Business resultsIngenious responses

Business results
Ingenious responses to consumer trends and market needs, a solid franchise model, a strong brand and protection of intangible assets through the IP system has proven to be a winning combination for Eagle Boys. In 2008, the company purchased Pizza Haven – one of its domestic competitors – and instantly increased its presence in many local markets.
In January 2010, Eagle Boys became the second largest pizza chain in Australia, and in March 2010 opened its 300th store in Sydney. The company continues to grow through its unique franchise system, and from June 2008 to June 2009 it opened over one new store per week. In the three months from January to March 2010, the company received over eight hundred franchise inquiries, nearly doubling the number from the previous year. By early 2011, Eagle Boys was making over sixteen million pizzas a year and generating an annual turnover of over AUD $160 million.
Eagle Boys' successful franchise model and strong brand name have also been recognized on numerous occasions. In 2008, the company won the Australian National Retail Association’s Supreme Retailer Award, and in 2007 and 2008 it was awarded the Australian National Retail Association’s Best Franchise Retailer Award.

Results (Thai) 1:

ผลลัพธ์ทางธุรกิจแยบยลตอบรับแนวโน้มของผู้บริโภค และความต้องการตลาด รูปแบบแฟรนไชส์ที่เป็นของแข็ง แบรนด์ที่แข็งแกร่ง และป้องกันสินทรัพย์ไม่มีตัวตนผ่านระบบ IP ได้พิสูจน์ให้ รวมกันที่ชนะสำหรับนกชาย ใน 2008 บริษัทซื้อพิซซ่าสวรรค์ –หนึ่งคู่แข่งภายในประเทศ – และสถานะของตนในตลาดในท้องถิ่นที่เพิ่มขึ้นทันทีในเดือน 2010 มกราคม นกชายเป็น กลุ่มพิซซ่าใหญ่เป็นอันดับสองในออสเตรเลีย และในเดือน 2553 มีนาคมเปิดร้านของ 300th ในซิดนีย์ บริษัทยังคงเติบโตผ่านระบบของแฟรนไชส์เฉพาะ และ 2551 มิถุนายนถึง 2552 มิถุนายนจะเปิดร้านใหม่กว่าหนึ่งต่อสัปดาห์ ในสามเดือนมกราคมถึง 2553 มีนาคม บริษัทรับสอบถามแฟรนไชส์กว่าแปดร้อย เกือบจะหมายเลขจากปีก่อนหน้า โดยช่วงต้นปี 2011 เด็กชายอีเกิ้ลทำพิซซ่ากว่าหกล้านปี และสร้างของเกิน AUD $160 ล้านนกชายรูปแบบแฟรนไชส์ที่ประสบความสำเร็จและชื่อแบรนด์ที่แข็งแกร่งได้ยังได้รับรู้ในหลายครั้ง ใน 2008 บริษัทชนะรางวัลร้านค้าสูงสุดออสเตรเลียแห่งชาติขายปลีกของความสัมพันธ์ และในปี 2007 และ 2008 ได้รับรางวัลรางวัลผู้ค้าปลีกแฟรนไชส์สุดออสเตรเลียแห่งชาติขายปลีกของความสัมพันธ์

Results (Thai) 2:

ส่งผลให้ธุรกิจการตอบสนองความคิดสร้างสรรค์กับแนวโน้มของผู้บริโภคและความต้องการของตลาดแฟรนไชส์รูปแบบของแข็งแบรนด์ที่แข็งแกร่งและการป้องกันของสินทรัพย์ไม่มีตัวตนผ่านระบบ IP ได้พิสูจน์แล้วจะรวมกันที่ชนะชายอีเกิล
ในปี 2008 บริษัท ฯ ได้ซื้อพิซซ่า Haven - หนึ่งในคู่แข่งภายในประเทศ - และทันทีที่เพิ่มขึ้นการแสดงตนในตลาดท้องถิ่นจำนวนมาก.
ในเดือนมกราคมปี 2010 บอยอีเกิลกลายเป็นห่วงโซ่พิซซ่าที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับสองในออสเตรเลียและมีนาคม 2010 เปิดร้าน 300 ในซิดนีย์ . บริษัท ยังคงเติบโตผ่านระบบแฟรนไชส์ที่ไม่ซ้ำกันและตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2008 ถึงมิถุนายน 2009 เปิดกว่าหนึ่งร้านใหม่ต่อสัปดาห์ ในช่วงสามเดือนตั้งแต่เดือนมกราคมถึงเดือนมีนาคม 2010 บริษัท ฯ ได้รับมากกว่าแปดแสนสอบถามข้อมูลแฟรนไชส์เกือบสองเท่าของจำนวนจากปีก่อนหน้านี้ โดยช่วงต้นปี 2011 บอยอีเกิลทำมากกว่าสิบหกล้านพิซซ่าปีและสร้างผลประกอบการประจำปีมากกว่า AUD $ 160,000,000.
บอยอีเกิล 'รูปแบบแฟรนไชส์ที่ประสบความสำเร็จและชื่อแบรนด์ที่แข็งแกร่งได้รับการยอมรับในหลายโอกาส ในปี 2008 บริษัท ได้รับรางวัลแห่งชาติออสเตรเลียปลีกของสมาคมผู้ค้าปลีกที่ได้รับรางวัลสูงสุดและในปี 2007 และ 2008 ได้รับรางวัลสมาคมค้าปลีกแห่งชาติออสเตรเลียรางวัลแฟรนไชส์ค้าปลีกที่ดีที่สุด

Results (Thai) 3:

ผลลัพธ์ทางธุรกิจ
คำตอบที่แยบยลเพื่อแนวโน้มของผู้บริโภคและความต้องการของตลาด รูปแบบแฟรนไชส์แบรนด์แข็ง แรงและการป้องกันของสินทรัพย์ไม่มีตัวตน ผ่านระบบ IP ได้พิสูจน์แล้วว่าสามารถชนะการรวมกันสำหรับอินทรีหนุ่ม ในปี 2551 บริษัทฯซื้อพิซซ่ายัง–หนึ่งในคู่แข่งในประเทศ ) และทันทีเพิ่มการแสดงตนในตลาดท้องถิ่นหลาย .
ในเดือนมกราคม 2553อินทรีหนุ่มกลายเป็นโซ่พิซซ่าที่สองที่ใหญ่ที่สุดในออสเตรเลีย และในเดือนมีนาคม 2553 เปิดร้าน 300 ในซิดนีย์ บริษัทยังคงเติบโตผ่านระบบแฟรนไชส์ที่เป็นเอกลักษณ์ และจากเดือนมิถุนายน 2551 ถึงมิถุนายน 2552 เปิดมากกว่าหนึ่งร้านใหม่ต่อสัปดาห์ ในช่วง 3 เดือน ตั้งแต่เดือนมกราคม ถึงเดือนมีนาคม 2553 บริษัทได้รับการสอบถามกว่าแปดร้อยแฟรนไชส์เกือบสองเท่าของตัวเลขจากปีก่อนหน้านี้ โดยช่วงต้นปี 2011 , นกอินทรีหนุ่มกำลังเกินสิบหกล้านพิซซ่าปีและสร้างผลประกอบการประจำปีของมากกว่า AUD $ 160 ล้าน
นกอินทรีชายรูปแบบแฟรนไชส์ และชื่อแบรนด์ที่แข็งแกร่งยังได้รับการยอมรับในโอกาสต่าง ๆ ในปี 2551 บริษัทได้รางวัลค้าปลีกสูงสุดแห่งชาติออสเตรเลียสมาคมค้าปลีกของและในปี 2007 และ 2008 ได้รับรางวัลแห่งชาติออสเตรเลียของสมาคมผู้ค้าปลีก แฟรนไชส์ค้าปลีกที่ดีที่สุดรางวัล