Preliminary analysis showed that 79

Preliminary analysis showed that 79.5% of Australian SMEs and 75.5% of Thai SMEs
reported using both financial and non financial metrics to measure their innovation
effectiveness. A further 17.7% of Australian respondents and 12.2% of Thai respondents
reported using only financial metrics to measure innovation effectiveness. Results also
indicated that 2.9% of Australian SMEs and 12.2% of Thai SMEs reported using only nonfinancial
metrics. Examination within the Australian sample found that the three most
commonly used metrics were: 1) customer satisfaction (non-financial metric); 2) sales and
sales growth (financial metric); and 3) return on investmenti (financial metric). The three
metrics that were most highly used among the Thai sample were 1) product/service quality
(non-financial metric); 2) sales and sales growth (financial metric); and 3) profit margin
(financial metric).
Although the sample size was limited, Eta squared (2 ), a measure of effect size, from our
study ranges in value from .06-.19 indicating medium to large effect sizes. Cohen (1988)
indicates guidelines for small (0.01), medium (0.06), and large (0.14) effect sizes, suggesting
that this data represents a substantive population.

Results (Thai) 1:

วิเคราะห์เบื้องต้นพบว่า 79.5% ของ SMEs ออสเตรเลียและ 75.5% ของ SMEs ไทยรายงานการใช้เงิน และไม่ใช่การเงินวัดวัดนวัตกรรมของพวกเขาประสิทธิผล เพิ่มเติม 17.7% ของผู้ตอบที่ออสเตรเลียและ 12.2% ของผู้ตอบที่ไทยรายงานใช้เฉพาะเงินวัดเพื่อวัดประสิทธิภาพของนวัตกรรม ผลยังบ่งชี้ที่ 2.9% ของ SMEs ออสเตรเลียและ 12.2% ของ SMEs ไทยรายงานใช้ nonfinancialวัด ตรวจสอบภายในอย่างออสเตรเลียพบว่าส่วนใหญ่สามเครื่องมือวัดที่ใช้กันทั่วไปมี: 1) ความพึงพอใจของลูกค้า (การวัด); 2 ขาย และขายเจริญเติบโต (วัดเงิน); และ 3) investmenti (วัดเงิน) คืน ทั้งสามวัดที่ใช้สูงสุดในไทยตัวอย่าง 1) คุณภาพผลิตภัณฑ์/บริการ(การวัด); ขาย 2) และเจริญเติบโตขาย (วัดเงิน); และ 3) กำไร(วัดเงิน)แม้ว่าขนาดตัวอย่างไม่จำกัด เอตากลอการิทึม (2), การวัดขนาดของผล จากของเราศึกษาช่วงค่าจาก.06-.19 แสดงขนาดผลปานกลางถึงขนาดใหญ่ โคเฮน (1988)บ่งชี้แนวทางสำหรับขนาดเล็ก (0.01), ปานกลาง (0.06), และ ขนาดผล (0.14) ใหญ่ แนะนำว่า ข้อมูลนี้แสดงถึงประชากรแน่น

Results (Thai) 2:

การวิเคราะห์เบื้องต้นพบว่า 79.5% ของผู้ประกอบการ SMEs ของออสเตรเลียและ 75.5% ของผู้ประกอบการ SMEs ไทย
รายงานการใช้ตัวชี้วัดทางการเงินทั้งทางการเงินและไม่ใช่การวัดนวัตกรรมของพวกเขา
ที่มีประสิทธิภาพ อีก 17.7% ของผู้ตอบแบบสอบถามของออสเตรเลียและ 12.2% ของผู้ตอบแบบสอบถามไทย
รายงานการใช้ตัวชี้วัดทางการเงินเท่านั้นที่จะวัดประสิทธิภาพนวัตกรรม ผลนอกจากนี้ยัง
ชี้ให้เห็นว่า 2.9% ของผู้ประกอบการ SMEs ของออสเตรเลียและ 12.2% ของผู้ประกอบการ SMEs ไทยรายงานโดยใช้ nonfinancial เพียง
ตัวชี้วัด การตรวจสอบภายในตัวอย่างออสเตรเลียพบว่าส่วนใหญ่สาม
ตัวชี้วัดที่ใช้กันทั่วไปคือ 1) ความพึงพอใจของลูกค้า (ตัวชี้วัดที่ไม่ใช่สถาบันการเงิน); 2) การขายและการ
เติบโตของยอดขาย (ตัวชี้วัดทางการเงิน); และ 3) ผลตอบแทนจากการ investmenti (ตัวชี้วัดทางการเงิน) สาม
ตัวชี้วัดที่มีการใช้มากที่สุดอย่างมากในหมู่คนไทยตัวอย่างคือ 1) สินค้า / บริการที่มีคุณภาพ
(ตัวชี้วัดที่ไม่ใช่สถาบันการเงิน); 2) การขายและการเติบโตของยอดขาย (ตัวชี้วัดทางการเงิน); และ 3) อัตรากำไรขั้นต้น
(ตัวชี้วัดทางการเงิน).
แม้ว่าขนาดของกลุ่มตัวอย่างที่ถูก จำกัด , Eta ยืด (2) วัดขนาดผลกระทบจากการที่เรา
ศึกษาในช่วงค่าจากกลางแสดงให้เห็น .06-.19 ขนาดผลขนาดใหญ่ โคเฮน (1988)
แสดงให้เห็นแนวทางในการขนาดเล็ก (0.01), ปานกลาง (0.06) และขนาดใหญ่ (0.14) ขนาดอิทธิพลบอก
ว่าข้อมูลนี้แสดงให้เห็นถึงจำนวนประชากรที่สำคัญ

Results (Thai) 3:

การวิเคราะห์ข้อมูลเบื้องต้น พบว่า มีค่าร้อยละ 75.5 จากออสเตรเลีย และผู้ประกอบการ SMEs ไทย
รายงานการใช้ทั้งทางการเงินและไม่ใช่การเงิน ตัวชี้วัดเพื่อวัดประสิทธิภาพนวัตกรรม
. อีก 17.7 % ของผู้ตอบแบบสอบถามในออสเตรเลียและ 12.2 % ของผู้ตอบแบบสอบถามใช้วัดไทย
รายงานทางการเงินเพื่อวัดประสิทธิภาพของนวัตกรรม การศึกษานี้ยังพบว่า SMEs
2.9% ของออสเตรเลียและ 122% ของ SMEs ไทยรายงานโดยใช้เพียงวัด nonfinancial

การตรวจสอบภายในออสเตรเลีย พบว่า ตัวอย่างส่วนใหญ่นิยมใช้ตัวชี้วัด 3
( 1 ) ความพึงพอใจของลูกค้า ( ไม่ใช่เมตริกตัน ) ; 2 ) การขายและการขายทางการเงิน ( เมตริกตัน )
; และ 3 ) ผลตอบแทน investmenti ทางการเงิน ( เมตริก ) 3
เมตริกที่ใช้ในไทยสูงที่สุด ตัวอย่าง ( 1 ) คุณภาพ
สินค้า / บริการ( ไม่ใช่ตัวชี้วัด ) 2 ) การขายและการขายทางการเงิน ( เมตริก ) และ 3 ) อัตรากำไรทางการเงิน ( เมตริกตัน )
.
แต่จำนวน จำกัด และ ธนาคาร (  2 ) การวัดขนาดของผลจากการศึกษาของเรา
ช่วงค่าจาก . 06 - 19 แสดงขนาดกลาง ขนาดผลใหญ่ โคเฮน ( 1988 )
บ่งบอกแนวทางเล็ก ( 0.01 ) กลาง ( 0.06 ) และขนาดใหญ่ ( 0.14 ) ขนาดผลา
ข้อมูลนี้แสดงถึงประชากรพลเรือน .