What happened to the lost colony at

What happened to the lost colony at Roanoke?

It must have been unnervingly quiet as John White made his way through the abandoned settlement at Roanoke in 1587. In the three years since he'd left, the colonists on Roanoke Island had vanished without a trace. What horrors had taken place here? Where had his family and the others gone?

What had once been a settlement of two-story, thatched-roof cottages was lost. The first seed of English presence in the New World, given purchase through the efforts of 117 people, had been uprooted inexplicably. In its place, a husk remained. The houses had all been taken down. A roughly built fort surrounding the former settlement was all that signaled the former presence of the colonists. And on a post was carved one of only two clues: the word "CROATOAN." On another tree, White found the carving "CRO."

That was it. The small cannons and boats that should have been situated at the nearby bay were gone. Chests with drawings, maps and books that White had buried nearby years earlier were torn apart and ruined by weather. There were no bones, no corpses -- no evidence one way or another to show what had befallen the colonists, save for the evidence provided by their hastily assembled fortress. These 117 people were lost forever, never to be heard from again.

This group of settlers, called planters in the English vernacular of the age, came to be known as the lost colony of Roanoke. The shroud of mystery surrounding their fate has kept them alive in the annals of U.S. history as much as the successful colonies that followed.

There were two expeditions to Roanoke before what would become the lost colony was established in 1587. The first was exploratory, the second (in 1585) consisted of 100 men who lived on the island for 10 months before returning to England. These early expeditions quickly deteriorated any initial warm feelings the Native Americans had toward the English. The settlers routinely kidnapped local tribal leaders and held them for ransom, despite relying on these "savages" for food and supplies [source: Lane].

When the 100 men left the 1585 Roanoke colony, it was due to constant threat of attack and waning food. Had they stayed for two more weeks, the men would've received supplies from England. A ship arrived and, finding the colony deserted, left behind 15 soldiers to maintain an English presence in the New World until another group of colonists could be brought.

This next group would become the lost colony of Roanoke. The 1587 settler population included women and children and looked much more like later successful colonies. Their arrival at Roanoke was an inauspicious one: They found the settlement abandoned and in shambles. The bones of one of the 15 soldiers there before them were the only physical evidence of what had befallen the previous settlers.

When the 100 men left the 1585 Roanoke colony, it was due to constant threat of attack and waning food. Had they stayed for two more weeks, the men would've received supplies from England. A ship arrived and, finding the colony deserted, left behind 15 soldiers to maintain an English presence in the New World until another group of colonists could be brought.

This next group would become the lost colony of Roanoke. The 1587 settler population included women and children and looked much more like later successful colonies. Their arrival at Roanoke was an inauspicious one: They found the settlement abandoned and in shambles. The bones of one of the 15 soldiers there before them were the only physical evidence of what had befallen the previous settlers.

Led by Gov. John White (who'd been a member of the 1585 colony), these fresh colonists sought to carve out a life on the North Carolina island. They managed to turn the tide of bad relations with one nearby tribe, Powhatans living on Croatoan Island. The other tribes in the area maintained their distance. This left the colonists dependent on supplies from England, and in August 1587, Gov. White left to gather more provisions. When he returned, he found that the colony -- including his daughter, son-in-law and granddaughter (Virginia Dare, the first English child born in North America) -- was gone.


The carved word "CROATOAN" was an obvious clue. Perhaps the colonists had moved in search of protection or a steady food supply from the Powhatans. It appeared they hadn't left under duress; there were no Maltese crosses carved anywhere, the agreed-upon signal the colonists would use to indicate that danger had befallen them [source: NC State Library].

A knight of the order of Malta, bearing the cross that Roanoke colonists used to indicate distress.

Results (Thai) 1:

เกิดอะไรขึ้นกับอาณานิคมสูญหายใน Roanokeมันมี unnervingly เงียบจอห์นไวท์ทำทางของเขาผ่านการชำระร้างใน Roanoke ค.ศ. 1587 ใน 3 ปี นับตั้งแต่ที่เขาได้จากไป อาณานิคมบนเกาะ Roanoke มีศาสดาร่องรอย ความน่ากลัวอะไรได้เกิดขึ้นที่นี่ ซึ่งครอบครัวของเขาและคนอื่น ๆ หายไปไหนเมื่อรับชำระเงินบ้านสองชั้น หลังคามุงจากหายไป เมล็ดแรกอยู่ที่อังกฤษในโลกใหม่ รับซื้อ ด้วยความพยายามของคน 117 สุขภาพและได้มีการถอนรากถอนโคน ในสถานที่ แกลบที่ยังคง บ้านได้ทั้งหมดถูกนำลง รอบการชำระอดีตป้อมปราการสร้างขึ้นประมาณที่สัญญาณจากอาณานิคมที่ตัวเดิมได้ โพสต์ถูกแกะสลักหนึ่งเพียงสองปม: คำว่า "CROATOAN" บนต้นไม้อื่น ขาวพบแกะสลัก "โครสปลิต"ที่มา ปืนใหญ่ขนาดเล็กและเรือที่ควรที่เบย์ใกล้เคียงถูกหายไป ทรวงอกที่ มีรูปวาด แผนที่ และหนังสือที่มีฝังสีขาวใกล้เคียงปีก่อนถูกทุบกัน และเจ๊ง โดยสภาพอากาศ ไม่มีกระดูก ศพไม่มี - ไม่มีหลักฐานทางเดียวหรืออื่นเพื่อแสดงสิ่งมี befallen อาณานิคม บันทึกสำหรับหลักฐานโดยป้อมรีบประกอบของพวกเขา 117 คนเหล่านี้ได้หายไปตลอดกาล ไม่เคยจะได้ยินจากอีกครั้งกลุ่มนี้เรียกว่าแพลนเตอร์ใน vernacular อังกฤษ อายุ การออกไปตั้งถิ่นฐานมาเป็นอาณานิคมสูญหายของ Roanoke ผ้าห่อศพของลึกลับรอบชะตากรรมของพวกมีเก็บพวกเขามีชีวิตอยู่ในประวัติศาสตร์ของประวัติศาสตร์สหรัฐอเมริกามากเป็นอาณานิคมประสบความสำเร็จที่ตามมามีสองนิการ Roanoke ก่อนเป็นอาณานิคมสูญเสียก่อตั้งขึ้นในปี ครั้งแรกสำรวจ ที่สอง (ใน 1585) ประกอบด้วย 100 ชายผู้ใช้ชีวิตบนเกาะ 10 เดือนก่อนกลับไปอังกฤษ เดินทางช่วงต้นเหล่านี้ได้อย่างรวดเร็วเสื่อมโทรมใด ๆ ความรู้สึกอบอุ่นเริ่มต้นที่ชาวอเมริกันพื้นเมืองที่มีต่อภาษาอังกฤษ ที่ตั้งถิ่นฐานลักพาตัวผู้นำชนเผ่าท้องถิ่นเป็นประจำ และจัดขึ้นเพื่อเรียกค่าไถ่ แม้มี "ป่า" เหล่านี้ที่อาศัยอาหารและอุปกรณ์ [แหล่งที่มา: เลน]เมื่อผู้ชาย 100 ซ้ายฝูง Roanoke 1585 ก็เนื่องจากการคุกคามโจมตีและอาหารข้างคง พวกเขามาพัก 2 สัปดาห์เพิ่มเติม ผู้ชายจะได้รับอุปกรณ์จากอังกฤษ เรือมา แล้ว หาอาณานิคมร้าง ทิ้งทหาร 15 เพื่อรักษาสถานะการภาษาอังกฤษในโลกใหม่จนกระทั่งสามารถนำกลุ่มอื่นของอาณานิคมกลุ่มนี้ต่อไปจะกลายเป็น อาณานิคมสูญหายของ Roanoke ประชากร settler 1587 รวมผู้หญิงและเด็ก และดูมากเช่นอาณานิคมประสบความสำเร็จในภายหลัง เดินทางมาถึงใน Roanoke แก้ไขเป็นส่วนหนึ่ง inauspicious: พวกเขาพบการชำระเงินทิ้ง และ ในโรงฆ่าสัตว์ กระดูกของทหาร 15 มีก่อนที่พวกเขาอย่างใดอย่างหนึ่งมีหลักฐานทางกายภาพเฉพาะของสิ่งมี befallen ที่ตั้งถิ่นฐานก่อนหน้านี้เมื่อผู้ชาย 100 ซ้ายฝูง Roanoke 1585 ก็เนื่องจากการคุกคามโจมตีและอาหารข้างคง พวกเขามาพัก 2 สัปดาห์เพิ่มเติม ผู้ชายจะได้รับอุปกรณ์จากอังกฤษ เรือมา แล้ว หาอาณานิคมร้าง ทิ้งทหาร 15 เพื่อรักษาสถานะการภาษาอังกฤษในโลกใหม่จนกระทั่งสามารถนำกลุ่มอื่นของอาณานิคมกลุ่มนี้ต่อไปจะกลายเป็น อาณานิคมสูญหายของ Roanoke ประชากร settler 1587 รวมผู้หญิงและเด็ก และดูมากเช่นอาณานิคมประสบความสำเร็จในภายหลัง เดินทางมาถึงใน Roanoke แก้ไขเป็นส่วนหนึ่ง inauspicious: พวกเขาพบการชำระเงินทิ้ง และ ในโรงฆ่าสัตว์ กระดูกของทหาร 15 มีก่อนที่พวกเขาอย่างใดอย่างหนึ่งมีหลักฐานทางกายภาพเฉพาะของสิ่งมี befallen ที่ตั้งถิ่นฐานก่อนหน้านี้นำ โดยกอฟเวอร์เมนท์โร้คอัลจอห์นไวท์ (ที่เคยเป็นสมาชิกของอาณานิคม 1585), อาณานิคมสดเหล่านี้พยายามที่จะแกะออกชีวิตบนเกาะนอร์ทแคโรไลนา พวกเขาจัดการเพื่อเปลี่ยนกระแสความสัมพันธ์ไม่ดีกับชนเผ่าหนึ่งใกล้เคียง Powhatans ที่อาศัยอยู่บนเกาะ Croatoan ชนเผ่าอื่น ๆ ในพื้นที่รักษาระยะทางของพวกเขา นี้ซ้ายขึ้นอาณานิคมบนวัสดุ จากประเทศอังกฤษ และ ใน 1587 สิงหาคม ซ้ายขาวกอฟเวอร์เมนท์โร้คอัลเพื่อรวบรวมบทบัญญัติเพิ่มเติม เมื่อเขากลับ เขาพบว่า หายไปทั้งฝูง -รวมทั้งลูกสาวของเขา ลูกเขย และหลาน (เวอร์จิเนียกล้า ภาษาอังกฤษเด็กแรกเกิดในอเมริกาเหนือ) -แกะสลักคำว่า "CROATOAN" คือ เบาะแสชัดเจน บางที 1600s อาณานิคมได้ย้ายในการค้นหาการป้องกันหรือเป็นแหล่งอาหารที่มั่นคงจากการ Powhatans มันดูเหมือนพวกเขาไม่ได้ทิ้งปลายกระบอกปืน มีไม้กางเขนมอลตาไม่แกะสลักทุก ยอมรับเมื่อสัญญาณอาณานิคมที่จะใช้เพื่อบ่งชี้อันตรายที่มี befallen [แหล่งที่มา: ห้องสมุดรัฐ NC]อัศวินเครื่องราชอิสริยาภรณ์มอลตา แบกกางเขนที่อาณานิคม Roanoke ใช้เพื่อบ่งชี้ความทุกข์

Results (Thai) 2:

เกิดอะไรขึ้นกับอาณานิคมหายไปในโน๊ค?

มันต้องได้รับเงียบ unnervingly เป็นจอห์นสีขาวทำทางของเขาผ่านการตั้งถิ่นฐานที่ถูกทอดทิ้งในโน๊ค 1587. ในช่วงสามปีนับตั้งแต่ที่เขาซ้ายอาณานิคมบนเกาะโน๊คก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย . ความน่ากลัวในสิ่งที่เกิดขึ้นที่นี่? ที่มีครอบครัวและคนอื่น ๆ ของเขาหายไปไหน?

สิ่งที่ครั้งหนึ่งเคยตั้งถิ่นฐานของสองชั้นกระท่อมหลังคามุงจากที่หายไป เมล็ดพันธุ์ครั้งแรกของการแสดงตนเป็นภาษาอังกฤษในโลกใหม่ที่ได้รับการสั่งซื้อผ่านความพยายามของ 117 คนได้รับการถอนรากถอนโคนอย่างลึกลับ ในสถานที่ที่เป็นแกลบยังคงอยู่ บ้านที่ได้รับทั้งหมดนำมาลง สร้างขึ้นประมาณป้อมรอบนิคมอดีตเป็นสิ่งที่ส่งสัญญาณการปรากฏตัวของอดีตอาณานิคม และในโพสต์ถูกแกะสลักหนึ่งในสองปม ". CROATOAN" คำว่า บนต้นไม้อีกสีขาวพบแกะสลัก "CRO."

ที่มัน ปืนใหญ่ขนาดเล็กและเรือที่ควรได้รับอยู่ที่อ่าวอยู่บริเวณใกล้เคียงก็หายไป ทรวงอกที่มีภาพวาดแผนที่และหนังสือที่ได้ฝังอยู่บริเวณใกล้เคียงปีก่อนหน้านี้สีขาวถูกฉีกขาดออกจากกันและทำลายจากสภาพอากาศ ไม่มีหลักฐานหรืออีกวิธีหนึ่งที่จะแสดงสิ่งที่ได้เกิดขึ้นแก่ชาวอาณานิคมบันทึกหลักฐานที่ได้รับจากป้อมปราการประกอบเร่งรีบของพวกเขา - มีกระดูกไม่มีศพอยู่ เหล่านี้ 117 คนได้หายไปตลอดกาลไม่เคยที่จะได้ยินจากเขาอีก.

กลุ่มนี้เข้ามาตั้งถิ่นฐานที่เรียกว่าเครื่องปลูกในพื้นถิ่นภาษาอังกฤษอายุมาเป็นที่รู้จักในฐานะอาณานิคมที่หายไปของโน๊ค ผ้าห่อศพแห่งความลึกลับรอบชะตากรรมของพวกเขาได้เก็บพวกเขามีชีวิตอยู่ในพงศาวดารของประวัติศาสตร์ของสหรัฐมากที่สุดเท่าที่ประสบความสำเร็จอาณานิคมที่ตาม.

มีสองเดินทางไปโน๊คเขาก่อนที่จะกลายเป็นอาณานิคมหายก่อตั้งขึ้นในปี 1587. เป็นครั้งแรกที่การสอบสวนที่ สอง (ใน 1585) ประกอบไปด้วย 100 คนที่อาศัยอยู่บนเกาะนาน 10 เดือนก่อนที่จะกลับไปยังประเทศอังกฤษ การเดินทางในช่วงต้นเหล่านี้ได้อย่างรวดเร็วเสื่อมโทรมความรู้สึกอบอุ่นใด ๆ เริ่มต้นชาวพื้นเมืองอเมริกันที่มีต่อภาษาอังกฤษ ผู้ตั้งถิ่นฐานประจำลักพาตัวหัวหน้าเผ่าในท้องถิ่นและจัดให้พวกเขาเพื่อเรียกค่าไถ่แม้จะอาศัยเหล่านี้ "คนป่า" สำหรับอาหารและวัสดุสิ้นเปลือง [ที่มา: เลน].

เมื่อ 100 คนเหลือ 1,585 โน๊คอาณานิคมมันเป็นเพราะการคุกคามของการโจมตีและข้างแรม อาหาร. พวกเขาอยู่ได้เป็นเวลาสองสัปดาห์มากขึ้นคนจะได้รับอุปกรณ์จากประเทศอังกฤษ เรือมาถึงและหาอาณานิคมร้างทิ้งไว้ข้างหลังทหาร 15 นายในการรักษานำเสนอเป็นภาษาอังกฤษในโลกใหม่จนกว่ากลุ่มอาณานิคมอื่นอาจถูกนำ.

กลุ่มนี้ต่อไปจะกลายเป็นอาณานิคมที่หายไปของโน๊ค ประชากรไม้ตาย 1587 รวมถึงผู้หญิงและเด็กและมองมากขึ้นเช่นอาณานิคมที่ประสบความสำเร็จในภายหลัง การมาถึงของพวกเขาที่โน๊คเป็นหนึ่งไม่เป็นมงคล: พวกเขาพบว่าการตั้งถิ่นฐานและการถูกทอดทิ้งในโรงฆ่าสัตว์ กระดูกของหนึ่งในทหารที่ 15 ก่อนที่จะมีพวกเขาเป็นเพียงหลักฐานทางกายภาพของสิ่งที่ได้เกิดขึ้นมาตั้งถิ่นฐานก่อนหน้านี้.

เมื่อ 100 คนเหลือ 1,585 โน๊คอาณานิคมมันเป็นเพราะการคุกคามของการโจมตีและอาหารลดลง พวกเขาอยู่ได้เป็นเวลาสองสัปดาห์มากขึ้นคนจะได้รับอุปกรณ์จากประเทศอังกฤษ เรือมาถึงและหาอาณานิคมร้างทิ้งไว้ข้างหลังทหาร 15 นายในการรักษานำเสนอเป็นภาษาอังกฤษในโลกใหม่จนกว่ากลุ่มอาณานิคมอื่นอาจถูกนำ.

กลุ่มนี้ต่อไปจะกลายเป็นอาณานิคมที่หายไปของโน๊ค ประชากรไม้ตาย 1587 รวมถึงผู้หญิงและเด็กและมองมากขึ้นเช่นอาณานิคมที่ประสบความสำเร็จในภายหลัง การมาถึงของพวกเขาที่โน๊คเป็นหนึ่งไม่เป็นมงคล: พวกเขาพบว่าการตั้งถิ่นฐานและการถูกทอดทิ้งในโรงฆ่าสัตว์ กระดูกของหนึ่งในทหารที่ 15 ก่อนที่จะมีพวกเขาเป็นเพียงหลักฐานทางกายภาพของสิ่งที่ได้เกิดขึ้นมาตั้งถิ่นฐานก่อนหน้านี้.

นำโดยรัฐบาลจอห์สีขาว (ที่เคยเป็นสมาชิกของอาณานิคม 1585) อาณานิคมสดเหล่านี้พยายามที่จะแกะสลักออก ชีวิตบนเกาะนอร์ทแคโรไลนา พวกเขาพยายามที่จะเปลี่ยนกระแสของความสัมพันธ์ที่ไม่ดีกับชนเผ่าที่อยู่ใกล้เคียงหนึ่ง Powhatans อาศัยอยู่บนเกาะ Croatoan ชนเผ่าอื่น ๆ ในพื้นที่การบำรุงรักษาระยะห่างของพวกเขา ที่นี่จากอาณานิคมขึ้นอยู่กับวัสดุจากประเทศอังกฤษและในสิงหาคม 1587, รัฐบาลสีขาวด้านซ้ายเพื่อรวบรวมบทบัญญัติเพิ่มเติม เมื่อเขากลับมาเขาพบว่าอาณานิคม - รวมทั้งลูกสาวลูกชายเขยและหลาน (เวอร์จิเนียกล้าเด็กภาษาอังกฤษคนแรกที่เกิดในอเมริกาเหนือ) -. ก็หายไป


แกะสลักคำว่า "CROATOAN" เป็นเบาะแสที่ชัดเจน . บางทีอาจจะเป็นอาณานิคมได้ย้ายในการค้นหาของการป้องกันหรือการจัดหาอาหารที่มั่นคงจาก Powhatans มันดูเหมือนว่าพวกเขาไม่ได้ทิ้งภายใต้การข่มขู่; ไม่มีไม้กางเขนมอลตาแกะสลักทุกที่ที่ตกลงกันสัญญาณอาณานิคมจะใช้ในการแสดงให้เห็นว่าอันตรายเกิดขึ้นแก่พวกเขา [ที่มา: NC หอสมุดรัฐ].

อัศวินของคำสั่งของมอลตาแบกกางเขนที่อาณานิคมโน๊คมาใช้เพื่อระบุความทุกข์ .

Results (Thai) 3:

เกิดอะไรขึ้นกับสูญเสียอาณานิคมในโรอาโนค ?มันต้องมี unnervingly เงียบเป็นจอขาวทำให้ทางของเขาผ่านทิ้งนิคมที่โน๊คใน 1587 . ในช่วงสามปี ตั้งแต่ที่เขาจากไป อาณานิคมบนเกาะโน๊คได้หายไปอย่างไร้ร่องรอย สิ่งที่น่ากลัวได้เกิดขึ้นที่นี่ ที่ครอบครัวของเขาและคนอื่นแล้วสิ่งที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นถิ่นฐานของสองชั้นกระท่อมหลังคามุงจากหายไป เม็ดแรกของการแสดงตนของภาษาอังกฤษในโลกใหม่ ให้ซื้อผ่านความพยายามของผู้คนได้ถูก uprooted ลึกลับ . ในสถานที่ , แกลบอยู่ บ้านทั้งหมดถูกนำมาลง อย่างคร่าว ๆ สร้างป้อมรอบนิคม อดีตคือทั้งหมดที่แสดงสถานะของอดีตอาณานิคม และในกระทู้ที่แกะสลักหนึ่งในเพียงสองประเด็น : คำว่า " โครโทน " บนต้นไม้อื่น ขาวพบแกะสลัก " โคล "นั่นมัน ปืนใหญ่ขนาดเล็กและเรือที่ควรจะตั้งอยู่ที่อ่าวใกล้เคียงไปแล้ว หีบที่มีภาพวาดแผนที่และหนังสือที่มีสีขาว ฝังปีใกล้เคียงก่อนหน้านี้ถูกฉีกขาดออกจากกันและทำลายโดยสภาพอากาศ ไม่มีกระดูก ไม่มีศพ ไม่มีหลักฐาน หรืออีกวิธีหนึ่งที่จะแสดงสิ่งที่เกิดขึ้นกับอาณานิคม ช่วยให้หลักฐานโดยพวกเขารีบประกอบป้อมปราการ เหล่านี้ผู้คนหายไปตลอดกาล ไม่เคยที่จะได้ยินจากอีกครั้งกลุ่มนี้ตั้งถิ่นฐานที่เรียกว่าชาวสวนในพื้นถิ่น ภาษาอังกฤษ ของอายุ ก็จะเรียกว่าสูญเสียอาณานิคมโรอาโนค . ตราสังของความลึกลับรอบโชคชะตาของพวกเขาทำให้พวกเขามีชีวิตอยู่ในพงศาวดารของประวัติศาสตร์อเมริกาเป็นอาณานิคมที่ประสบความสำเร็จตามมีอีกสองตัวที่จะได้ก่อนแล้วจะกลายเป็นเสียอาณานิคมที่ก่อตั้งขึ้นใน 1587 . ครั้งแรกเป็นเครื่องมือสอง ( ปลูกฝัง ) จำนวน 100 คน ที่อาศัยอยู่บนเกาะเป็นเวลา 10 เดือน ก่อนกลับมาอังกฤษ การเดินทางช่วงแรกเริ่มต้นใด ๆ เหล่านี้ได้อย่างรวดเร็ว เกิดความรู้สึกอบอุ่นชาวอเมริกันพื้นเมืองได้มีต่อภาษาอังกฤษ ตั้งถิ่นฐานประจำท้องถิ่น ผู้นำชนเผ่าหนึ่ง เขาถูกลักพาตัวไปเรียกค่าไถ่ แม้อาศัยเหล่านี้ " คนป่า " สำหรับอาหารและวัสดุ [ ที่มา : เลน ]เมื่อ 100 คนซ้ายปลูกฝังโรอาโน ก็เนื่องจากการคุกคามคงที่ของการโจมตี และ เสื่อมโทรม อาหาร มีพวกเขาอยู่อีกสองสัปดาห์ คนก็ได้รับพัสดุจากอังกฤษ เรือมาถึงและหาอาณานิคมร้าง ทิ้งไว้ 15 ทหารเพื่อรักษาสถานะภาษาอังกฤษในโลกใหม่จนกว่ากลุ่มอื่นของอาณานิคมสามารถนำมากลุ่มถัดไปนี้จะกลายเป็นสูญเสียอาณานิคมโรอาโนค . การ 1587 การตั้งถิ่นฐานประชากรรวมผู้หญิงและเด็กและมองมากขึ้นเช่นต่อมาอาณานิคมได้สำเร็จ พวกเขามาถึงในโรอาโนคเป็นอัปมงคล : พวกเขาพบการตั้งถิ่นฐานที่ถูกทอดทิ้งและยุ่งเหยิง กระดูกของหนึ่งใน 15 ทหารมีก่อนหน้านั้นเพียงหลักฐานทางกายภาพของสิ่งที่เกิดขึ้นกับการตั้งถิ่นฐานก่อนเมื่อ 100 คนซ้ายปลูกฝังโรอาโน ก็เนื่องจากการคุกคามคงที่ของการโจมตี และ เสื่อมโทรม อาหาร มีพวกเขาอยู่อีกสองสัปดาห์ คนก็ได้รับพัสดุจากอังกฤษ เรือมาถึงและหาอาณานิคมร้าง ทิ้งไว้ 15 ทหารเพื่อรักษาสถานะภาษาอังกฤษในโลกใหม่จนกว่ากลุ่มอื่นของอาณานิคมสามารถนำมากลุ่มถัดไปนี้จะกลายเป็นสูญเสียอาณานิคมโรอาโนค . การ 1587 การตั้งถิ่นฐานประชากรรวมผู้หญิงและเด็กและมองมากขึ้นเช่นต่อมาอาณานิคมได้สำเร็จ พวกเขามาถึงในโรอาโนคเป็นอัปมงคล : พวกเขาพบการตั้งถิ่นฐานที่ถูกทอดทิ้งและยุ่งเหยิง กระดูกของหนึ่งใน 15 ทหารมีก่อนหน้านั้นเพียงหลักฐานทางกายภาพของสิ่งที่เกิดขึ้นกับการตั้งถิ่นฐานก่อนนำโดย Gov . จอห์น ไวท์ ( ที่เคยเป็นสมาชิกของปลูกฝังอาณานิคม ) , อาณานิคมสดเหล่านี้พยายามแกะออกจากชีวิตในนอร์ทแคโรไลนาเกาะ พวกเขาจัดการเพื่อพลิกสถานการณ์ของความสัมพันธ์ที่เลวร้ายกับคนใกล้เคียง เผ่า powhatans อาศัยอยู่บนเกาะโครโทน ชนเผ่าอื่น ๆ ในพื้นที่การรักษาระยะห่างของพวกเขา นี้ออกจากอาณานิคมขึ้นอยู่กับวัสดุ จากอังกฤษ และในเดือนสิงหาคม 1587 Gov . สีขาว , ซ้ายเพื่อรวบรวมเสบียงเพิ่มเติม เมื่อเขากลับมา เขาพบว่าโคโลนี -- รวมทั้งลูกสาว ลูกเขย และหลานสาว ( เวอร์จิเนียกล้า , ภาษาอังกฤษเด็กแรกเกิดในทวีปอเมริกาเหนือ ) -- หายไปแกะสลักคำว่า " โครโทน " เป็นเบาะแสที่ชัดเจน บางทีอาณานิคมได้ย้ายในการค้นหาของการป้องกันหรือการจัดหามั่นคงอาหารจาก powhatans . มันดูเหมือนพวกเขาไม่ได้ออกจากปลายกระบอกปืน ; ไม่มีมอลตาข้ามแกะสลักทุกที่ที่ตกลงตามสัญญาณอาณานิคมจะใช้เพื่อระบุว่าอันตรายเกิดขึ้นกับพวกเขา [ ที่มา : NC รัฐห้องสมุด ]อัศวินของมอลตา , แบกกางเขนที่โน๊คอาณานิคมที่ใช้บ่งบอกความทุกข์