Developing and maintaining interper

Developing and maintaining interpersonal relationships represent
a central goal in the lives of most people. A recent large-scale
study by Mar, Mason, and Litvack (2012) indicated that 73.2% of
the 17,000+ people surveyed reported that ‘other people’ dominate
their thoughts when their minds are free to wander. Likely because
of the vital importance that others play in our mental lives, both
our emotional and physical well-being are jeopardized when we experience
threats to optimal levels of social acceptance. Indeed, individuals
who experience social rejection or exclusion suffer from a variety of
cognitive, affective, and somatic ill-effects (Baumeister, DeWall,
Ciarocco, & Twenge, 2005; Pickett, Gardner, & Knowles, 2004; Zadro,
Williams, & Richardson, 2005).
Despite the importance of close relationships and the social interaction
they provide, instances of social exclusion, or ostracism, are common.
Recent research has established the profoundly negative
emotional impact of ostracism on its targets (Eisenberger, Lieberman,
& Williams, 2003; Williams, 2007; Baumeister & Leary, 1995), as well
as on its sources (Ciarocco, Sommer, & Baumeister, 2001; Legate,
DeHaan, Weinstein, & Ryan, 2013; Poulson & Kashy, 2011; see Zadro &
Gonsalkorale, 2014 for a review). Less understood are the cognitive implications
of exclusion and, in particular, its impact on how interpersonal
relationships are experienced and perceived. How do acts of social
exclusion affect our perceptions of our own and other relationships?
Initial insight into this question derives from research by Wyer
(2008) suggesting that social exclusion is a cue to the quality of others'
social relationships. In that research, participants observed relationships
which did or did not actively exclude others. Perceiving social exclusion
had a number of consequences. First, two individuals who excluded
others were judged to be closer and more similar to each other. Second,
using a memory confusion paradigm, Wyer (2008) established that
mental representations of relationship partners who engaged in exclusion
were assimilated in memory (i.e., perceivers processed information
about them in a similar way), whilst they were contrasted
from the individuals who they had excluded (i.e., perceivers processed
information about them in ways that differentiated them to a

Results (Thai) 1:

พัฒนา และรักษาความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลเป็นตัวแทนเป้าหมายศูนย์กลางในชีวิตของคนส่วนใหญ่ การล่าขนาดใหญ่ศึกษา โดยมาร์ เมสัน และ Litvack (2012) ระบุว่า 73.2%17,000 + คนสำรวจรายงานว่า 'คนอื่น' ครองความคิดเมื่อใจมีอิสระในการเดิน อาจเนื่องจากความสำคัญที่คนอื่นเล่นเป็นชีวิตจิตใจ ทั้งสองของเราทางอารมณ์ และทางกายภาพความเป็นเป็นอันตรายเมื่อเราพบภัยคุกคามระดับสูงสุดของการยอมรับทางสังคม แน่นอน บุคคลที่พบการปฏิเสธสังคม หรือแยกทุกข์ทรมานจากความหลากหลายขององค์ความรู้ อารมณ์ และกายป่วยผล (Baumeister, DeWallCiarocco, & Twenge, 2005 Pickett การ์ดเนอร์ และ โนวส์ 2004 Zadroวิลเลียมส์ และริชาร์ดสัน 2005)แม้ความสำคัญของความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดและปฏิสัมพันธ์ทางสังคมพวกเขาให้ ยกเว้นสังคม หรือ ostracism มีทั่วไปงานวิจัยล่าสุดได้ก่อตั้งเป็นค่าลบอย่างลึกซึ้งผลกระทบทางอารมณ์ของ ostracism บนเป้าหมาย (Eisenberger ลีและวิลเลียมส์ 2003 วิลเลียมส์ 2007 Baumeister & Leary, 1995), เช่นเป็นแหล่งของมัน (Ciarocco, Sommer, & Baumeister, 2001 LegateDeHaan ไวสไตน์ และ ไรอัน 2013 Poulson & Kashy, 2011 ดู Zadro และGonsalkorale, 2014 สำหรับรีวิว) เข้าใจน้อยมีผลกระทบความรู้ความเข้าใจของการยกเว้น และ โดยเฉพาะ อย่างยิ่ง ผลกระทบต่อวิธีมนุษยสัมพันธ์ความสัมพันธ์มีประสบการณ์ และรับรู้ วิธีการทำหน้าที่ของสังคมยกเว้นมีผลต่อการรับรู้ของเราของเราเองและความสัมพันธ์อื่น ๆเริ่มต้นเข้าใจในคำถามนี้มาจากงานวิจัยไวเออร์(2008) บอกว่า ยกเว้นสังคมจะให้คุณภาพของของผู้อื่นความสัมพันธ์ทางสังคม ในที่วิจัย ผู้เรียนสังเกตความสัมพันธ์ซึ่งได้ หรือไม่ได้ขันยกเว้นอื่น ๆ ยกเว้นสังคมเข้าใจมีจำนวนของผลกระทบ ครั้งแรก บุคคลที่สองที่ถูกแยกออกคนที่ถูกตัดสินว่าจะคล้าย ๆ กันมากขึ้น และใกล้ชิด วินาทีใช้หน่วยความจำสับสนกระบวนทัศน์ ไวเออร์ (2008) ก่อตั้งขึ้นที่แทนจิตใจของคู่ค้าความสัมพันธ์ที่มีส่วนร่วมในการยกเว้นได้หลอมรวมในหน่วยความจำ (เช่น perceivers การประมวลผลข้อมูลเกี่ยวกับพวกเขาในทำนอง), ในขณะที่พวกเขาถูกเปรียบเทียบจากบุคคลที่พวกเขาได้ถูกแยกออก (เช่น perceivers ประมวลผลข้อมูลเกี่ยวกับพวกเขาในวิธีที่แตกต่างเพื่อการ

Results (Thai) 2:

การพัฒนาและรักษาความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลแทน
เป็นเป้าหมายหลักในชีวิตของคนส่วนใหญ่ ขนาดใหญ่ที่ผ่านมา
การศึกษาโดย มี.ค. เมสันและ Litvack (2012) ชี้ให้เห็นว่า 73.2% ของ
17,000+ คนสำรวจรายงานว่า 'คนอื่น' ครอง
ความคิดของพวกเขาเมื่อจิตใจของพวกเขามีอิสระที่จะเดิน อาจเป็นเพราะ
ความสำคัญสำคัญที่คนอื่นเล่นในชีวิตจิตของเราทั้งสอง
ของเราทางอารมณ์และร่างกายเป็นอยู่ที่ดีจะ jeopardized เมื่อเราได้สัมผัสกับ
ภัยคุกคามให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมของการยอมรับทางสังคม อันที่จริงบุคคล
ที่มีประสบการณ์การปฏิเสธทางสังคมหรือการยกเว้นต้องทนทุกข์ทรมานจากความหลากหลายของ
ความรู้ความเข้าใจอารมณ์และร่างกายผลร้าย (Baumeister, DeWall,
Ciarocco และ Twenge 2005; พิกเกตการ์ดเนอร์และโน, 2004; Zadro,
วิลเลียมส์และริชาร์ด 2005).
แม้จะมีความสำคัญของความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดและการปฏิสัมพันธ์ทางสังคม
พวกเขาให้กรณีของการกีดกันทางสังคมหรือการคว่ำบาตรอยู่ร่วมกัน.
การวิจัยล่าสุดได้มีการจัดตั้งในเชิงลบอย่างสุดซึ้ง
ผลกระทบทางอารมณ์ของการคว่ำบาตรกับเป้าหมายของมัน (Eisenberger, ลีเบอร์แมน
และวิลเลียมส์ 2003 วิลเลียมส์ 2007 Baumeister และแลร์รี่ส์ 1995) เช่นเดียว
กับในแหล่งที่มา (Ciarocco, ซอมเมอร์, และ Baumeister 2001; ผู้แทน,
DeHaan เวนสไตน์และไรอัน, 2013; Poulson & Kashy 2011 ดู Zadro &
Gonsalkorale 2014 สำหรับความคิดเห็น) ไม่เข้าใจคือความหมายองค์ความรู้
ของการยกเว้นและโดยเฉพาะอย่างยิ่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลวิธีการ
ความสัมพันธ์ที่มีประสบการณ์และการรับรู้ ทำอย่างไรการกระทำของสังคม
ยกเว้นส่งผลกระทบต่อการรับรู้ของความสัมพันธ์ของเราเองและอื่น ๆ ของเรา?
ความเข้าใจครั้งแรกในคำถามนี้เกิดขึ้นจากการวิจัยโดย Wyer
(2008) ชี้ให้เห็นว่าการกีดกันทางสังคมเป็นคิวถึงคุณภาพของผู้อื่นเป็น
ความสัมพันธ์ทางสังคม ในการวิจัยที่เข้าร่วมสังเกตเห็นความสัมพันธ์
ที่ทำหรือไม่ได้อย่างแข็งขันไม่รวมคนอื่น ๆ การรับรู้การกีดกันทางสังคม
มีจำนวนของผลกระทบ ครั้งแรกที่สองบุคคลที่ได้รับการยกเว้น
คนอื่น ๆ ได้รับการตัดสินที่จะใกล้ชิดและที่คล้ายกันมากขึ้นกับแต่ละอื่น ๆ ประการที่สอง
การใช้กระบวนทัศน์หน่วยความจำสับสน Wyer (2008) ที่จัดตั้งขึ้นที่
จิตของคู่ค้าของความสัมพันธ์ที่มีส่วนร่วมในการยกเว้น
ถูกหลอมรวมในหน่วยความจำ (เช่น Perceivers ข้อมูลการประมวลผล
เกี่ยวกับพวกเขาในลักษณะที่คล้ายกัน) ขณะที่พวกเขาได้รับการเปรียบเทียบ
จากบุคคลที่พวกเขา ได้รับการยกเว้น (เช่น Perceivers การประมวลผล
ข้อมูลเกี่ยวกับพวกเขาในรูปแบบที่แตกต่างกันไปยัง

Results (Thai) 3:

พัฒนาและรักษาความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลแทนเป้าหมายหลักในชีวิตของคนส่วนใหญ่ ล่าสุด ขนาดใหญ่การศึกษาโดยมาร์ เมสัน และลิทแวค ( 2012 ) พบว่า ความสามารถของ17 , 000 + คนหนึ่งรายงานว่า " คนอื่น " ครองความคิดของตน เมื่อจิตใจของพวกเขามีอิสระที่จะเดิน . น่าจะเพราะความสําคัญของที่คนอื่นเล่นในชีวิตของเรา จิต ทั้งของเราอารมณ์และอยู่ดีกินดีจะเป็นอันตรายเมื่อเรามีประสบการณ์ภัยคุกคามระดับที่ดีที่สุดของการยอมรับของสังคม แน่นอน บุคคลใครมีประสบการณ์การปฏิเสธสังคมหรือการยกเว้นประสบจากหลากหลายพิสัย และผลป่วยทางกาย ( เบาไมสเตอร์ dewall , ,ciarocco และ ทเวนจ์ , 2005 ; พิคเก็ต การ์ดเนอร์ และ โนวส์ , 2004 ; zadro , ,วิลเลียมส์ & ริชาร์ดสัน , 2005 )แม้ความสำคัญของความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิด และปฏิสัมพันธ์ทางสังคมพวกเขาให้ กรณีการยกเว้นทางสังคม หรือการขับไล่ , ทั่วไปการวิจัยล่าสุดได้จัดตั้งซึ้งลบผลกระทบทางอารมณ์ของการขับไล่ในเป้าหมายของมัน ( eisenberger ลีเบอร์แมน , ,& วิลเลียมส์ , 2003 ; วิลเลียมส์ , 2007 ; เบาไมสเตอร์ & Leary , 1995 ) ได้เป็นอย่างดีเป็นแหล่งของ ( ciarocco ซอมเมอร์ และเบาไมสเตอร์ , 2001 ; เมื่อ , ,ไวน์สไตน์ และ เดอ น , ไรอัน , 2013 ; เพาล์สัน & kashy 2011 zadro & ; เห็นgonsalkorale 2014 สำหรับรีวิว ) เข้าใจน้อยจะมีผลกระทบทางปัญญาในการยกเว้นและโดยเฉพาะผลกระทบต่อวิธีการบุคคลความสัมพันธ์ที่มีประสบการณ์ และรับรู้ การกระทำของสังคมอย่างไรไม่มีผลต่อการรับรู้ของเราของเราเองและความสัมพันธ์อื่น ๆความเข้าใจเบื้องต้นในคำถามนี้ได้มาจากการวิจัยโดยไวเออร์( 2008 ) ชี้ให้เห็นว่าสังคมเป็นคิวคุณภาพของผู้อื่นความสัมพันธ์ทางสังคม ในการวิจัยที่ผู้สังเกตความสัมพันธ์ซึ่งทำหรือทำไม่กระตือรือร้นไม่รวมคนอื่น ๆ การสังคมมีจำนวนของผลกระทบ ก่อนสองบุคคลที่แยกออกคนอื่นตัดสินให้ใกล้ชิดมากขึ้นคล้ายกับแต่ละอื่น ๆ ประการที่สองใช้ความจำสับสน กระบวนทัศน์ ไวเออร์ ( 2008 ) ก่อตั้งขึ้นที่สุขภาพจิตเป็นตัวแทนความสัมพันธ์ของคู่ค้าที่ร่วมในการยกเว้นมีขนบธรรมเนียมประเพณีในความทรงจำ ( เช่น perceivers การประมวลผลข้อมูลเกี่ยวกับพวกเขาในทางที่คล้ายกัน ) , ขณะที่พวกเขาเทียบจากบุคคลที่พวกเขาได้รับการยกเว้น เช่น perceivers ประมวลผลข้อมูลเกี่ยวกับพวกเขาในวิธีที่แตกต่างไป