานในเป้าหมายเหล่านี้ในโพธิ์และ DHB (รวมทั้งมีส่วนร่วมที่ดีของภาคหลักในการรับผิดชอบลดลง hospitalisations สำหรับเชื้อ)คล้าย Encouraging มากกว่าภูมิภาคสาธารณสุขมีส่วนร่วมในสุขภาพผิว เช่นกิจกรรมของกลุ่มสุขภาพผิวมากกว่าเวลลิงตัน

Results (Thai) 2:

6.2 การวิจัยในอนาคต
โครงการวิจัยในปัจจุบันได้รวมหนังสือที่เกี่ยวกับความรู้ด้านสุขภาพและการติดเชื้อที่ผิวหนังในการระบุปัญหาและอุปสรรคให้กับผู้ปกครองและผู้ดูแลการป้องกันและการจัดการโรคผิวหนังเด็กควบคู่ไปกับโอกาสในการอ่านออกเขียนได้สุขภาพที่ขับเคลื่อนด้วยการแทรกแซงในการปรับปรุงการป้องกันและการจัดการ ผู้ปกครองและทรัพยากรที่มุ่งเน้นการดูแลผู้ป่วยได้รับการพัฒนาเป็นที่ยอมรับของผู้ปกครองและผู้ดูแลผู้ป่วยและข้อเสนอแนะจากการปฏิบัติงานด้านสุขภาพเกี่ยวกับการใช้ทรัพยากรของพวกเขากับพ่อแม่และผู้ดูแลการเปิดใช้งานทรัพยากรที่จะได้รับการแก้ไขโดยโครงการกลุ่มอ้างอิงทางคลินิก การยอมรับและความถูกต้องใบหน้าเป็นขั้นตอนแรกในการทดสอบของทรัพยากรใหม่ คำถามในขณะนี้คือถ้าพวกเขาเป็นที่ยอมรับและมีประโยชน์สำหรับพ่อแม่และผู้ดูแลพวกเขาจะช่วยอำนวยความสะดวกในการรู้หนังสือสุขภาพและนำไปสู่การป้องกันที่ดีขึ้นและการจัดการของการติดเชื้อที่ผิวหนัง?
6.3 การแทรกแซงอื่น ๆ เพื่อป้องกันและจัดการติดเชื้อที่ผิวหนัง
นอกจากทรัพยากรที่ผู้ปกครองและผู้ดูแลผู้ป่วยจำเป็นต้อง ปกติง่ายต่อการเข้าถึงคำแนะนำด้านสุขภาพและความเชี่ยวชาญเพื่อสร้างความรู้ความรู้ด้านสุขภาพและทักษะที่จำเป็นในการป้องกันและจัดการการติดเชื้อที่ผิวหนัง นอกจากนี้ต้องปฏิบัติงานด้านสุขภาพในการสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพกับผู้ปกครองและผู้ดูแลผู้ป่วยในรูปแบบที่สร้างความเข้าใจและการอภิปราย ในหลักสูตรของพ่อแม่ของโครงการนี้และผู้ดูแลผู้ป่วยปฏิบัติงานด้านสุขภาพและกลุ่มอ้างอิงระบุการแทรกแซงที่เป็นไปได้ที่เกี่ยวข้องกับการลดลงของความสำเร็จในการติดเชื้อที่ผิวหนังอย่างรุนแรง แต่อยู่นอกโฟกัสความรู้สุขภาพของโครงการ เหล่านี้มีดังนี้
. โปรโมชั่นหรือการพัฒนาแนวทางทางคลินิกระดับชาติสำหรับสภาพผิวและโปรโตคอลที่จะสนับสนุนการใช้แนวทางทางคลินิกในการตั้งค่าการดูแลสุขภาพเบื้องต้น
ส่งเสริมการยืนคำสั่งเป็นกลไกสำหรับพยาบาลวิชาชีพปฏิบัติการในโรงเรียนและชุมชน การตั้งค่าในการจัดหายาสำหรับการติดเชื้อที่ผิวหนังเพื่อปรับปรุงการเข้าถึงการรักษาทันเวลา.
45
การให้เข้าถึงได้มากขึ้นการบริการระดับปฐมภูมิที่เหมาะสมรวมถึงการดูแลหลังเวลาเช่นความพร้อมใช้งานที่เพิ่มขึ้นของพยาบาลในชุมชน (พยาบาลนำคลินิก พยาบาลผู้ปฏิบัติงาน) และการดูแลสุขภาพเบื้องต้นฟรีสำหรับเด็กอายุไม่เกิน 18 ปี.
ส่งเสริมการขายช่วงของการบริการระดับปฐมภูมิที่มีอยู่ในแต่ละภูมิภาค DHB สำหรับผู้ปกครองผู้ดูแลและเด็ก (กระจายผ่านทางโรงเรียนและการดูแลสุขภาพเบื้องต้น).
 ปรับปรุงการตอบสนองทางวัฒนธรรมของกำลังคนด้านสุขภาพ.
การรับรู้ที่ดีขึ้นของธรรมชาติในระยะยาวของการติดเชื้อที่ผิวหนังหรือสภาพผิวและที่เกี่ยวข้อง (ดูแลหลัก) การวางแผนและการสนับสนุนที่จำเป็นสำหรับพ่อแม่และผู้ดูแลผู้ป่วยได้อย่างมีประสิทธิภาพในการจัดการสุขภาพผิว.
การจัดตั้งเป้าหมายแห่งชาติ สำหรับการลดอัตราการติดเชื้อที่ผิวหนังอย่างรุนแรงเช่นการติดเชื้อที่ผิวหนังลดลงครึ่งหนึ่งที่ร้ายแรงสำหรับเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี 2020
การตรวจสอบและการรายงานเป็นประจำกับเป้าหมายเหล่านี้ในระดับโพธิ์และ DHB (รวมถึงการมีส่วนร่วมที่ดีขึ้นของภาคการดูแลหลักในการรับผิดชอบต่อการลดการรักษาในโรงพยาบาล สำหรับการติดเชื้อผิวหนัง).
ส่งเสริมการมีส่วนร่วมในระดับภูมิภาคมากขึ้นสุขภาพของประชาชนในการดูแลสุขภาพผิวเช่นกิจกรรมของสุขภาพผิวมหานครเวลลิงตันกลุ่ม

Results (Thai) 3:

6.2 การวิจัยโครงการวิจัยในอนาคต
ปัจจุบันได้รวมบทความความรู้สุขภาพและการติดเชื้อผิวหนังเพื่อระบุอุปสรรคแก่ผู้ปกครองและผู้ดูแลเด็กติดเชื้อผิวหนังป้องกันและจัดการกับโอกาสสุขภาพความรู้ขับเคลื่อนมาตรการเพื่อปรับปรุงการป้องกันและการจัดการผู้ปกครองและผู้ดูแลที่มุ่งเน้นทรัพยากรพัฒนาเป็นที่ยอมรับของผู้ปกครองและผู้ดูแลผู้ป่วยและความคิดเห็นจากผู้ปฏิบัติงานด้านสุขภาพการใช้ทรัพยากรร่วมกับผู้ปกครองและผู้ดูแลการใช้งานทรัพยากรที่จะแก้ไขโดยโครงการคลินิกอ้างอิงกลุ่ม การยอมรับ และเผชิญความเป็นขั้นตอนแรกในการทดสอบทรัพยากรใหม่คำถามก็คือ หากพวกเขาจะยอมรับได้ และเป็นประโยชน์สำหรับผู้ปกครองและผู้ดูแล จะช่วยอำนวยความสะดวกในด้านสุขภาพ และนำไปสู่การป้องกันและการจัดการที่ดีของเชื้อผิวหนัง ?
6 อื่น ๆเพื่อป้องกันและจัดการปัญหาผิวอักเสบ
นอกจากทรัพยากร พ่อแม่ และผู้ดูแลต้องปกติง่ายต่อการเข้าถึงการแนะแนวสุขภาพและความเชี่ยวชาญในการสร้าง ความรู้ สุขภาพ ความรู้ และทักษะที่จำเป็นเพื่อป้องกันและจัดการกับการติดเชื้อผิวหนัง นอกจากนี้ นักสุขภาพต้องการที่จะสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพกับผู้ปกครองและผู้ดูแลในวิธีที่สร้างความเข้าใจ และการสนทนา ในหลักสูตรของโครงการนี้ พ่อแม่ และผู้ดูแลสุขภาพ ที่คณะกรรมการและกลุ่มอ้างอิงระบุว่าเป็นไปได้หรือที่เกี่ยวข้องกับการลดความสําเร็จของการติดเชื้อผิวหนังที่ร้ายแรงแต่ภายนอกการรู้สุขภาพมุ่งเน้นของโครงการ เหล่านี้มีดังนี้ :
ส่งเสริมหรือพัฒนาแนวทางทางคลินิกแห่งชาติเพื่อสภาพผิวและโปรโตคอลสนับสนุนการใช้แนวทางในการตั้งค่าทางคลินิกการดูแลสุขภาพเบื้องต้น
ส่งเสริมยืนสั่ง เป็นกลไกสำหรับพยาบาลวิชาชีพปฏิบัติการในการตั้งค่าโรงเรียน และชุมชน เพื่อจัดหายาสำหรับการติดเชื้อผิวหนังเพื่อปรับปรุงการเข้าถึงการรักษา  45

การเข้าถึงได้มากขึ้นและราคาไม่แพงบริการปฐมภูมิ รวมทั้งการดูแลหลังชั่วโมง เช่น การเพิ่มความพร้อมของพยาบาลในชุมชน LED ( พยาบาลคลินิกพยาบาลเวชปฏิบัติ ) และการดูแลสุขภาพระดับปฐมภูมิฟรี เด็ก ถึง อายุ 18 ปี
โปรโมชั่นของช่วงของการบริการปฐมภูมิที่มีอยู่ในแต่ละภูมิภาค dhb สำหรับพ่อแม่และผู้ดูแลเด็ก ( เผยแพร่ผ่านทางโรงเรียนและหลักการปฏิบัติดูแลสุขภาพ ) .
ปรับปรุงการตอบสนองทางวัฒนธรรมของบุคลากรสุขภาพ .
ดีกว่าการรับรู้ธรรมชาติระยะยาวของโรคผิวหนังติดเชื้อหรือโรคผิวหนังและที่เกี่ยวข้อง ( ปฐมภูมิ ) การวางแผนและการสนับสนุนที่จำเป็นสำหรับผู้ปกครองและผู้ดูแลจัดการสุขภาพผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ .
จัดตั้งเป้าหมายแห่งชาติ เพื่อลดอัตราการติดเชื้อผิวหนังที่ร้ายแรง เช่น แบ่งผิวการติดเชื้อร้ายแรงสำหรับเด็กอายุ 18
โดย 2020 .ปกติการตรวจสอบและการรายงานในเป้าหมายเหล่านี้ที่โพธิ์ และ dhb ระดับ ( รวมทั้งการมีส่วนร่วมที่ดีขึ้นของภาคปฐมภูมิในความรับผิดชอบเพื่อลดการเข้ารับการรักษาสำหรับการติดเชื้อผิวหนัง ) .
ส่งเสริมสาธารณสุขภูมิภาคมากขึ้นมีส่วนร่วมในสุขภาพผิว เช่น กิจกรรมของผิวสุขภาพดีมากกว่ากลุ่มเวลลิงตัน