What's the difference between publi

What's the difference between publicly- and privately-held companies?
Privately-held companies are - no surprise here - privately held. This means that, in most cases, the company is owned by the company's founders, management or a group of private investors. A public company, on the other hand, is a company that has sold a portion of itself to the public via an initial public offering of some of its stock, meaning shareholders have claim to part of the company's assets and profits.

One of the biggest differences between the two types of companies deals with public disclosure. If it's a public U.S. company, which means it is trading on a U.S. stock exchange, it is typically required to file quarterly earnings reports (among other things) with the Securities and Exchange Commission (SEC). This information is also made available to shareholders and the public. Private companies, however, are not required to disclose their financial information to anyone since they do not trade stock on a stock exchange.

The main advantage public companies have is their ability to tap the financial markets by selling stock (equity) or bonds (debt) to raise capital (i.e. cash) for expansion and projects. The main advantage to private companies is that management doesn't have to answer to stockholders and isn't required to file disclosure statements with the SEC. However, a private company can't dip into the public capital markets and must therefore turn to private funding, which can boost the cost of capital and may limit expansion. It has been said often that private companies seek to minimize the tax bite, while public companies seek to increase profits for shareholders.

Results (Thai) 1:

สิ่งที่แตกต่างระหว่าง บริษัท ต่อสาธารณชนและเอกชน
บริษัท เอกชนที่เป็น - ไม่แปลกใจที่นี่ - เอกชน ซึ่งหมายความว่าในกรณีส่วนใหญ่ของ บริษัท เป็นเจ้าของโดยผู้ก่อตั้งของ บริษัท จัดการหรือกลุ่มของนักลงทุนเอกชน เป็น บริษัท มหาชนในมืออื่น ๆ ,เป็น บริษัท ที่มียอดขายเป็นส่วนหนึ่งของตัวเองให้ประชาชนผ่านการเสนอขายต่อประชาชนทั่วไปของบางส่วนของหุ้นของ บริษัท ที่มีความหมายของผู้ถือหุ้นมีการเรียกร้องที่จะเป็นส่วนหนึ่งของสินทรัพย์ของ บริษัท และผลกำไร.

หนึ่งในความแตกต่างที่ใหญ่ที่สุดระหว่างทั้งสองประเภทของ บริษัท ข้อเสนอที่มีการเปิดเผย หากเป็นประชาชนสหรัฐอเมริกา บริษัท ซึ่งหมายความว่าจะมีการซื้อขายในสหรัฐอเมริกา ตลาดหลักทรัพย์มันเป็นสิ่งจำเป็นที่จะต้องยื่นรายงานผลประกอบการรายไตรมาส (ในหมู่สิ่งอื่น ๆ ) ด้วยหลักทรัพย์และคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต. ) ข้อมูลนี้จะทำยังสามารถใช้ได้กับผู้ถือหุ้นและประชาชน บริษัท เอกชน แต่ไม่จำเป็นต้องเปิดเผยข้อมูลทางการเงินของพวกเขากับทุกคนตั้งแต่พวกเขาไม่ได้ซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์.

ประโยชน์หลัก บริษัท มหาชนมีคือความสามารถในการแตะที่ตลาดการเงินโดยการขายหุ้น (หุ้น) หรือพันธบัตร (หนี้) เพื่อระดมเงินทุน (เช่นเงินสด) สำหรับการขยายตัวและโครงการ ประโยชน์หลักให้กับ บริษัท เอกชนที่เป็นผู้บริหารไม่จำเป็นต้องตอบให้ผู้ถือหุ้นและไม่จำเป็นต้องยื่นงบการเปิดเผยข้อมูลด้วยวินาที อย่างไรก็ตามเป็น บริษัท เอกชนที่ไม่สามารถจุ่มลงในตลาดทุนของประชาชนและดังนั้นจึงต้องหันไประดมทุนของภาคเอกชนที่สามารถเพิ่มค่าใช้จ่ายของเงินทุนและอาจ จำกัด การขยายตัว มันได้รับการกล่าวบ่อยครั้งที่ บริษัท เอกชนพยายามที่จะลดการกัดภาษีในขณะที่ บริษัท ของประชาชนพยายามที่จะเพิ่มผลกำไรสำหรับผู้ถือหุ้น.

Results (Thai) 2:

อะไรคือข้อแตกต่างระหว่างบริษัทสาธารณะเอกชนขึ้น?
เอกชนจัดบริษัทมี -ไม่แปลกใจที่นี่ - เอกชนจัดขึ้น นี้หมายความ ว่า ส่วนใหญ่ เป็นของบริษัท โดยผู้ก่อตั้งของบริษัท บริหารหรือกลุ่มนักลงทุนส่วนตัว มหาชน คง เป็นบริษัทที่มีขายส่วนของตัวเองสู่สาธารณะผ่านการเสนอการขายของผู้ถือหุ้น ความหมายหุ้น ได้เรียกร้องให้บริษัทสินทรัพย์และกำไร

แตกชนิดสองของบริษัทที่ใหญ่ที่สุดอย่างใดอย่างหนึ่งเกี่ยวข้องกับการเปิดเผยข้อมูลสาธารณะ ถ้าเป็นบริษัทของสหรัฐสาธารณะ ซึ่งหมายความว่า มันคือการซื้อขายในอัตราแลกเปลี่ยนหุ้นสหรัฐอเมริกา โดยทั่วไปต้องรายงานกำไรไตรมาสที่แฟ้ม (ระหว่างสิ่งอื่น ๆ) มีทรัพย์และทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้ ข้อมูลนี้ยังจะมีผู้ถือหุ้นและสาธารณชน บริษัทเอกชน อย่างไรก็ตาม ไม่จำเป็นต้องเปิดเผยข้อมูลทางการเงินให้กับทุกคนเนื่องจากพวกเขาไม่ค้าหุ้นในทรัพย์

ประโยชน์หลักที่บริษัทมีความสามารถในการตลาดการเงิน โดยการขายหุ้น (หุ้น) หรือพันธบัตร (หนี้) เพื่อระดมทุน (เช่นเงิน) สำหรับโครงการและขยายตัวได้ บริษัทเอกชนประโยชน์หลักคือ การจัดการไม่ต้องตอบ stockholders และไม่ต้องรายงานเปิดเผยแฟ้มกับวินาที อย่างไรก็ตาม บริษัทเอกชนไม่สามารถจุ่มลงในตลาดสาธารณะ และต้องดังจะส่วนตัว ทุน ซึ่งสามารถเพิ่มต้นทุนของเงินทุน และอาจจำกัดการขยายตัว มันได้พูดบ่อยว่า บริษัทเอกชนพยายามลดภาษีกัด ขณะที่พยายามเพิ่มกำไรผู้ถือหุ้นบริษัท

Results (Thai) 3:

อะไรคือความแตกต่างระหว่างบริษัททั่วไปและในแบบส่วนตัว - จัดขึ้นหรือไม่?บริษัท
ในแบบส่วนตัว - รับ - ไม่ใช่เรื่องน่าประหลาดใจที่นี่ - เอกชน ซึ่งหมายความว่าในกรณีของบริษัทมากที่สุดที่จะเป็นเจ้าของโดยผู้ก่อตั้งของบริษัทการจัดการหรือกลุ่มของผู้ลงทุนส่วนตัว บริษัทที่อยู่ในมืออีกข้างหนึ่งให้เป็นบริษัทที่มียอดจำหน่ายที่บางส่วนของตัวมันเองในการที่ประชาชนผ่านทางที่เริ่มต้นสาธารณะจัดให้บริการในบางส่วนของตลาดหลักทรัพย์ฯซึ่งหมายถึงผู้ถือหุ้นมีสิทธิเรียกร้องในการเป็นส่วนหนึ่งของที่บริษัทสินทรัพย์ของบริษัทมีกำไรและ.

หนึ่งของที่มีขนาดใหญ่ที่สุดความแตกต่างระหว่างที่ทั้งสอง ประเภท ของบริษัทข้อตกลงที่มีการเปิดเผยต่อสาธารณะ. หากเป็นบริษัทของสหรัฐอเมริกาสาธารณะซึ่งหมายความว่าเป็นการซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐอเมริกาซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นในการรายงานรายได้ประจำไตรมาส(อยู่ท่ามกลางสิ่งอื่นๆ)พร้อมด้วยคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.)โดยปกติ ข้อมูลนี้มีให้ผู้ถือหุ้นและประชาชนประกอบด้วย บริษัทส่วนตัวแต่ไม่จำเป็นต้องเปิดเผยข้อมูลทางการเงินของใครเพราะมันไม่ได้การค้าหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ที่.

ประโยชน์หลักที่บริษัทสาธารณะมีความสามารถในการแตะตลาดการเงินโดยการขายหุ้น(ส่วนของผู้ถือหุ้น)ออกพันธบัตรหรือ(หนี้)เพื่อระดมเงินทุน(เช่นเงิน)สำหรับโครงการและการขยายตัว ประโยชน์หลักเพื่อไปยังบริษัทส่วนตัวอยู่ที่การบริหารจัดการไม่จำเป็นต้องมีการตอบคำถามในการถือหุ้นเวนเดอร์และไม่จำเป็นต้องไปที่ไฟล์การเปิดเผยงบกับวินาทีอย่างไรก็ตามบริษัทส่วนตัวไม่สามารถแช่ตัวลงในตลาดทุนสาธารณะและจะต้องหมุนเงินทุนแบบส่วนตัวซึ่งสามารถเพิ่มค่าใช้จ่ายของเงินทุนและอาจจำกัดการขยายตัวดังนั้น ได้รับการกล่าวว่าบริษัทส่วนตัวมักหาวิธีลดการกัด ภาษี ที่ในขณะที่บริษัทสาธารณะหาเพื่อเพิ่มกำไรให้ผู้ถือหุ้น.