There has been a marked trend towar

There has been a marked trend towards supporting holistic approaches in recent years.
Smuts (1926) proposed the concept of holism in the 1920s. Eighty years on modern
holism is still poorly defined, although it implies acceptance that ‘the whole is greater
than the sum of the parts’ and the idea that modern science has unwisely tended towards
excessive reductionism (the standard, modern, scientific view that everything is explainable
from the basic principles, and by focused, objective research), empiricism (use of
data to prove a case) and compartmentalisation (isolation of fields of study from each
other). In short, holistic research seeks to understand the totality of problems rather than
their components. In all but the simplest environments problems tend to be so complex
that an effective holistic approach is difficult. There are situations where a holistic
approach is to be welcomed; unfortunately, there are many situations where it will not
work and there are dangers in over-enthusiastic use (in 1998 the University of Plymouth,
UK, launched an M.Sc. in holistic science). As already stressed, established ‘reductionist’
science has yielded a great deal – modern society owes its well-being to it – so
it is very unwise to think of wholly abandoning it (Atkinson, 1991a: 154). With pressures
for holistic approaches and popular interest in pseudo-science and anti-scientific
theories, commonly presented by the media as truth, care is needed to ensure that support
for science is not eroded. Popular pressure also tends to polarise support for research
– some fields are attractive to citizens and politicians, and others (even though they
may be vital) are not. Another pressure is the growing demand, and therefore funding,
for applied research rather than studies into what has no obvious practical outcome.

Results (Thai) 1:

มีการทำเครื่องหมายโน้มสนับสนุนแนวองค์รวมในปีSmuts (1926) เสนอแนวคิดของ holism ในปี 1920 แปดสิบปีสมัยใหม่holism ยังคงไม่กำหนด แม้ว่ามันหมายถึงการยอมรับที่ ' ทั้งหมดมีค่าของชิ้นส่วนและความคิดที่วิทยาการสมัยใหม่มีแนวโน้มไปสู่ทางแฃะมากเกินไป (มาตรฐาน ทันสมัย วิทยาศาสตร์มุมมองว่า ทุกอย่าง explainableจากหลักการพื้นฐาน และความสำคัญ วัตถุประสงค์การวิจัย), empiricism (ใช้ของข้อมูลเพื่อพิสูจน์กรณี) และ compartmentalisation (แยกเขตการศึกษาละอื่น ๆ) ในระยะสั้น พยายามทำความเข้าใจการรวมของปัญหาวิจัยแบบองค์รวมแทนส่วนประกอบ ในสภาพแวดล้อมที่ง่ายที่สุดแต่ก็ ปัญหามักจะซับซ้อนว่า วิธีการแบบองค์รวมที่มีประสิทธิภาพเป็นเรื่องยาก มีสถานการณ์เป็นองค์รวมวิธีคือการ ได้รับการต้อนรับ อับ มีหลายสถานการณ์ที่มันจะไม่ทำงาน และมีอันตรายใช้กระตือรือร้นมากเกินไป (ในปี 1998 มหาวิทยาลัย PlymouthUK เปิดวท.ม.วิทยาศาสตร์แบบองค์รวม) เป็นแล้วเครียด ก่อตั้ง 'reductionist'วิทยาศาสตร์มีผลอย่างมาก – ทันสมัยสังคมเมืองความเป็นอยู่ที่ดี–ดังนั้นจะไม่ฉลาดมากจะคิดว่า ทั้งหมดทิ้ง (Atkinson, 1991a: 154) ด้วยแรงกดดันสำหรับแนวองค์รวมและยอดนิยมสนใจ ในวิทยาศาสตร์หลอก และต่อต้านวิทยาศาสตร์ทฤษฎี ปกติสื่อที่เป็นความจริง การดูแลที่จำเป็นเพื่อให้แน่ใจว่าการสนับสนุนสำหรับวิทยาศาสตร์ไม่มีการกัดเซาะ ความดันที่นิยมยังมีแนวโน้มที่ polarise สนับสนุนงานวิจัย-บางเขตข้อมูลน่าสนใจสำหรับประชาชน และนักการเมือง และคนอื่น ๆ (แม้ว่าพวกเขาอาจสำคัญ) ไม่ได้ ความดันอื่นเป็นการเติบโตความต้องการ และดังนั้น เงินทุนสำหรับการวิจัยประยุกต์มากกว่าการศึกษาเป็นสิ่งที่ไม่มีผลทางปฏิบัติได้

Results (Thai) 2:

ได้มีการทำเครื่องหมายแนวโน้มต่อการสนับสนุนวิธีการแบบองค์รวมในปีที่ผ่านมา.
เขม่า (1926) ได้เสนอแนวคิดของทฤษฎีความศักดิ์สิทธิ์ในปี ค.ศ. 1920 แปดสิบปีที่ผ่านมาที่ทันสมัย
​​ทฤษฎีความศักดิ์สิทธิ์ยังคงคุณภาพที่กำหนดแม้ว่ามันจะหมายถึงการได้รับการยอมรับว่าทั้งหมดนั้นยิ่งใหญ่
กว่าผลรวมของชิ้นส่วนและความคิดที่ว่าวิทยาศาสตร์สมัยใหม่มีแนวโน้มที่ไม่ฉลาดต่อ
reductionism มากเกินไป (มาตรฐานทันสมัยมุมมองทางวิทยาศาสตร์ว่าทุกอย่างเป็น อธิบาย
จากหลักการพื้นฐานและโดยมุ่งเน้นการวิจัยวัตถุประสงค์) ประสบการณ์นิยม (ใช้
ข้อมูลเพื่อพิสูจน์กรณี) และ compartmentalisation (แยกสาขาการศึกษาจากแต่ละ
อื่น ๆ ) ในระยะสั้นการวิจัยแบบองค์รวมที่พยายามที่จะเข้าใจจำนวนทั้งสิ้นของปัญหามากกว่า
ส่วนประกอบ แต่ในสภาพแวดล้อมที่ง่ายที่สุดในปัญหาที่มีแนวโน้มที่จะมีความซับซ้อนดังนั้น
ว่าแนวทางแบบองค์รวมที่มีประสิทธิภาพเป็นเรื่องยาก มีสถานการณ์ที่แบบองค์รวมที่มี
วิธีการที่จะได้รับการต้อนรับ; แต่มีหลาย ๆ สถานการณ์ที่มันจะไม่
ทำงานและมีอันตรายในกว่ากระตือรือร้นใช้ (ในปี 1998 มหาวิทยาลัยพลีมั ธ ,
สหราชอาณาจักรเปิดตัวใน วท.ม. วิทยาศาสตร์แบบองค์รวม) เครียดแล้วจัดตั้ง 'reductionist'
วิทยาศาสตร์มีผลให้การจัดการที่ดี - สังคมสมัยใหม่เป็นหนี้มันเป็นอยู่ที่ดีให้กับมัน - ดังนั้น
มันเป็นเรื่องโง่มากที่จะคิดว่าทั้งหมดมันทิ้ง (แอตกินสัน, 1991a: 154) กับแรงกดดัน
สำหรับวิธีการแบบองค์รวมและดอกเบี้ยที่นิยมในหลอกวิทยาศาสตร์และป้องกันทางวิทยาศาสตร์
ทฤษฎีที่นำเสนอโดยทั่วไปสื่อที่เป็นจริง, การดูแลเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อให้การสนับสนุนที่
วิทยาศาสตร์ไม่ได้กัดเซาะ ความดันนิยมนอกจากนี้ยังมีแนวโน้มที่จะเป็นแม่เหล็กการสนับสนุนสำหรับการวิจัย
- บางสาขามีความน่าสนใจให้กับประชาชนและนักการเมืองและอื่น ๆ (ถึงแม้ว่าพวกเขา
อาจจะมีความสำคัญ) ไม่ได้ ความดันก็คือความต้องการเพิ่มขึ้นและทำให้การระดมทุน
สำหรับการวิจัยประยุกต์มากกว่าการศึกษาเป็นสิ่งที่ไม่มีผลในทางปฏิบัติอย่างเห็นได้ชัด