This is the first case in the domes

This is the first case in the domestic courts where consideration has been given to the interaction between the right to freedom of expression conferred by Article 10 and the property right conferred on the owner of copyright. Note that the Chancery Division accepted that copyright is a form of property right which should be protected, in accordance with Article 1 to the First Protocol.

It is hardly surprising that the interpretation laid on Article 10 by the defendant did not find acceptance by the Court. It does not follow that because Article 10 is engaged in copyright disputes, that the facts of each case should fall to be considered to determine whether the restriction imposed by the law of copyright goes further than what is necessary in a democratic society. If this were right then intellectual property litigation would "burgeon out of control and the rights which the legislation apparently confers will be of no practical use except to those able and willing to litigate in all cases."

If every code incorporated by the legislative organ of the democratic state is to be completely overhauled by the Convention, the leges speciales in all areas (such as Copyright) will have to go way to the lex generalis of the Convention. This cannot be right. As the judge said, "there is no room for any further defences outside the code [under the 1988 Act] which establishes the particular species of intellectual property in question".

Results (Thai) 1:

นี่เป็นกรณีแรกในศาลในประเทศที่ได้รับพิจารณาการปฏิสัมพันธ์ระหว่างสิทธิที่จะปรึกษา ด้วย 10 บทความเสรีภาพและสิทธิในทรัพย์สินการปรึกษากับเจ้าของลิขสิทธิ์ หมายเหตุว่า ส่วนแชนเซรียอมรับว่าลิขสิทธิ์แบบของสิทธิในทรัพย์สินซึ่งควรได้รับการป้องกัน ตามโพรโทคอลแรก 1 บทความจึงไม่น่าแปลกใจว่า การตีความที่วางอยู่บน 10 บทความ โดยจำเลยไม่พบยอมรับ โดยศาล มันไม่เป็นไปตามที่เนื่องจากบทความ 10 จะหมั้นในข้อพิพาทลิขสิทธิ์ ที่ข้อเท็จจริงแต่ละกรณีควรจะถือกำหนดว่าข้อจำกัดที่กำหนดโดย กฎหมายลิขสิทธิ์ไปกว่าสิ่งจำเป็นในสังคมประชาธิปไตย ถ้าถูกต้องแล้ว ทรัพย์สินทางปัญญาคดีจะ "burgeon ออกจากการควบคุม และสิทธิซึ่งกฎหมายที่เห็นได้ชัดว่า confers จะไม่เหมาะกับการใช้ยกเว้นที่สามารถ และเต็มใจที่จะขึ้นศาลในทุกกรณี"ถ้ารหัสทุกรวมอวัยวะสภารัฐประชาธิปไตยโดยจะถูก overhauled สมบูรณ์ โดยการประชุม speciales leges ในทุกพื้นที่ (เช่นลิขสิทธิ์) จะต้องไปไป generalis เล็กซ์ทัวร์นี้ นี้ไม่เหมาะสม ผู้พิพากษากล่าวว่า "มีเป็นห้องพักสำหรับ defences ใด ๆ เพิ่มเติมนอกรหัส [ตามพระราชบัญญัติ 1988] ซึ่งสร้างสายพันธุ์เฉพาะของทรัพย์สินทางปัญญาในคำถาม"

Results (Thai) 2:

นี้เป็นกรณีแรกในศาลในประเทศที่ได้รับการพิจารณาให้กับปฏิสัมพันธ์ระหว่างสิทธิเสรีภาพในการแสดงออกตามความในมาตรา 10 และสิทธิในทรัพย์สินหารือกับเจ้าของลิขสิทธิ์ โปรดทราบว่าศาลฎีกาแผนกรับการยอมรับว่าลิขสิทธิ์เป็นรูปแบบของสิทธิในทรัพย์สินซึ่งควรได้รับการคุ้มครองตามข้อ 1 ถึงพิธีสารแรก. มันแทบจะไม่น่าแปลกใจที่การตีความที่วางอยู่บนข้อ 10 โดยจำเลยไม่พบการยอมรับจากศาล . มันไม่ได้เป็นไปตามนั้นเพราะมาตรา 10 เป็นธุระในข้อพิพาทลิขสิทธิ์ที่ข้อเท็จจริงของแต่ละกรณีจะลดลงได้รับการพิจารณาเพื่อตรวจสอบว่าข้อ จำกัด ที่กำหนดโดยกฎหมายลิขสิทธิ์ไปไกลกว่าสิ่งที่เป็นสิ่งที่จำเป็นในสังคมประชาธิปไตย หากครั้งนี้มีสิทธิที่แล้วดำเนินคดีทรัพย์สินทางปัญญา "ออกดอกออกจากการควบคุมและสิทธิที่กฎหมายฟาโรห์เห็นได้ชัดจะไม่มีการใช้งานจริงยกเว้นให้กับผู้ที่สามารถและเต็มใจที่จะดำเนินการฟ้องร้องในทุกกรณี." ถ้ารหัสทุกนิติบุคคลที่จัดตั้งขึ้นโดยกฎหมายของอวัยวะ ประชาธิปไตยคือการได้รับการปรับปรุงอย่างสมบูรณ์โดยอนุสัญญา Speciales leges ในทุกพื้นที่ (เช่นลิขสิทธิ์) จะต้องไปวิธีการทั่วไป Lex ของอนุสัญญา นี้ไม่สามารถขวา ในฐานะที่เป็นผู้พิพากษากล่าวว่า "ไม่มีที่ว่างสำหรับการป้องกันเพิ่มเติมใด ๆ นอกรหัส [ภายใต้พระราชบัญญัติ 1988] ซึ่งกำหนดสายพันธุ์เฉพาะของทรัพย์สินทางปัญญาในคำถาม"

Results (Thai) 3:

นี่เป็นคดีแรกในศาลในประเทศที่การพิจารณาได้รับการปฏิสัมพันธ์ระหว่างสิทธิเสรีภาพในการแสดงออก ) โดยบทความ 10 และสิทธิในทรัพย์สินอื่นตามเจ้าของลิขสิทธิ์ ทราบว่า ศาลฎีกาแผนกรับลิขสิทธิ์ที่เป็นรูปแบบของสิทธิในทรัพย์สินที่ควรได้รับความคุ้มครองตามข้อ 1 ขั้นตอนแรก

มันแทบจะไม่น่าแปลกใจที่การวางมาตรา 10 โดยจำเลยไม่ได้หาการยอมรับโดยศาล มันไม่เป็นไปตามนั้น เพราะบทความ 10 เป็นธุระในข้อพิพาทลิขสิทธิ์ ว่า ข้อเท็จจริงของแต่ละกรณีควรอยู่ที่จะพิจารณาเพื่อตรวจสอบว่าข้อ จำกัด ที่กำหนดโดยกฎหมายลิขสิทธิ์ไปไกลกว่าสิ่งที่จำเป็นในสังคมประชาธิปไตยถ้าสิ่งนี้ถูก แล้วทรัพย์สินทางปัญญา คดีอาจจะแพร่ออกจากการควบคุมและสิทธิซึ่งกฎหมายที่ชัดเจนที่เกี่ยวข้องจะไม่ใช้จริง นอกจาก นั้นสามารถและเต็มใจที่จะดำเนินคดีในทุกกรณี "

ถ้าทุกๆรหัส จัดตั้งขึ้นโดยการออกกฎหมายอวัยวะของประชาธิปไตยรัฐต้องซ่อมแซมอย่างสมบูรณ์โดยอนุสัญญาspeciales leges ในพื้นที่ทั้งหมด ( เช่น ลิขสิทธิ์ ) จะต้องไปให้เล็กซ์ generalis ของอนุสัญญาฯ นี้ไม่สามารถถูก เป็นผู้พิพากษากล่าวว่า " ไม่มีห้องเพิ่มเติมใด ๆป้องกันนอกรหัสภายใต้พระราชบัญญัติ [ 1988 ] ซึ่งสร้างสายพันธุ์เฉพาะของทรัพย์สินทางปัญญาใน
คำถาม "