I can remember the first time I got

I can remember the first time I got lost in a BOOK. I was in first grade, sitting in the library with the rest of my class, and the teacher was calling my name as the class was over. I never heard her. I was so enthralled with reading that the rest of the class was out the door and the teacher had to come over to me and tap me on the shoulder. That is the power of reading. From that moment on, I knew I had found something special. I thought that reading was the ticket to go places, experience things, and immerse myself so completely all with the power of a good book. I have never found a valid replacement for reading.

Movies have their place, and there is nothing like a good movie. But realize that it is anothers’ view. Not yours. You don’t really have the power to daydream with a movie. It happens too fast on anothers’ time table. All those images speeding by and your brain trying to make sense of the images. With reading, you can stop and ponder. You can go back and reread a passage. You can build your own fantasy out of the raw material in the book. There is no substitute for reading.

I take BOOKS with me when I know I will be waiting a fair amount of time. For instance, when I go to the doctor’s office. The waiting time is usually long, and I like to fill the time with a good book. I don’t even notice the wait, and sometimes don’t even like to get interrupted! Yes, books take the boring parts out of life. How about a plane trip? When you can immerse yourself in a book, then nod off, and wake up in a different city is a real pleasure. I honestly don’t know what I’d do without reading.

Has reading become a lost art? I went to the library the other day and saw what kids were checking out. The ratio leaned more towards videos than BOOKS. Something like eighty percent. I got quite depressed. These kids need to read more, not watch more. Are we going to lose a generation of creativity? By looking at the checkout line I can see it happening. This is the parents fault, not the kids. Parents need to enforce the importance of reading, not watching movies. The ratio needs to reverse itself.


Reading can bridge the gap between the known and the unknown. Want to experience what it is like to row across the ocean? Read. Get into the BOOK so you can smell the saltwater. Know what it’s like to capsize in a storm. Taste the ocean, collapse from exhaustion, placate those sore arms and boil-encrusted rear end. That is reading. To cry with the author because you miss your family. You might not get there alive! You might end up in Davy Jones’s Locker! Talk about being petrified. Like the great movie director Alfred Hitchcock said, “Fear is all in the mind”. It is not required to shove blood and guts down someones throat, it is more scary when your mind creates it’s own fear. That is the power of reading.

Yes, books are the seed of creativity. Movies can be the result. And reading is the ticket to get there.

Results (Thai) 1:

ผมสามารถจำได้ว่า ครั้งแรกที่ฉันได้หายไปในหนังสือ ผมอยู่ในชั้นแรก นั่งในไลบรารีโดยการเรียนของฉัน และครูเรียกชื่อของฉันเป็นชั้นมากกว่า ผมไม่เคยได้ยินเธอ ผมให้ enthralled อ่านที่ส่วนเหลือของชั้นเรียนถูกออกจากประตู และครูต้องมาให้ฉัน และฉันเคาะบนไหล่ นั่นคือพลังของการอ่าน จากนั้นช่วงบน ฉันรู้ว่า ฉันได้พบบางสิ่งบางอย่างที่พิเศษ คิดว่า อ่านได้ตั๋วไปเฮง ประสบการณ์สิ่ง และแห่งตัวเองให้สมบูรณ์ทั้งหมด ด้วยพลังของหนังสือดี ไม่เคยได้พบทดแทนที่ถูกต้องสำหรับอ่าน

ภาพยนตร์ได้ และไม่มีอะไรที่เหมือนภาพยนตร์ที่ดี แต่รู้ว่า มันเป็นมุมมองของ anothers ไม่คน คุณไม่ได้จริง ๆ อำนาจเดย์ดรีมกับภาพยนตร์ มันเกิดขึ้นเร็วเกินไปบนตารางเวลาของ anothers ภาพที่ฉูดและสมองของคุณพยายามที่จะทำให้ความรู้สึกของภาพ อ่าน คุณสามารถหยุด และไตร่ตรอง คุณสามารถกลับไป และอ่านข้อพระคัมภีร์ คุณสามารถสร้างจินตนาการของคุณเองจากวัตถุดิบในสมุด มีอ่านแทนไม่

ผมใช้หนังสือกับฉันเมื่อฉันรู้ว่า ฉันจะรอเวลาที่สมควร เช่น เมื่อไปสำนักงานแพทย์ เวลาในการรอยาวปกติ และชอบเต็มเวลาที่ มีหนังสือดี ผมไม่ได้สังเกตเห็นการรอ และบางครั้งไม่ได้อยากได้จังหวะ ใช่ หนังสือใช้ชิ้นส่วนจากชีวิตน่าเบื่อ วิธีการเกี่ยวกับเครื่องบินเดินทางหรือไม่ เมื่อคุณสามารถดื่มด่ำกับหนังสือ พยักหน้าแล้ว ปิด และปลุกในเมืองแตกต่างกันเป็นความสุขที่แท้จริง สุจริตอย่างทราบว่าผมจะทำโดยไม่อ่าน

ได้อ่านเป็น ศิลปะสูญหาย ไปรีวันอื่น และเห็นสิ่งที่เด็กได้ตรวจสอบ อัตราส่วนขึ้นเองต่อวิดีโอกว่าหนังสือ สิ่งที่ชอบร้อยละ 80 ผมค่อนข้างต่ำ เด็กเหล่านี้จำเป็นต้องอ่าน ไม่ดูเพิ่มเติม เราจะสูญเสียการสร้างสรรค์ โดยดูที่บรรทัดเช็คเอาท์ สามารถเห็นมันเกิดขึ้น ข้อบกพร่องผู้ปกครอง เด็กไม่อยู่ ผู้ปกครองจำเป็นต้องบังคับใช้ความสำคัญของการอ่าน ดูภาพยนตร์ไม่ อัตราส่วนต้องย้อนตัวเองด้วย


อ่านสามารถเชื่อมต่อช่องว่างระหว่างรู้จักและไม่รู้จักได้ ต้องการนั้นคืออะไรเช่นพายข้ามมหาสมุทร อ่าน ได้รับลงในหนังสือเพื่อให้คุณสามารถกลิ่นในน้ำเค็ม รู้ว่ามันคืออะไรเช่นล่มในพายุ ลิ้มรสทะเล ยุบจากเกษียณ placate ที่แขนเจ็บและหุ้มห่อต้มท้าย ที่กำลังอ่าน น้ำตากับผู้เขียน เพราะคุณคิดถึงครอบครัวของคุณ คุณอาจไม่ได้มีชีวิตอยู่ คุณอาจลงเอยใน Locker Davy Jones ของ พูดคุยเกี่ยวกับการกลายเป็นหิน เช่นผู้กำกับภาพยนตร์ยอดเยี่ยมที่ อัลเฟรดฮิตช์ค็อกกล่าว "ความกลัวอยู่ในใจ" ไม่ได้ต้องผลักเลือดและกล้าลงคอ someones จะน่ากลัวมากเมื่อจิตสร้างความกลัวนั้นเอง นั่นคือพลังงานของอ่าน

ใช่ หนังสือที่มีเมล็ดพันธุ์ของความคิดสร้างสรรค์ ภาพยนตร์อาจเป็นผล และอ่านเป็นบัตรเดินทาง

Results (Thai) 2:

ผมจำได้ครั้งแรกที่ฉันได้หายไปในหนังสือ ผมอยู่ในชั้นแรกนั่งอยู่ในห้องสมุดกับส่วนที่เหลือของชั้นเรียนของฉันและครูได้รับการเรียกชื่อของฉันเป็นชั้นถูกกว่า ผมไม่เคยได้ยินเธอ ผมก็หลงระเริงกับการอ่านว่าส่วนที่เหลือของชั้นก็ออกประตูและครูจะต้องมาให้ฉันและฉันแตะบนไหล่ นั่นคือพลังของการอ่าน จากช่วงเวลาที่ว่าผมรู้ว่าผมได้พบสิ่งที่พิเศษ ผมคิดว่าการอ่านเป็นตั๋วที่จะไปสถานที่สิ่งของประสบการณ์และแช่ตัวเองเพื่อให้สมบูรณ์ด้วยพลังของหนังสือที่ดี ฉันไม่เคยพบว่ามีการเปลี่ยนที่ถูกต้องสำหรับการอ่านหนังมีสถานที่ของพวกเขาและไม่มีอะไรที่เหมือนเป็นหนังที่ดี แต่เห็นว่ามันเป็นมุมมอง anothers ' ไม่ใช่ของคุณ คุณไม่ได้จริงๆมีอำนาจที่จะคิดฝันกับภาพยนตร์ มันเกิดขึ้นเร็วเกินไปในตารางเวลา anothers ' ภาพที่ทุกคนเร่งโดยสมองของคุณและพยายามที่จะทำให้ความรู้สึกของภาพ กับการอ่านคุณสามารถหยุดและไตร่ตรอง คุณสามารถกลับไปและ reread ทาง คุณสามารถสร้างจินตนาการของคุณเองจากวัตถุดิบในหนังสือเล่มนี้ มีแทนสำหรับการอ่านไม่ผมใช้หนังสือกับฉันเมื่อฉันรู้ว่าฉันจะรอเป็นจำนวนเงินที่ยุติธรรมของเวลา ยกตัวอย่างเช่นเมื่อฉันไปที่สำนักงานแพทย์ เวลาที่รอคอยมักจะยาวและผมชอบที่จะเติมเวลากับหนังสือดีๆสักเล่ม ฉันไม่ได้แจ้งให้ทราบการรอคอยและบางครั้งก็ไม่ได้ชอบที่จะได้รับการขัดจังหวะ! ใช่หนังสือที่ใช้ชิ้นส่วนที่น่าเบื่อออกไปจากชีวิต วิธีการเกี่ยวกับการเดินทางของเครื่องบินได้หรือไม่ เมื่อคุณสามารถดื่มด่ำในหนังสือแล้วพยักหน้าออกไปและตื่นขึ้นมาในเมืองที่แตกต่างกันคือความสุขที่แท้จริง ผมไม่ทราบว่าผมจะทำได้โดยไม่ต้องอ่านได้อ่านกลายเป็นศิลปะที่หายไป? ผมไปห้องสมุดวันอื่น ๆ และเห็นสิ่งที่เด็กได้รับการตรวจสอบจาก อัตราการโน้มตัวขึ้นไปทางวิดีโอกว่าหนังสือ สิ่งที่ต้องการร้อยละแปดสิบ ผมมีความสุขมาก เด็กเหล่านี้จะต้องอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ดูเพิ่มเติม เราจะสูญเสียรุ่นของความคิดสร้างสรรค์หรือไม่ โดยดูที่สายการชำระเงินที่ฉันสามารถเห็นมันเกิดขึ้น นี้เป็นความผิดของพ่อแม่เด็กไม่ได้ พ่อแม่ต้องบังคับความสำคัญของการอ่านที่ไม่ได้ชมภาพยนตร์ อัตราส่วนความต้องการที่จะกลับตัวเองอ่านสามารถลดช่องว่างระหว่างรู้จักและไม่รู้จัก ต้องการที่จะสัมผัสกับสิ่งที่มันเป็นเหมือนพายข้ามมหาสมุทร? อ่าน ได้รับเป็นหนังสือเพื่อให้คุณสามารถได้กลิ่นน้ำเค็ม รู้ว่าสิ่งที่มันต้องการที่จะพลิกคว่ำในพายุ ลิ้มรสมหาสมุทรยุบจากความอ่อนเพลียปิดปากแขนเจ็บเหล่านั้นและต้มที่หุ้มห่อปลายด้านหลัง นั่นคือการอ่าน ร้องไห้กับผู้เขียนเพราะคุณคิดถึงครอบครัวของคุณ คุณอาจไม่ได้รับยังมีชีวิตอยู่ที่นั่น! คุณอาจจะจบลงใน Locker เดวี่โจนส์! พูดคุยเกี่ยวกับการกลายเป็นหิน เช่นเดียวกับผู้กำกับภาพยนตร์ที่ดีอัลเฟรดฮิตช์ค็อกกล่าวว่า "ความกลัวเป็นสิ่งที่อยู่ในใจ" มันไม่จำเป็นต้องซุกในเลือดและความกล้าลงไปในคอ someones มันเป็นที่น่ากลัวมากขึ้นเมื่อความคิดของคุณมันสร้างความกลัวของตัวเอง นั่นคือพลังของการอ่านมีหนังสือเป็นเมล็ดพันธุ์ของความคิดสร้างสรรค์ ภาพยนตร์สามารถจะเป็นผล และการอ่านเป็นตั๋วที่จะได้รับมี

Results (Thai) 3:

ฉันจำได้ครั้งแรกที่ฉันได้สูญเสียไปในหนังสือ ผมอยู่เกรด นั่งอยู่ในห้องสมุดกับส่วนที่เหลือของชั้นเรียน คุณครูเรียกชื่อของฉันเลิกเรียน ฉันไม่เคยได้ยินเธอ ผมติดใจกับการอ่านว่าส่วนที่เหลือของชั้นอยู่ข้างนอกประตู และคุณครูต้องมาอยู่กับฉันและแตะไหล่ชั้น นั่นคือพลังของการอ่าน จากวินาทีนั้นเป็นต้นมาฉันรู้ว่าฉันได้พบบางสิ่งที่พิเศษ ฉันคิดว่าการอ่านเป็นตั๋วที่จะไปสถานที่ ประสบการณ์ต่างๆ และดื่มด่ำไปโดยสิ้นเชิงด้วยพลังของหนังสือ ผมเคยเจอเปลี่ยนที่อ่านหนังสือ ดูหนัง

มีสถานที่ของพวกเขาและมีอะไรเหมือนในหนังดี แต่ทราบว่ามันเป็นอีกอันนึง ' วิว ไม่ใช่ของคุณคุณไม่มีอำนาจที่จะฝันกลางวัน กับ หนัง มันเกิดขึ้นเร็วเกินไป บนโต๊ะอีกอันนึงครับ พวกภาพเร่ง และสมองของคุณพยายามที่จะทำให้ความรู้สึกของภาพ กับการอ่าน คุณสามารถหยุดและครุ่นคิด คุณสามารถกลับไปและอ่านทาง คุณสามารถสร้างจินตนาการของคุณเองจากวัตถุดิบในหนังสือ ไม่มีแทน

อ่านต่อผมเอาหนังสือมาด้วย เมื่อผมรู้ว่าผมจะต้องรอเป็นจำนวนเงินที่ยุติธรรมของเวลา ตัวอย่างเช่นเมื่อฉันไปที่ออฟฟิศของหมอ เวลาการรอคอยมักยาวนานและผมชอบที่จะเติมเวลาด้วยการอ่านหนังสือที่ดี ผมไม่สังเกตเลยรอ และบางครั้งก็ไม่ได้อยากขัดจังหวะ ! ใช่ หนังสือเอาส่วนที่น่าเบื่อในชีวิต วิธีการเกี่ยวกับการเดินทางของเครื่องบิน ? เมื่อคุณสามารถแช่ตัวเองในหนังสือแล้วหลับไป และตื่นในเมืองที่แตกต่างกันคือความสุขที่แท้จริง ฉันไม่รู้จริงๆ ว่าผมจะทำโดยไม่ต้องอ่าน

ได้อ่านกลายเป็นหายไป ? ฉันไปห้องสมุดมาวันอื่น ๆ และเห็นสิ่งที่เด็กการตรวจสอบ อัตราส่วนหน้าต่อวิดีโอกว่าหนังสือ ประมาณ 80 เปอร์เซ็นต์ ผมค่อนข้างหดหู่ เด็กพวกนี้ต้องอ่านอีก ดูเพิ่มเติมเราต้องสูญเสียรุ่นของความคิดสร้างสรรค์ ? โดยดูที่เช็คเอาท์สายผมเห็นมันเกิดขึ้น นี่เป็นพ่อแม่ผิด ไม่เด็ก พ่อแม่ต้องบังคับใช้ความสำคัญของการอ่าน ไม่ได้ดูหนัง อัตราส่วนต้องกลับเอง


อ่านสามารถเชื่อมช่องว่างระหว่างที่รู้จักและไม่รู้จัก ต้องการที่จะพบว่ามันเป็นเหมือนพายเรือข้ามมหาสมุทร ? อ่านเข้าไปในหนังสือเพื่อให้คุณสามารถกลิ่นหลด รู้ว่ามันชอบล่มในพายุ ลิ้มรสทะเล ยุบจากความอ่อนเพลียทำให้ผู้เจ็บแขนและต้มแข็งหลังจบ นั้นคือการอ่าน ร้องไห้กับผู้เขียนเพราะคิดถึงครอบครัว คุณอาจไม่ได้รับมีชีวิต ! คุณอาจจะสิ้นสุดในก้นทะเล ! พูดเรื่องหินชอบผู้กำกับภาพยนตร์ยอดเยี่ยม อัลเฟรด ฮิตช์ค็อกกล่าวว่า " ความกลัวอยู่ในจิตใจ " ไม่จําเป็นต้องดันเลือดและเครื่องในลงไปในคอเธอ มันน่ากลัวยิ่งกว่า เมื่อจิตใจของคุณสร้างมันเองกลัว นั่นคือพลังของการอ่าน

ค่ะ หนังสือที่เป็นเชื้อสายของความคิดสร้างสรรค์ ภาพยนตร์ที่ได้ผล และการอ่านเป็นตั๋วที่จะไปที่นั่น