The 11th and 12th centuries witness

The 11th and 12th centuries witnessed an explosion of building in medieval Europe, especially building of churches.

The cathedrals of the 11th/12th centuries were built in Romanesque style.
Romanesque churches were normally built in the basilica shape used in the construction of churches in the late Roman Empire.
Basilicas were rectangular buildings with flat wooden roofs.
Romanesque builders replaced the basilica’s flat wooden roof with a long, round stone arched vault (called a barrel vault) or with a cross vault, in which 2 barrel vaults intersected.

Because stone roofs were extremely heavy, Romanesque churches required massive pillars and walls to hold them up.

This left little space for windows, so Romanesque churches were dark on the inside and with massive walls and pillars these churches resembled fortresses.

A new style, called Gothic, appeared in the 12th century and was brought to perfection in the 13th.

The Gothic cathedral remains one of the greatest artistic triumphs of the High Middle Ages.

2 basic innovations made Gothic cathedrals possible.

Results (Thai) 1:

ศตวรรษ 11 และ 12 เห็นการระเบิดของอาคารในยุโรปยุคกลาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาคารโบสถ์วิหารสมัยศตวรรษ 11/12 ถูกสร้างขึ้นในสไตล์โรมันมีสร้างโบสถ์โรมาเนสก์ขึ้นปกติรูปโบสถ์ที่ใช้ในการก่อสร้างโบสถ์ในช่วงปลายอาณาจักรโรมันBasilicas อาคารสี่เหลี่ยม มีหลังคาแบนไม้ได้โรมาเนสก์สร้างแทนหลังคาแบนไม้ของโบสถ์กับยาว รอบหินเพดานโค้งมน (เรียกว่าเพดานบาร์เรล) หรือ เพดานการข้าม vaults บาร์เรล 2 ระดับเนื่องจากหลังคาหินได้หนักมาก โรมันโบสถ์จำเป็นเสาขนาดใหญ่และผนังคานนั้นพื้นที่เล็ก ๆ นี้ซ้ายสำหรับ windows เพื่อคริสตจักรโรมันมามืดภายใน และ มีขนาดใหญ่ผนังและเสา โบสถ์เหล่านี้คล้ายกับ fortressesแบบใหม่ เรียกว่า Gothic ปรากฏในศตวรรษ 12 และได้นำความสมบูรณ์แบบใน 13โบสถ์โกธิคยังคง triumphs ศิลปะยิ่งใหญ่ที่สุดของสูงยุคกลางนวัตกรรม 2 พื้นฐานทำมหาวิหารศิลปะกอธิคไป

Results (Thai) 2:

ศตวรรษที่ 11 และ 12 ร่วมเป็นสักขีพยานการระเบิดของอาคารในยุโรปยุคกลางโดยเฉพาะอย่างยิ่งการสร้างคริสตจักร. มหาวิหารของ 11 / ศตวรรษที่ 12 ถูกสร้างขึ้นในสไตล์โรมัน. คริสตจักรโรมันที่ถูกสร้างขึ้นตามปกติในรูปทรงที่มหาวิหารที่ใช้ในการก่อสร้างของคริสตจักรใน ปลายจักรวรรดิโรมัน. มหาวิหารเป็นอาคารรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าที่มีหลังคาไม้แบน. ผู้สร้างโรมันแทนที่หลังคาไม้มหาวิหารแบนที่มีความยาวรอบหลุมฝังศพโค้งหิน (เรียกว่าถังใต้ดิน) หรือที่มีหลุมฝังศพข้ามที่ 2 ถังใต้ดิน intersected. เพราะหิน หลังคาหนักมากคริสตจักรโรมันต้องเสาขนาดใหญ่และผนังที่จะถือพวกเขาขึ้น. นี้เหลือพื้นที่น้อยสำหรับ Windows, คริสตจักรโรมันจึงมืดในภายในและกับผนังขนาดใหญ่และเสาโบสถ์เหล่านี้คล้ายกับป้อมปราการ. รูปแบบใหม่ที่เรียกว่ากอธิค ปรากฏตัวขึ้นในศตวรรษที่ 12 และถูกนำมาเพื่อความสมบูรณ์แบบในวันที่ 13. โบสถ์กอธิคยังคงเป็นหนึ่งในชัยชนะที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของศิลปะสูงยุคกลาง. 2 นวัตกรรมพื้นฐานทำให้มหาวิหารแบบกอธิคที่เป็นไปได้

Results (Thai) 3:

หลังจากการเก็บรวบรวมข้อมูล nvivo ถูกใช้เพื่อเตรียมข้อมูลสำหรับการวิจัยเชิงคุณภาพการวิเคราะห์ สามเทคนิคการวิเคราะห์ที่ใช้ในการศึกษานี้ : การจับคู่รูปแบบการเข้ารหัสข้อความบรรยาย และตรรกะในรูปแบบแผนที่ เทคนิคการจับคู่รูปแบบถูกใช้เพื่อนำมาวางข้างๆกันเพื่อเปรียบเทียบการรับรู้ของผู้รับการฝึกอบรมกับศักยภาพที่ระบุถึงการทบทวนวรรณกรรม หลังจากนั้น ข้อมูลถูกจัด typologically ใช้เรื่องเล่าวิธีการเขียนข้อความเพื่อตรวจสอบว่าผู้เข้ารับการฝึกอบรมได้ การรับรู้ของพวกเขา ตรรกะเทคนิคการทำแผนที่แบบที่ถูกใช้ในการระบุช่องว่างของความรู้และเป็นไปได้ทักษะ possessed โดยการฝึกอบรมในการผลิตของพวกเขา gbl .