The study is undertaken to determin

The study is undertaken to determine the adulticidal efficacy and repellent activity of different solvent extracts of Ocimum caninum, Ocimum gratissimum, Chromolaena odorata and Datura stramonium against adult Anopheles gambiae. The extracts showed adulticidal activity at LC50 (0.82–4.58 mg/l) and LC90 (2.38–8.33 mg/l). The highest mortality was observed in Ocimum gratissimum and Datura stramonium with the LC50 and LC90 values of 2.35 mg/l, 4.75 ml/l and 0.82 mg/l, 2.38 mg/l respectively. Meanwhile, the lowest adulticidal activity was recorded in Chromolaena odorata with the lowest LC50 (4.52 mg/l) and LC90 (8.32 mg/l). The repellent efficacy was determined against the mosquitoes at five concentrations viz 1.0, 2.0, 3.0, 4.0 and 5.0 mg/l under laboratory condition (28 ± 2 C, 75 ± 5% RH, 12L: 12D photope- riod). The results showed complete protections of 90 min for Ocimum caninum, 120 min for Ocimum gratissimum, 30 min for Chromolaena odorata and 120 min for Datura stramonium at 5 mg/l of the extracts respectively. It was observed that D. stramonium and O. gratissimum provided highest protection (120 min) against Anopheles gambiae while the least protection (30 s) was observed in Chromolaena odor- ata at 5 mg/l. The results of the study showed that all the crude extracts with the exception of Chromolaena odorata were potential botanicals for confirming protection on the exposed parts of human body against Anopheles gambiae for at least 90 min and as such can be included in integrated vector man- agement to reduce malaria infection in endemic areas.! 2017 Beni-Suef University. Production and hosting by Elsevier B.V. This is an open access article under the CC BY-NC-ND license (http://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0/).

Results (Thai) 1:

The study is undertaken to determine the adulticidal efficacy and repellent activity of different solvent extracts of Ocimum caninum, Ocimum gratissimum, Chromolaena odorata and Datura stramonium against adult Anopheles gambiae. The extracts showed adulticidal activity at LC50 (0.82–4.58 mg/l) and LC90 (2.38–8.33 mg/l). The highest mortality was observed in Ocimum gratissimum and Datura stramonium with the LC50 and LC90 values of 2.35 mg/l, 4.75 ml/l and 0.82 mg/l, 2.38 mg/l respectively. Meanwhile, the lowest adulticidal activity was recorded in Chromolaena odorata with the lowest LC50 (4.52 mg/l) and LC90 (8.32 mg/l). The repellent efficacy was determined against the mosquitoes at five concentrations viz 1.0, 2.0, 3.0, 4.0 and 5.0 mg/l under laboratory condition (28 ± 2 C, 75 ± 5% RH, 12L: 12D photope- riod). The results showed complete protections of 90 min for Ocimum caninum, 120 min for Ocimum gratissimum, 30 min for Chromolaena odorata and 120 min for Datura stramonium at 5 mg/l of the extracts respectively. It was observed that D. stramonium and O. gratissimum provided highest protection (120 min) against Anopheles gambiae while the least protection (30 s) was observed in Chromolaena odor- ata at 5 mg/l. The results of the study showed that all the crude extracts with the exception of Chromolaena odorata were potential botanicals for confirming protection on the exposed parts of human body against Anopheles gambiae for at least 90 min and as such can be included in integrated vector man- agement to reduce malaria infection in endemic areas.
! 2017 มหาวิทยาลัย Beni-Suef การผลิตและโฮสติ้งโดย Elsevier BV นี้เป็นบทความการเข้าถึงเปิดภายใต้ CC BY-NC-ND ใบอนุญาต (http://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0/)

Results (Thai) 2:

การศึกษาที่มีดำเนินการเพื่อตรวจสอบประสิทธิภาพการทำงานของ adulticidal และกิจกรรมขับไล่ของสารสกัดจากตัวทำละลายที่แตกต่างกันของการเป็นโรคกระดูกสันหลัง, Ocimum สนอง, การทำงานของโครโมโซมและ Datura stramonium กับผู้ใหญ่ของ Anopheles gambiae. สารสกัดจากการแสดงกิจกรรม adulticidal ที่ LC50 (0.82 –4.58 มิลลิกรัม/ลิตร) และ LC90 (2.38 – 8.33 mg/l). ความตายสูงสุดได้รับการปฏิบัติใน Ocimum สนองและ Datura stramonium กับ LC50 และ LC90 ค่าของ๒.๓๕ mg/l, ๔.๗๕ ml/l และ๐.๘๒ mg/l, ๒.๓๘ mg/l ตามลำดับ. ในขณะเดียวกัน, กิจกรรมที่ต่ำที่สุดที่ถูกบันทึกไว้ในโครโมโซม LC50 ที่ต่ำที่สุด (๔.๕๒ mg/l) และ LC90 (๘.๓๒ mg/l). ประสิทธิภาพการขับไล่ถูกกำหนดกับยุงที่ห้าความเข้มข้น viz ๑.๐, ๒.๐, ๓.๐, ๔.๐และ๕.๐ mg/l ภายใต้สภาพห้องปฏิบัติการ (28 ± 2 C, ๗๕± 5% RH, 12L: 12l-riod) ผลที่ได้แสดงให้เห็นถึงการป้องกันที่สมบูรณ์ของ๙๐นาทีสำหรับ Ocimum caninum, ๑๒๐นาทีสำหรับการ Ocimum สนอง, 30 นาทีสำหรับการมีกลิ่นของโครโมโซมและ๑๒๐นาทีสำหรับ Datura ที่5มิลลิกรัม/ลิตรของสารสกัดตามลำดับ. พบว่า stramonium และโอ.. สนองความคุ้มครองสูงสุด (๑๒๐นาที) กับ Anopheles gambiae ในขณะที่การป้องกันน้อย (30 s) ได้รับการสังเกตในกลิ่นของโครโมโซม-ata ที่5มก./ลิตร. ผลของการศึกษาแสดงให้เห็นว่าสารสกัดจากน้ำมันดิบทั้งหมดที่มีข้อยกเว้นของโครโมโซมยาที่มีศักยภาพในการตรวจสอบการป้องกันในส่วนที่สัมผัสของร่างกายมนุษย์กับ Anopheles gambiae อย่างน้อย๙๐นาทีและเช่นนี้สามารถรวมอยู่ในเวกเตอร์แบบบูรณาการคนความท้อแท้เพื่อลดการติดเชื้อโรคมาลาเรียในพื้นที่ระบาด.
! ๒๐๑๗มหาวิทยาลัยเบนิ การผลิตและการจัดงานโดย Elsevier B.V. นี่คือบทความที่เปิดการเข้าถึงภายใต้ใบอนุญาต CC BY-NC (http://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0/)

Results (Thai) 3:

ฆ่าผลและหลีกเลี่ยงกิจกรรมของยุงก้นปล่องผู้ใหญ่ในแกมเบียโดยการสกัดด้วยตัวทำละลายที่แตกต่างกันของใบโหระพาใบโหระพาและแมนโดลินในสุนัขที่ศึกษาในงานวิจัยนี้ สารสกัดมีฤทธิ์ฆ่าไรภายใต้ 0.82-4.58 mg-l และ 2.38-8.33 มก. อัตราการเสียชีวิตของใบโหระพาและ mandrakes สูงสุดและ lc50 lc90 เป็น 2.35mg 、 L 、 4.75ml 、 L และ 0.82mg 、 L 、 2.2.38mg ตามลำดับ ในขณะเดียวกันต่ำสุดของ lc50 และ lc90 เป็นกลิ่นใบไม้เปลี่ยนสี ผลของความเข้มข้นของ 1.0.2.0 、 3.0 、 4.0 、 4.0 、 5.0mg และห้าชนิดของความเข้มข้นในการควบคุมยุงถูกวัดในห้องปฏิบัติการ ผลการศึกษาพบว่าสารสกัดจาก 5mg-l 90min ใบโหระพา 120min กว้างใบโหระพาเม็ดสีเหม็น 30min และมีฟังก์ชันป้องกันที่สมบูรณ์แบบ ผลการศึกษาพบว่าผลการป้องกันที่แข็งแกร่งที่สุดของยุงก้นปล่องในแกมเบียและผลการป้องกันที่น้อยที่สุดของยุงก้นปล่องสีเหม็นยกเว้นยุงก้นปล่องและสารสกัดหยาบอื่นๆที่มีศักยภาพ การป้องกันของแกมเบียยุงก้นปล่องอย่างน้อยเก็บนาทีในพื้นที่สัมผัสของมนุษย์จึงสามารถรวมอยู่ในการจัดการสื่อที่ครอบคลุมเพื่อลดการติดเชื้อมาลาเรียในพื้นที่ระบาด
นี่ มหาวิทยาลัยเบนี่ซูฟ มันถูกสร้างขึ้นและเชื่อถือได้โดย elsevier-b.v นี่คือการเปิดการเข้าถึงบทความที่เขียนขึ้นบนพื้นฐานของ CC โดย http-nc-nd อนุญาตให้สร้างสรรค์คณะกรรมการองค์กรโดย nc-nd4.0 และเขียนตาม