With the onset of World War II, cri

With the onset of World War II, crime films and melodramas in particular suddenly took on a dark mood of cynicism and despair that had not existed in the optimistic 1930s. Eventually, this cycle of films (which cuts across several genres) would be called film noir by French film critics. Pessimistic, unheroic stories about greed, lust, and cruelty became central to the mystery genre. Grim, violent films featuring cynical, trenchcoat-wearing private detectives who were almost as ruthless as the criminals they pursued became the industry standard. The wealthy, aristocratic sleuth of the previous decade was replaced by the rough-edged, working-class gumshoe. Humphrey Bogart became the definitive cinema shamus as Sam Spade in Hammett's The Maltese Falcon (1941) and as Philip Marlowe in Chandler's The Big Sleep (1946). Dick Powell also made an indelible impression as Marlowe in the classic Murder, My Sweet (1944), adapted from Chandler's Farewell, My Lovely. The Falcon Takes Over (1942), starring George Sanders, was also based on the same novel.
Chandler's The Lady in the Lake was filmed in 1947 with Robert Montgomery starring and directing. This film is most noteworthy for the revolutionary way it is filmed entirely from Marlowe's viewpoint. The audience sees only what he does. Montgomery only appears on camera a few times, once in a mirror reflection. Also in 1947, Chandler's novel The High Window was made into the film The Brasher Doubloon starring George Montgomery. This was essentially a remake of Time to Kill (1942), a Michael Shayne adventure starring Lloyd Nolan.

Results (Thai) 1:

ด้วยการเริ่มสงครามโลก ภาพยนตร์อาชญากรรมและ melodramas โดยเฉพาะก็เอาในอารมณ์เข้มทำและความสิ้นหวังที่ไม่ได้อยู่ในช่วงทศวรรษ 1930 ในเชิงบวก ในที่สุด วงจรนี้ของภาพยนตร์ (ซึ่งตัดผ่านหลายแนว) จะถูกเรียก noir ฟิล์ม โดยนักวิจารณ์ภาพยนตร์ฝรั่งเศส ในเชิงลบ unheroic เรื่องราวเกี่ยวกับความโลภ ลัสท์ และโหดร้ายกลายเป็นศูนย์กลางแนวลึกลับ น่ากลัว รุนแรงฟิล์มแห่งนักสืบเอกชนลลด สวม trenchcoat ที่เกือบเป็นหินเป็นอาชญากรพวกเขาติดตาม กลายเป็น อุตสาหกรรมมาตรฐาน Sleuth มั่งคั่ง รูปของทศวรรษก่อนหน้านี้ถูกแทนที่ ด้วย gumshoe ขอบหยาบ working-class Bogart ฟรีย์เป็น shamus โรงภาพยนตร์ทั่วไป ฐานะ สเปด Sam ในของ Hammett เหยี่ยวมอลตา (1941) และฟิลิปมาร์โลว์ใน Chandler เดอะบิ๊กนอน (1946) พาวเวลดิ๊กยังได้ประทับใจ indelible เป็นมาร์โลว์ในฆาตกรรมคลาสสิก หวานของฉัน (1944), ดัดแปลงจากอำลา Chandler รักของฉัน เหยี่ยวจะผ่าน (ปี 1942), นำแสดงโดยแซนเดอร์ส์จอร์จ ถูกยังตามนวนิยายเหมือนกันสุภาพสตรี Chandler ในทะเลสาบถูกถ่ายทำใน 1947 กับโรเบิร์ตมอนท์โกนำแสดงโดย และผู้กำกับ ฟิล์มชนิดนี้เป็นที่น่าสังเกตมากที่สุดการปฏิวัตินั้นจะมาถ่ายทำเรื่องทั้งหมดจากมุมมองของมาร์โลว์ ผู้ชมมองเห็นเฉพาะ สิ่งที่เขาไม่ มอนท์โกเท่านั้นแล้วในกล้องกี่ครั้ง เมื่อสะท้อนกระจก นอกจากนี้ ใน 1947, Chandler นวนิยายสูงหน้าต่างทำเป็นฟิล์ม Doubloon Brasher นำแสดงโดยจอร์จมอนท์โก นี้เป็น remake ของเวลาในการฆ่า (ปี 1942), การผจญภัย Michael เชนนำแสดงโดยโนแลน Lloyd ได้

Results (Thai) 2:

กับการโจมตีของสงครามโลกครั้งที่สองภาพยนตร์อาชญากรรมและ melodramas โดยเฉพาะอย่างยิ่งจู่ ๆ เอาอารมณ์มืดของมนุษย์และความสิ้นหวังที่ไม่ได้อยู่ในช่วงทศวรรษที่ 1930 ในแง่ดี ในที่สุดรอบนี้ของภาพยนตร์ (ซึ่งตัดข้ามหลายประเภท) จะเรียกว่าฟิล์มนัวร์จากนักวิจารณ์ภาพยนตร์ฝรั่งเศส มองโลกในแง่เรื่องราววีรบุรุษเกี่ยวกับความโลภความปรารถนาและความโหดร้ายกลายเป็นศูนย์กลางในการประเภทลึกลับ Grim ภาพยนตร์ที่มีความรุนแรงถากถาง trenchcoat สวมนักสืบเอกชนที่อยู่เกือบจะเป็นคนไร้ความปรานีเป็นอาชญากรที่พวกเขาไล่กลายเป็นมาตรฐานอุตสาหกรรม รวยนักสืบของชนชั้นสูงของทศวรรษที่ผ่านมาก็ถูกแทนที่ด้วยหยาบขอบทำงานระดับตำรวจ Humphrey Bogart กลายเป็นตำรวจโรงหนังที่ชัดเจนแซมจอบใน Hammett ของมอลตาเหยี่ยว (1941) และในขณะที่ฟิลิปมาร์โลว์ในแชนด์เลอ Big Sleep (1946) ดิ๊กพาวเวลยังทำให้รู้สึกประทับใจเป็นมาร์โลว์ในการฆาตกรรมคลาสสิกหวานของฉัน (1944) ดัดแปลงมาจากแชนด์เลออำลา, น่ารักของฉัน เหยี่ยวต้องจบ (1942) นำแสดงโดยจอร์จแซนเดอได้ขึ้นอยู่กับนวนิยายเรื่องเดียวกัน.
แชนด์เลอเลดี้ในทะเลสาบที่กำลังถ่ายทำในปี 1947 โรเบิร์ตมอนต์โกเมนำแสดงและกำกับ ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นที่น่าสังเกตมากที่สุดสำหรับวิธีการปฏิวัติมันเป็นที่ถ่ายทำจากมุมมองของมาร์โลว์ ผู้ชมเห็นเพียง แต่สิ่งที่เขาทำ Montgomery จะปรากฏเฉพาะบนกล้องไม่กี่ครั้งครั้งหนึ่งในการสะท้อนกระจก นอกจากนี้ในปี 1947 นวนิยายแชนด์เลอหน้าต่างสูงได้ถูกทำให้เป็นภาพยนตร์ Brasher Doubloon นำแสดงโดยจอร์จเมอรี นี้เป็นหลัก remake ของเวลาในการฆ่า (1942), การผจญภัยที่นำแสดงโดยไมเคิลเชนลอยด์โนแลน

Results (Thai) 3:

กับการโจมตีของสงครามโลกครั้งที่สองอาชญากรรมภาพยนตร์และนิยายจริงๆโดยเฉพาะก็เอาอารมณ์มืดของความเห็นถากถางดูถูกและสิ้นหวังที่ไม่ได้อยู่ในช่วงทศวรรษที่ 1930 ในแง่ดี ในที่สุด วัฏจักรของภาพยนตร์เรื่องนี้ ( ซึ่งตัดข้ามหลายประเภท ) จะเรียกว่า ฟิล์ม นัวร์ โดยนักวิจารณ์ภาพยนตร์ฝรั่งเศส มองโลกในแง่ร้าย เรื่องราว unheroic เกี่ยวกับความโลภ ตัณหา และความโหดร้ายกลายเป็นศูนย์กลางปริศนาประเภท กริมภาพยนตร์ที่มีความรุนแรง ที่มี เหยียดหยาม เทรนช์โค้ทใส่นักสืบเอกชนที่เกือบเป็นหินเป็นอาชญากร พวกเขาก็กลายเป็นมาตรฐานอุตสาหกรรม ร่ํารวย นักสืบของชนชั้นสูงของทศวรรษก่อนหน้านี้ถูกแทนที่ด้วยการทำงานระดับหยาบ ขอบ , ตำรวจฮัมฟรีย์ โบการ์ตกลายเป็นชัดเจน หนังนักสืบเป็น Sam Spade ในแฮมของฟอลคอนมอลตา ( 1941 ) และ ฟิลิป มาร์โลว์ ใน แชนด์เลอร์ เป็นนอนใหญ่ ( 1946 ) ดิ๊กพาวเวลล์ยังทำให้รู้สึกประทับใจ เช่น มาร์โลว์ในการฆาตกรรมคลาสสิกของฉันหวาน ( 1944 ) ดัดแปลงจากแชนด์เลอร์ลาก่อน , ที่รักของฉัน เหยี่ยวจะใช้เวลามากกว่า ( 1942 ) ที่นำแสดงโดย จอร์จ แซนเดอร์ส , นอกจากนี้ยังขึ้นอยู่กับนวนิยายเหมือนกัน
.แชนด์เลอร์เป็นผู้หญิงในทะเลสาบถูกถ่ายทำใน 1947 กับโรเบิร์ต มอนโกเมอรี่ นำแสดงโดย และกำกับ ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นเรื่องที่สำคัญที่สุดสำหรับวิธีปฏิวัติมันถ่ายทั้งหมดจากมาร์โลว์เป็นจุดชมวิว ผู้ชมจะมองเห็นแค่สิ่งที่เขาทำ มอนโกเมอรี่เท่านั้นที่ปรากฏบนกล้องไม่กี่ครั้งเมื่อในกระจกสะท้อน นอกจากนี้ ในปี 1947 ,แชนด์เลอร์เป็นนวนิยายสูงหน้าต่างให้เป็นภาพยนตร์ที่นำแสดงโดยจอร์จดับบลูนบราเชอร์มอนท์โกเมอรี่ นี้เป็น remake ของเวลาที่จะต้องฆ่า ( 1942 ) , ไมเคิล เชน ผจญภัย นำแสดงโดย ลอยด์โนแลน