Romanesque architecture is an archi

Romanesque architecture is an architectural style of 3medieval Europe characterized by semi-circular arches. A fusion of Roman, Carolingian and Ottonian, Byzantine , and local Germanic traditions, it was a product of the great expansion of monasticism in the 10th–11th century. Larger churches were needed to accommodate the numerous monks and priests, as well as the pilgrims who came to view saints’ relics. For the sake of fire resistance, masonry vaulting began to replace timber construction.

Results (Thai) 1:

สถาปัตยกรรมแบบโรมันเป็นรูปแบบสถาปัตยกรรมของ
3
ยุโรปยุคกลางโดดเด่นด้วยการโค้งครึ่งวงกลม ฟิวชั่นของโรมันและ Carolingian Ottonian ไบเซนไทน์และประเพณีดั้งเดิมในท้องถิ่นก็เป็นผลผลิตของการขยายตัวที่ดีของพระในศตวรรษที่ 10 ที่ 11 ที่ คริสตจักรที่มีขนาดใหญ่เป็นสิ่งที่จำเป็นเพื่อรองรับพระสงฆ์จำนวนมากและพระสงฆ์เช่นเดียวกับผู้แสวงบุญที่มาดูพระธาตุนักบุญ เพื่อประโยชน์ในการต้านทานไฟสูงลิ่วก่ออิฐเริ่มเปลี่ยนก่อสร้างไม้

Results (Thai) 2:

สถาปัตยกรรมโรมาเนสก์เป็นรูปแบบสถาปัตยกรรมของ
3
ยุโรปยุคกลางโดดเด่นด้วยซุ้มโค้งกึ่งวงกลม ฟิวชั่นของโรมัน, โรคาโรและออตโตเนียน, ไบแซนไทน์, และประเพณีในท้องถิ่น, มันเป็นผลิตภัณฑ์ของการขยายตัวที่ดีของ monasticism ในศตวรรษที่10– 11. คริสตจักรขนาดใหญ่เป็นสิ่งจำเป็นเพื่อรองรับพระสงฆ์และปุโรหิตมากมายเช่นเดียวกับผู้แสวงบุญที่มาดูพระธาตุของวิสุทธิชน เพื่อประโยชน์ของความต้านทานไฟ, การก่ออิฐเริ่มต้นที่จะเปลี่ยนการก่อสร้างไม้

Results (Thai) 3:

สถาปัตยกรรมโรมัน
สาม
ยุโรปในยุคกลางมีลักษณะโค้งครึ่งวงกลม มันเป็นผลิตภัณฑ์ของการขยายตัวที่ยิ่งใหญ่ของลัทธิพระสงฆ์ในศตวรรษที่ 10-11 ซึ่งรวมโรมันแคโรไลน์อ๊อตโต้ไบแซนไทน์และท้องถิ่นดั้งเดิม โบสถ์ขนาดใหญ่เป็นสิ่งจำเป็นเพื่อรองรับพระสงฆ์และพระสงฆ์และผู้แสวงบุญที่เข้าเยี่ยมชมพระธาตุของนักบุญ เพื่อป้องกันไฟโค้งอิฐเริ่มแทนที่โครงสร้างไม้